รักษ์โลกไปกับ เมอร์เซเดส-EQS 450+ วิ่งได้ไกล 700 กม.

EQS 450+
คอลัมน์ : เทสต์ คาร์
ผู้เขียน : วุฒิณี ทับทอง

ต้องบอกว่าประทับใจจริง ๆ หลังจากได้สัมผัสกับเจ้ารถยนต์ไฟฟ้า เมอร์เซเดส-EQS 450+ จากค่ายเมอร์เซเดส-เบนซ์

ซึ่งเบนซ์ ไทยแลนด์ ได้ประกาศความชัดเจนเอาไว้แล้วว่า โรงงานธนบุรีประกอบรถยนต์ บ้านเราจะได้รับสิทธิในการประกอบรถยนต์รุ่นนี้อย่างแน่นอน

ตามแผนงานน่าจะได้เห็นรถคันนี้ตัวเป็น ๆ ในช่วงปลายปี 2565

EQS 450+

ล่าสุด “ประชาชาติธุรกิจ” มีโอกาสทดลองขับเมอร์เซเดส EQS 450+ เวอร์ชั่นซีบียู ที่ทางเบนซ์นำเข้ามาให้เราได้ยลโฉมและเปิดโอกาสให้ขับบนเส้นทางกรุงเทพฯ-เขาใหญ่ ตามสเป็กรถคันนี้ขับได้ไกลกว่า 700 กิโลเมตรต่อการชาร์จไฟฟ้า 1 ครั้ง

แรกเริ่มรถคันนี้ถูกออกแบบและพัฒนาเพื่อให้เป็นรถยนต์ไฟฟ้าโดยเฉพาะ ดังนั้นการออกแบบจึงทำออกมาให้เหมาะกับรถยนต์ไฟฟ้าจริง ๆ อาทิ กระจังด้านหน้า ถ้าสังเกตให้ดี ๆ เป็นแบบ “ปิด” ไม่มีช่องว่างให้อากาศเล็ดลอดเข้าไป ต่างจากกระจังหน้าของรุ่นที่เป็นเครื่องยนต์สันดาป ซึ่งทีมงานบอกว่าช่วยในเรื่องของแอโรไดนามิก

EQS 450+

ส่วนหน้าตาของเมอร์เซเดส 450+ คันนี้ มองผาด ๆ ไม่ได้แตกต่างจากเอสคลาสที่ใช้เครื่องยนต์ ไฟหน้าแบบดิจิทัล ให้แสงส่องสว่างชัดเจน และสวยงาม การออกแบบรอบคันนั้นถือว่า ลงตัว ไม่ได้ดูล้ำไปไกล แต่ดูทันสมัย ให้ความรู้สึกเหมือนรถยนต์ทั่วไปไม่ได้แตกต่าง ยิ่งการออกแบบที่มาในสไตล์คูเป้เล็กลงตัวและสวยงาม หลังคาเป็นพาโนรามิกซันรูฟ กระจกหน้าต่างทั้ง 4 บาน เป็นกระจกแบบไร้กรอบ

EQS 450+

ภายในห้องโดยสารไฮไลต์หลักคือ หน้าจอใหญ่ ๆ 3 จอเป็นแผงยาวบริเวณคอนโซลหน้า ให้ความหรูหราอลังการ จอแยกเป็น 3 ส่วน คือ จอผู้โดยสารด้านหน้า จอตรงกลาง และจอหลังพวงมาลัย ซึ่งแต่ละจอจะทำหน้าที่แสดงชุดข้อมูลต่าง ๆ พร้อมแยกการแสดงผลให้สอดคล้องกับการใช้งาน

โดยจอของผู้โดยสารนั้นยังเพิ่มระบบความปลอดภัย จะใช้งานได้ต่อเมื่อผู้โดยสารตอนหน้าเป็นผู้สั่งการเท่านั้น คนขับจะเอื้อมมือไปสั่งการใด ๆ นั้นทำไม่ได้

EQS 450+

รถคันนี้ยังมีความล้ำของเทคโนโลยี ด้วยกล้องหลังพวงมาลัย คอยตรวจจับใบหน้าผู้ขับ หากพบว่าผู้ขับหลับตา สลบ หรือละมือออกจากพวงมาลัย ระบบจะสั่งงานให้รถชะลอความเร็วทันที พร้อมค่อย ๆ ขยับชิดซ้ายและเบรกอัตโนมัติ และการตรวจจับใบหน้า หากตรงกับที่ลงทะเบียนไว้ เมื่อเข้ามานั่งหลังพวงมาลัย รถจะปรับตําแหน่งของเบาะ-พวงมาลัย-กระจกมองข้าง รวมถึงแสงไฟในรถให้ด้วย เรียกว่า ไฮเทคสุด ๆ

เสียดายไปนิด…ในส่วนของประตูของรถคันนี้ไม่ได้นำระบบดูดประตูเข้ามาให้

EQS 450+

ส่วนด้านท้ายของห้องเก็บสัมภาระนั้นกว้างขวาง เนื่องจากแบตเตอรี่ถูกออกแบบนำไปไว้ที่ด้านใต้ของเบาะที่นั่ง ทำให้มีพื้นที่เหลือเฟือทั้งห้องบรรทุกสัมภาระ และห้องโดยสาร

ล้อออกแบบมาสำหรับรุ่นนี้โดยเฉพาะ ให้ความสวยงามไปอีกแบบ

ส่วนระบบความปลอดภัยด้านหน้า ทั้งการเตือนการชน, เบรกอัตโนมัติ, กล้องมองรอบคัน เรียกว่าระบบความปลอดภัยต่าง ๆ มีมาครบ

EQS 450+

จากจุดสตาร์ต ย่านสาทร ดูหน้าปัดเรือนไมล์ แจ้งระยะทางการขับขี่ของรถคันนี้ไว้กว่า 700 กิโลเมตร ซึ่งถือว่าเพียงพอกับระยะทางวิ่งไป-กลับได้เหลือ ๆ กับเเบตเตอรี่ลิเทียมไอออนขนาด 107.8 กิโลวัตต์

กำลังของรถคันนี้ขับเคลื่อนด้วยมอเตอร์ ให้กำลังสูงสุด 333 แรงม้า กับแรงบิด 568 นิวตัน-เมตร เรียกว่าพละกำลังมหาศาล ส่วนอัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ตามสเป็กทำได้ 6.2 วินาที

ฟีลลิ่งในการขับขี่ โดยส่วนตัวมองว่าไม่ได้แตกต่างจากเอสคลาสที่ใช้เครื่องยนต์มากนัก เรียกว่ารถคันนี้ให้ความรู้สึกเป็นธรรมชาติ มากกว่ารถยนต์ไฟฟ้าหลายคัน

EQS 450+

โหมดการขับขี่มีให้ 3 โหมด คือ Eco, Comfort และ Sport เลือกตามความต้องการ

ติดนิดเดียวคือ ระบบเบรก ที่ยังคงมีความดื้อเท้า ตามบุคลิกของรถยนต์ไฟฟ้า แต่ใช้เวลาทำความคุ้นชินก็ใช้งานง่ายขึ้น

ส่วนการชาร์จไฟเข้าไปยังรถคันนี้ จุดชาร์จไปอยู่ในตำแหน่งเดียวกับที่เติมน้ำมัน รถคันนี้สามารถรองรับการชาร์จไฟฟ้าสูงสุดได้ 200 กิโลวัตต์เลยทีเดียว แต่บ้านเราส่วนใหญ่จะเป็นขนาด 150 หรือ 120 กิโลวัตต์ ก็ถือว่าสูงสุดแล้ว ซึ่งทำให้รถคันนี้ไร้ปัญหา แม้จะเป็นรถยนต์ที่ขับเคลื่อนด้วยพลังงานไฟฟ้า แต่ต้องไม่ลืมว่า อัตราการสิ้นเปลืองของพลังงาน “ไฟฟ้า” ก็เป็นไปตามแรงเท้ากดคันเร่ง กดมากเปลืองมาก กดน้อยเปลืองน้อย

EQS 450+

เส้นทางที่เราทดสอบครั้งนี้รวม 200 กิโลเมตร ดูปริมาณแบตเตอรี่ใช้ไป 30% และยังเหลือระยะทางให้เราขับขี่ได้เกือบ 500 กิโลเมตรต่อชั่วโมง

แบบนี้เรียกว่าเดินทางกันได้แบบสบาย ๆ หายห่วง

EQS 450+

โดยรวม ๆ ความหรูหราภายในห้องโดยสารนั้นไม่ได้มาเต็ม เหมือน S-Class เพราะ EQS 450+ คันนี้ออกแบบมาเน้นความสปอร์ต เจ้าของเหมาะกับการขับใช้งานเองมากกว่า ดังนั้น อุปกรณ์อำนวยความสะดวกต่าง ๆ จึงมีมาแค่เพียงพอกับการใช้งาน แต่ก็ไม่ได้ขี้เหร่ ยังคงความเป็นพรีเมี่ยมเหนือระดับไว้

EQS 450+

ถามว่า รถยนต์ไฟฟ้า EQS 450+ คันนี้ น่าใช้ไหม ตอบว่า ฟีลลิ่งการขับขี่ได้ขนาดนี้ กับระยะทางที่วิ่งได้ระดับ 600-700 กิโลเมตรต่อการชาร์จไฟฟ้า 1 ครั้ง บอกเลยว่า “น่าสนใจมาก ๆ”

พูดให้ชัด คนที่ต้องการความสะดวกสบาย ออปชั่นแน่น ๆ ความหรูหรา ให้ไปที่ S-Class

แต่ถ้าต้องการความกระชับ ความสนุกในการขับขี่ ต้องรถคันนี้

EQS 450+

เหลือแค่รอลุ้นราคาว่า เมอร์เซเดส ไทยแลนด์ จะทำราคาออกมาเท่าไหร่ ปลายปีนี้ได้รู้กัน

ถ้าอยู่ระดับ 7 ล้านนิด ๆ รับรองว่า โรงงานธนบุรีประกอบรถยนต์ ผลิตไม่ทันแน่ ๆ