ค่ายเอ็มจีเดินหน้าต่อยอดความสำเร็จ ด้วยการแนะนำรถยนต์ปลั๊ก-อิน ไฮบริดรุ่นแรก ออกสู่ตลาดประเทศไทย จับ “เอชเอส” ตัวเดิมใส่มอเตอร์ไฟฟ้า พร้อมช่องเสียบปลั๊กชาร์จไฟ
ด้วยรูปร่างหน้าตาของรถคันนี้ เมื่อเทียบกับเวอร์ชั่นปกติ ไม่ได้มีความแตกต่างกันมากนัก แต่หัวใจของการทำงาน คือขุมพลังของเครื่องยนต์ ที่มีมอเตอร์ไฟฟ้าเข้ามาทำงานด้วย
- พระราชประวัติ เจ้าฟ้าทีปังกรรัศมีโชติฯ วันคล้ายวันประสูติ 29 เมษายน
- “มะพร้าว” ราคาพุ่งเป็นประวัติการณ์ ลูกเดียว 65-80 บาท เกิดอะไรขึ้น?
- กองทุนประกัน อนุมัติจ่ายเงิน 7.29 พันล้าน มี.ค.-เม.ย. รับรองมูลหนี้เพิ่ม 560 ล้าน
รถคันนี้มาพร้อมระบบ HAIRPIN WINAING TECHNOLOGY เทคโนโลยีเดียวกับรถสปอร์ต ทำให้มอเตอร์ไฟฟ้าสามารถดึงสมรรถนะของการส่งกำลังมาใช้ได้อย่างมีประสิทธิภาพ มาพร้อมระบบระบายความร้อนด้วย COOLANT ซึ่งดีกว่าระบบระบายความร้อนแบบปกติ
เครื่องยนต์ยังเป็นเบนซิน 1.5 ลิตรเทอร์โบ ใช้เกียร์ EDU II 10 สปีด มีให้เลือก 3 โหมดขับขี่ ได้แก่ KERS MODE ที่จะช่วยชาร์จพลังงานกลับเข้าสู่แบตเตอรี่ในขณะที่ชะลอรถ
ตั้งค่าได้ 3 ระดับ สามารถสั่งการได้ที่ก้านพวงมาลัย EV MODE เลือกขับขี่ด้วยพลังงานไฟฟ้า 100% ได้ไกลสูงสุดถึง 67 กิโลเมตรต่อการชาร์จเต็ม 1 ครั้ง
และ SUPER SPORT MODE สามารถขับขี่เร้าใจได้เพียงปลายนิ้วสัมผัส เพิ่มทั้งความแรงและน้ำหนักพวงมาลัยได้ดังใจ ส่วนอัตราเร่งของรถคันนี้ 0-100 แค่ 7.5 วินาที ด้วยเทคโนโลยีการขับเคลื่อนที่ผสานระหว่างเครื่องยนต์และมอเตอร์ไฟฟ้า
ทำให้มีแรงม้าสูงสุด 284 แรงม้า ที่แรงบิด 480 นิวตัน-เมตร ส่วนปล่อยค่าไอเสียมีเพียง 36 กรัมต่อกิโลเมตรเท่านั้น
แน่นอนว่า เอ็มจียังนำเอาระบบ I-SMART ระบบปฏิบัติการอัจฉริยะจากเอ็มจีเข้ามาไว้ในรถคันนี้ เพื่อให้ผู้ขับสามารถสื่อสารกับรถเสมือนเป็นหนึ่งเดียวกัน ด้วยเทคโนโลยี AI สั่งการด้วยเสียง และจอทัชสกรีน หรือสั่งงานผ่านแอปพลิเคชั่น
ไม่ว่าจะเป็นระบบ SMART CHECK ที่สามารถตรวจสอบสถานะแบตเตอรี่ และการชาร์จ รวมทั้งสามารถช่วยค้นหาสถานีชาร์จได้ ทั้งยังสามารถสั่งการให้ล็อก หรือปลดล็อกประตู
ตรวจสอบตำแหน่งรถ ตรวจสอบความผิดปกติและแจ้งสถานะการทำงานของรถ เช่นลมยาง เครื่องยนต์ ระบบเบรก, ระบบ SMART COMMAND สามารถสั่งการด้วยเสียงเป็นภาษาไทย เช่น เปิด-ปิดหน้าต่าง, ซันรูฟ, กระจก การควบคุมระบบปรับอากาศ, เอ็มจี เอชเอส ปลั๊ก-อิน ไฮบริด มี 3 สี สวยเลือกได้ทุกตัวครับ