สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ จำกัด แถลงผลประกอบการปี 2020 ปรากฏว่าทำกำไรสุทธิเพิ่มขึ้น 10.3%
แม้ว่าทั้งโลกจะต้องเผชิญกับการระบาดของไวรัสโควิด และยังมั่นใจว่า ในปี 2021 แม้อุตฯยานยนต์จะต้องประสบปัญหาการผลิตขาดแคลนเซมิคอนดักเตอร์อย่างต่อเนื่องก็ตาม
- ด่วน! โปรดเกล้าฯ แต่งตั้ง ครม.เศรษฐา 1/1 รัฐมนตรีใหม่ 13 ตำแหน่ง
- ล้งกระหน่ำทุบราคามังคุด จากโลละ 200 เหลือ 60 บาท
- ทูลเกล้า 11 รายชื่อคณะรัฐมนตรี เศรษฐา 1/1 ออก 4 เข้าใหม่ 6 ตำแหน่ง
รายงานข่าวยืนยันว่า โควิดซึ่งระบาดใหญ่ทั่วโลก ส่งผลกระทบต่อผู้ผลิตรถยนต์อย่างหนัก ทำให้ความต้องการใช้รถลดลง เนื่องเพราะส่วนใหญ่อยู่บ้าน ทำงานที่บ้าน และแต่ละคนมีรายได้ลดลง ในขณะที่รายจ่ายเพิ่มมากขึ้น
ผู้บริหารของโตโยต้ากล่าวว่า “แม้ว่ายอดขายจะลดลงในช่วงครึ่งแรกของปี เนื่องจากผลกระทบของไวรัสโควิด แต่ในช่วงครึ่งหลังของปีเรามียอดขายเพิ่มขึ้นในหลายภูมิภาค โตโยต้าสร้างรายได้ 2.25 ล้านล้านเยน หรือราว 20.6 พันล้านดอลลาร์ ในปีงบประมาณถึงเดือนมีนาคมเพิ่มขึ้นจาก 2.04 ล้านล้านเยนในปีก่อน
ปัจจัยที่ยังทำให้โตโยต้ามีกำไรในช่วงวิกฤตด้านสาธารณสุข และเศรษฐกิจที่กำลังชะลอตัว เพราะโตโยต้ายังคงมีการผลิตอย่างต่อเนื่อง และมีการคลอดรถรุ่นใหม่ที่ตลาดและลูกค้าต้องการ โดยเฉพาะตลาดหลัก ๆ
ซึ่งโตโยต้าใช้ความสัมพันธ์ใกล้ชิดกับซัพพลายเออร์หลายราย ทำให้ปัญหาการขาดแคลนชิปไม่กระทบกระเทือนไลน์การผลิตของโตโยต้า หรือทำให้ต้องหยุดชะงักเหมือนคู่แข่งอื่น ๆ ส่งผลให้หุ้นโตโยต้าดีดตัวขึ้นอย่างรวดเร็ว จากการขาดทุนก่อนหน้านี้ และพุ่งขึ้น 2.25% สู่ 8,529 เยนในการซื้อขายช่วงบ่ายกลางสัปดาห์ที่ผ่านมา
ทั้งนี้โตโยต้ายังสามารถครองตำแหน่งผู้ผลิตรถยนต์ที่มียอดขายสูงสุดของโลก มียอดขาย 9.53 ล้านคันทั่วโลกแซงหน้าโฟล์คสวาเกนคู่แข่งจากเยอรมนีที่มียอดขายแค่ 9.3 ล้านคัน
นักวิเคราะห์หลายรายยังให้จับตาว่า ผลประกอบการปี 2021 โตโยต้าก็น่าจะทำผลงานได้ดีขึ้นอีก จากการวิจัยและพัฒนา โดยเฉพาะการเร่งผลิตรถยนต์ไฟฟ้า
โดยเมื่อเร็ว ๆ นี้ โตโยต้าซึ่งเป็นผู้บุกเบิกรถยนต์ไฮบริด ได้เปิดเผยแผนสำหรับรถยนต์ไฟฟ้า 100% รุ่นแรกของโลก และเมื่อปลายเดือนที่แล้วในงานเซี่ยงไฮ้ ออโต โชว์ บริษัทได้ประกาศสายการผลิตแบรนด์ bZ หรือ Beyond Zero ซึ่งจะมีรถยนต์ถึง 7 รุ่นเข้าออกสู่ตลาดภายในปี 2568