116 ปี “โรลส์-รอยซ์” กับบททดสอบครั้งใหญ่ที่สุด

4 พฤษภาคม โรลส์-รอยซ์ มอเตอร์ คาร์ส ได้จารึกเรื่องราวบทใหม่ ในหน้าประวัติศาสตร์อันยาวนานของแบรนด์อีกครั้ง หากย้อนกลับไปเมื่อปี พ.ศ. 2447 ชาร์ลส์ โรลส์ ได้พบกับ เฮนรี่ รอยซ์ เป็นครั้งแรกที่โรงแรมมิดแลนด์ (Midland) ในเมืองแมนเชสเตอร์ ซึ่งเป็นการพบกันที่ทำให้แวดวงยนตรกรรมและความหรูหราไม่เหมือนเดิมอีกต่อไป และนับเป็นความลงตัวทางประวัติศาสตร์ เมื่อฐานการผลิต ณ Home of Rolls-Royce ได้กลับมาเปิดทำการอีกครั้งในวันที่ 4 พฤษภาคม ซึ่งเป็นวันที่โรลส์ได้เอ่ยถึงรอยซ์เป็นครั้งแรกว่า “ผมได้พบวิศวกรที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในโลกแล้ว”

ภายใต้วิสัยทัศน์เดียวกัน โรลส์และรอยซ์ ร่วมงานเพื่อสร้างอนาคตอันน่าทึ่งให้กับธุรกิจยานยนต์ เฮนรี่ รอยซ์ เป็นวิศวกรผู้หลงใหลในความสมบูรณ์แบบ และความซื่อตรงต่อจริยธรรมในการทำงาน ซึ่งต่อมาได้กลายมาเป็นแก่นของปรัชญา โรลส์-รอยซ์ ที่ว่า “จงนำด้านที่ดีสุดของสิ่งที่มีอยู่ออกมา แล้วทำให้ดียิ่งขึ้น” ชาร์ลส์ โรลส์ ผู้มาจากครอบครัวชนชั้นสูง เป็นนักขับรถยนต์ที่ประสบความสำเร็จและมีประสบการณ์ในธุรกิจค้ารถยนต์นำเข้า โคลด จอห์นสัน ได้ก้าวเข้ามารับบทเป็นกรรมการผู้จัดการของโรลส์-รอยซ์ และสร้างชื่อเสียงให้กับบริษัทที่เป็นเสมือนลูกนกหัดบิน ให้เป็นที่รู้จัก

ตลอดระยะเวลา 116 ปีที่ผ่านมา บริษัทที่พวกเขาร่วมกันก่อตั้ง เผชิญกับความท้าทายและความยากลำบากนานัปการ แม้ในช่วงที่บริษัทเพิ่งเริ่มต้น

โรลส์-รอยซ์ ต้องรับมือกับไข้หวัดสเปนที่แพร่ไปทั่วโลกในปี พ.ศ. 2461 ซึ่งเป็นการระบาดใหญ่ที่ร้ายแรงที่สุดในศตวรรษที่ 20 และในทศวรรษต่อมา บริษัทก็สามารถยืนหยัดฝ่าวิกฤตได้อีกครั้ง เมื่อเกิดสภาวะเศรษฐกิจตกต่ำครั้งใหญ่ ที่สร้างความเสียหายมหาศาลต่อเศรษฐกิจโลก ตลอดระยะเวลาหลายปีที่ผ่านมา โรลส์-รอยซ์ สามารถต้านทานวิกฤตเศรษฐกิจและการเมือง ทั้งในและต่างประเทศได้อย่างมั่นคงและมีเสถียรภาพ ท่ามกลางความวุ่นวายและไม่แน่นอนของโลก

ในประวัติศาสตร์ช่วงหลัง บริษัทได้ก้าวข้ามวิกฤตการเงินในปี พ.ศ. 2551 และฟื้นตัวกลับมาได้ดีกว่าเดิม พร้อมความมุ่งมั่นที่มากกว่าเคย บริษัทเผชิญหน้ากับทุกความท้าทายด้วยความหลักแหลม ความทุ่มเท ความกล้า และความเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกัน แม้โควิด-19 อาจเป็นบททดสอบครั้งใหญ่ที่สุด เท่าที่โรลส์-รอยซ์เคยประสบ แต่บริษัทก็ได้พิสูจน์แล้วว่าสามารถรับมือได้เหมือนในอดีตที่ผ่านมา

สำหรับครอบครัวโรลส์-รอยซ์ในปัจจุบัน การทำงานจากที่บ้านอาจเป็นประสบการณ์ใหม่ แต่สำหรับเซอร์เฮนรี่ รอยซ์ กลับเป็นเรื่องที่แสนจะปกติ เพราะผลงานออกแบบที่ทรงอิทธิพลที่สุดบางส่วนของเขา ถูกรังสรรค์ขึ้นในสตูดิโอส่วนตัวที่บ้านในเอล์มสเตด เวสต์วิตเทอริง (Elmstead, West Wittering) ซึ่งห่างจากสำนักงานใหญ่และฐานการผลิตในปัจจุบันเพียง 8 ไมล์

ความสันโดษอันสงบเงียบ การได้ทำงานในสถานที่ห่างไกลจากความวุ่นวายของสำนักงานและโรงผลิต ช่วยให้แรงบันดาลใจและพลังงานสร้างสรรค์ของรอยซ์ปรากฏเด่นชัด ซึ่งมีเรื่องราวที่โด่งดังมากเกี่ยวกับการทำงานของเขา โดยขณะกำลังเดินอยู่ที่ชายหาดใกล้บ้าน เขาได้วาดภาพแรกของเครื่องยนต์อากาศยาน R-series บนพื้นทรายด้วยไม้เท้า ซึ่งต่อมาได้พัฒนากลายเป็นเครื่องยนต์รุ่นเมอร์ลิน (Merlin) อันเลื่องชื่อ ในฐานะขุมพลังของเครื่องบินขับไล่

ซูเปอร์มารีน สปิตไฟร์ ในตำนานสตูดิโอที่บ้านของรอยซ์เป็นแหล่งกำเนิดของอีกหนึ่งเครื่องยนต์ ซึ่งมีบทบาทสำคัญในบันทึกความสำเร็จด้านการบินไม่แพ้กัน โดยช่วงปี พ.ศ. 2462 เครื่องยนต์ “อีเกิล 8” มอบพลังขับเคลื่อนให้กับการบินข้ามมหาสมุทรแอตแลนติกครั้งแรก จากเซนต์จอห์นส์, นิวฟาวด์แลนด์ ไปยังเคาน์ตี กัลเวย์ ในประเทศไอร์แลนด์ โดยนักผจญภัยชาวอังกฤษ กัปตัน “จอห์น อัลค็อก” และร้อยโท “อาร์เธอร์ บราวน์” ซึ่งปี 2562 ที่ผ่านมา โรลส์-รอยซ์ มอเตอร์ คาร์ส ก็ได้ฉลองครบรอบ 100 ปี แห่งความสำเร็จอันน่าทึ่งนี้ ด้วยการผลิตยนตรกรรมคอลเล็กชั่นพิเศษ “เรธ อีเกิล 8” ผลิตจำกัด 50 คันทั่วโลก