PNA ทุ่มอัพเกรดโรงงานบางชัน รับจ้างพ่นสีตัวถัง-ประกอบลอนดอนแท็กซี่

พีเอ็นเอ กรุ๊ป เดินหน้าเท 4 พันล้าน หวังพัฒนาธุรกิจรับจ้างประกอบครบวงจร ปัดฝุ่นโรงงานบางชันฯขึ้นไลน์เอเชีย แค็บ โมเดลแรก “AS4” ทำลอนดอนแท็กซี่ และประกอบตัวถัง-พ่นสี ให้แบรนด์ยุโรป แย้มไตรมาส 2 พร้อมเดินเครื่อง

นายวันชัย จึงสงวนพรสุข กรรมการบริหาร บริษัท กลุ่มพระนครยนตรการ (PNA) เปิดเผย “ประชาชาติธุรกิจ” ถึงแผนรุกธุรกิจของพีเอ็นเอ กรุ๊ป ในช่วง 3 ปี ที่ผ่านมา ว่า บริษัทได้ลงทุนมากกว่า 4,000 ล้านบาท เพื่อเสริมกลุ่มธุรกิจเดิมให้ครบวงจร และรองรับกับความต้องการของลูกค้าได้มากขึ้น โดยเฉพาะโรงงานบางชันเยนเนอเรลเอเซมบลี จะใช้งบฯราว ๆ 1,000 ล้านบาท เพื่อปรับปรุงและเตรียมความพร้อมด้านเทคโนโลยีรองรับการผลิตให้กับลูกค้า 2 ราย ได้แก่ ประกอบรถลอนดอนแท็กซี่ ให้กับบริษัท เอเชีย แค็บ จำกัด บริการรถแท็กซี่สาธารณะซึ่งร่วมมือกับ Zhejiang Geely New Energy Commercial Vehicle Group ค่ายรถยักษ์ใหญ่ จากประเทศจีน ภายใต้แบรนด์ “ASIA CAB”รุ่น AS4 และทำสีและตัวถังให้กับรถยนต์ยุโรปยี่ห้อหนึ่ง ซึ่งคาดว่าจะเริ่มดำเนินการได้ราวไตรมาส 2

“วันนี้ กลุ่มพระนครฯของเรายังคงยืนยันนโยบายเดิมที่จะทำธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับสิ่งที่เราถนัดเท่านั้น โดยตลอดช่วงระยะเวลาหลายปีที่ผ่านมาธุรกิจต้องมีการปรับตัวและอัพเกรดตัวเอง เพื่อพัฒนา และสร้างมูลค่าเพิ่มให้ได้มากที่สุด” นายวันชัยกล่าว

สำหรับการลงทุนหลัก ๆ เป็นการลงทุนเพื่อรับงานของเมอร์เซเดส-เบนซ์ (ประเทศไทย) จำกัด มูลค่า 3,000 ล้านบาทแบ่งเป็นการลงทุน 3 เฟส โดยล่าสุดได้ปรับปรุงพื้นที่ย่านถนนบางนา-ตราด กม.19 ซึ่งก่อตั้งขึ้นภายใต้การลงทุนระหว่างเมอร์เซเดส-เบนซ์ (ประเทศไทย) และเดมเลอร์ เอจี ด้วยงบฯการลงทุนกว่า 381 ล้านบาท ตั้งอยู่บนพื้นที่ 16,300 ตารางเมตร

โดยแบ่งเป็นพื้นที่ของอาคารฝึกอบรม 2 ชั้น รวม 12,400 ตารางเมตร ประกอบด้วยห้องฝึกอบรมแบบอเนกประสงค์สำหรับฝึกภาคทฤษฎี 28 ห้อง ห้องปฏิบัติการ 10 ห้องสำหรับการเรียนรู้ด้านการปฏิบัติการและการซ่อมตัวถังและสี รวมถึงพื้นที่จำลองโชว์รูมเสมือนจริงเพื่อให้พนักงานสามารถสัมผัสประสบการณ์การขาย และการให้บริการหลังการขายได้อย่างสมจริง

บริษัทได้ลงทุนเฟสที่ 1-2 “ศูนย์เตรียมรถยนต์ใหม่” หรือ vehicle preparation center (VPC) ให้กับเมอร์เซเดส-เบนซ์ บนพื้นที่กว่า 100,000 ตารางเมตร ที่ตั้งของศูนย์อยู่ที่ถนนบางนา-ตราด กม.30

จุดประสงค์ก็เพื่อเพิ่มคุณภาพการตรวจสอบรถยนต์ก่อนส่งมอบ หรือ pre deliveryinspection (PDI) ซึ่งสามารถรองรับการตรวจสอบมากกว่า 20,000 คันต่อปี เป็นระยะเวลา 10 ปี คือ 2561-2570 ด้วย

ก่อนหน้านี้นายสมศักดิ์ ดารารัตนโรจน์ ประธานกรรมการบริหารกลุ่ม ซี.เอ.เอส และประธานกรรมการ บริษัท เอเชีย แค็บ จำกัด เคยเปิดเผยว่า บริษัทเตรียมเปิดตลาดรถยนต์เอเชียแค็บ รุ่น AS4 ในประเทศไทย ซึ่งจะคงไว้ด้วยรูปทรงคลาสสิกและเปี่ยมด้วยนวัตกรรมอันเป็นเอกลักษณ์จากรถลอนดอนแท็กซี่ รุ่น TX4 ที่เป็นโมเดลต้นแบบ ตัวห้องโดยสารกว้างขวางขนาด 5 ที่นั่ง แผงกั้นระหว่างคนขับและห้องโดยสาร พร้อมระบบสื่อสาร intercom เสริมราวจับสำหรับผู้สูงอายุและทางลาดสำหรับรถเข็น ปุ่ม SOS ในกรณีฉุกเฉิน รวมถึงตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ด้วยจุดชาร์จ USB และ WiFi ตลอดการเดินทาง

เอเชีย แค็บ ยังเป็นผู้ประกอบการรถแท็กซี่เพียงแห่งเดียวในโลกที่ทำธุรกิจแบบครบวงจรตั้งแต่ต้นน้ำถึงปลายน้ำคือ เริ่มตั้งแต่โรงงานประกอบรถ อบรมบุคลากร และพัฒนาเทคโนโลยีเป็นของตัวเอง

ทั้งนี้ เพื่อให้ผู้โดยสารมั่นใจในคุณภาพทุกครั้งที่ใช้บริการ ที่มุ่งเน้นเรื่องความปลอดภัย สะอาด สะดวกสบาย ในราคาที่จับต้องได้

“เรามีแผนพัฒนาระบบไอทีและแอปพลิเคชั่นเพื่อการให้บริการที่สะดวกรวดเร็ว เข้าถึงทุกพื้นที่ เป็นมิตรกับผู้ใช้งาน และตอบโจทย์ในทุกการบริการที่เหนือระดับจากรถบริการสาธารณะทั่วไป และนี่เป็นอีกหนึ่งจุดแข็งที่ทำให้เราได้รับการสนับสนุนจากบริษัทข้ามชาติ”

สำหรับ เอเชีย แค็บ มีกำลังผลิตได้ถึง 1,800 คัน เพื่อเตรียมให้บริการรถแท็กซี่พรีเมี่ยมแบบครบวงจรพร้อมระบบเรียกรถผ่านแอปพลิเคชั่น คาดว่าในปีนี้จะได้เห็นรถลอนดอนแท็กซี่ในแบบของไทย มาตรฐานสากลมาวิ่งให้บริการได้อย่างแน่นอน