CP FOTON เข้มบริการหลังขาย ส่งโมบายเซอร์วิส ดูแลลูกค้าถึงหน้าไซต์งาน

CP FOTON เติมเต็มบริการหลังขาย เพิ่มโมบายเซอร์วิส ดูแลลูกค้าถึงหน้าไซต์งาน เผยยอดขายปี 64 โตกว่า 221% ปลื้มรถบรรทุก EVกระแสตอบรับท่วมท้น ลั่นปีนี้กวาดยอด 600 คัน

นายกฤษณะ เศรษฐธรางกูร กรรมการผู้จัดการ บริษัท ซีพี โฟตอน เซลส์ จำกัด ผู้นำเข้าและจำหน่ายรถเพื่อการพาณิชย์แบรนด์ “CP FOTON” เปิดเผยถึงภาพรวมในการดำเนินธุรกิจในปี 2564 ว่าแม้ต้องเจออุปสรรคมากมายจากโรคระบาดCOVID-19 รวมถึงวิกฤติเศรษฐกิจทั่วโลก ที่ส่งผลกระทบต่อธุรกิจเกือบทุกประเภท แต่ด้วยความมุ่งมั่น และการสนับสนุนที่ดีจากผู้แทนจำหน่ายฯ ทำให้ CP FOTON เติบโตขึ้นเพิ่มขึ้นมากกว่าเท่าตัว สามารถทำยอดขายรวมปี 64 ได้ทั้งหมด 310 คัน หรือเติบโตขึ้น 221% ขณะที่ ในประเทศจีนเอง “โฟตอน มอเตอร์” ยังคงเดินหน้าสร้างยอดขายเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง และครองแชมป์อันดับ 1 ในอุตสาหกรรมรถเพื่อการพาณิชย์ของประเทศจีนติดต่อกันถึง 17 ปีซ้อน จากยอดขายล่าสุด ทั้งปี 2564  ของ บริษัท โฟตอนมอเตอร์ จำกัด ทำยอดขายไปได้ทั้งหมด 650,018 คัน มีส่วนแบ่งในตลาดรถเพื่อการพาณิชย์ในประเทศจีนอยู่ที่ 13.41% จากยอดขายรวมรถเพื่อการพาณิชย์ในประเทศจีนทั้งตลาด 4,793,000 คัน ซึ่งแสดงให้เห็นว่าลูกค้ามีเชื่อมั่นในมาตรฐาน ความทนทาน ที่ตอบโจทย์การใช้งานได้หลากหลายพร้อมขับเคลื่อนธุรกิจด้วยคุณภาพระดับเวิลด์คลาส

 

นายกฤษณะ กล่าวต่อว่า ภายหลังจากที่ CP FOTON ได้เปิดตัวนวัตกรรมใหม่ซึ่งเป็นรถบรรทุกพลังงานไฟฟ้า (EV)เป็นเจ้าแรกของเมืองไทย ปลายปี 2564 ที่ผ่านมายังได้รับการตอบรับที่ดีจากลูกค้าอย่างไม่หยุดยั้ง ทั้งรถบรรทุก 4 ล้อไปจนถึงรถบรรทุกหัวลากขนาดใหญ่ ซึ่งทั้งภาครัฐและภาคเอกชนตลอดจนผู้ประกอบการขนส่ง ต่างให้ความสนใจและสั่งซื้ออย่างต่อเนื่องเบื้องต้นคาดว่าจะสามารถเริ่มทยอยส่งมอบได้ในช่วงกลางปี 2565 ตั้งเป้าจำหน่ายรถเพื่อการพาณิชย์ไว้ที่ 600 คัน โดยจะใช้กลยุทธ์ ดังนี้ 1.มุ่งเน้นในการสร้างความมั่นใจให้กับลูกค้าด้วยการมอบบริการหลังการขายที่ดี ทั้งการส่งรถโมบายเซอร์วิส ออกบริการให้กับลูกค้านอกสถานที่หรือที่หน้าไซต์งานเพื่อให้ลูกค้าสามารถซ่อมบำรุงรักษารถได้โดยไม่ต้องนำรถเข้าที่มาศูนย์บริการ และไม่ต้องเสียโอกาสในการสร้างรายได้จากการใช้งานของรถตลอดจนการให้คำปรึกษาในเรื่องการใช้งานของรถที่เหมาะสมกับธุรกิจอีกด้วย

2.การสร้างเครือข่ายผู้แทนจำหน่ายและศูนย์บริการ 30 แห่งให้คลอบคลุมทั่วประเทศ ทั้งหัวเมืองใหญ่ และหัวเมืองรองรวมทั้งจังหวัดที่อยู่เชื่อมกับเขตชายแดนตลอดจนเพิ่มจำนวนรถโมบายเซอร์วิสเพื่อให้เข้าถึงลูกค้าที่อยู่ตามพื้นที่นอกเมือง คาดว่าภายในไตรมาส 1/65จะสามารถขยายเพิ่มได้อีก 5 แห่ง

3.การสร้างการรับรู้ผ่านคุณภาพและนวัตกรรมของรถโดยจะมีการเปิดตัวรถบรรทุก 4 ล้อโฉมใหม่ ที่สามารถใช้แทนรถกระบะซึ่งจะตอบโจทย์กับผู้ประกอบการขนส่งได้เป็นอย่างดีและมีความเหมาะสมในการใช้เป็นรถส่วนบุคคลได้อีกด้วย พร้อมกันนี้ยังมีรถ Mixer ระดับเวิลด์คลาสตั้งแต่ขนาด 3-6 คิวที่จะส่งรุกตลาดวงการก่อสร้างให้สอดรับกับนโยบายการด้านโครงสร้างพื้นฐานซึ่งขณะนี้มีบริษัทเอกชนรายใหญ่มาซื้อไปใช้งานแล้วหลายราย