คอลัมน์ : SD Talk
ไม่นานผ่านมา “รศ.นพ.สุรศักดิ์ ลีลาอุดมลิปิ” ผู้อำนวยการโรงพยาบาลรามาธิบดี และ “วชิระชัย คูนำวัฒนา” Head of Smart System Solution Business บริษัท เอสซีจี ซิเมนต์-ผลิตภัณฑ์ก่อสร้าง จำกัด ร่วมแสดงจุดยืนความเป็นองค์กรที่ให้ความสำคัญด้านการดูแลคุณภาพอากาศภายในอาคาร โดยเฉพาะอย่างยิ่งในพื้นที่โรงพยาบาลที่ต้องให้การดูแลประชาชน และรองรับผู้ป่วยจำนวนมาก
โดยการใช้ 3 เทคโนโลยีเพื่ออากาศสะอาดปลอดภัยจากเอสซีจี ได้แก่ ระบบบำบัดอากาศเสียพร้อมลดภาระการทำงานของระบบปรับอากาศ, ระบบกรองอากาศขั้นสูงและระบบไอออนกำจัดเชื้อโรคในอากาศ รวมทั้งมีระบบตรวจวัดคุณภาพอากาศแบบ Real Time เพื่อความมั่นใจยิ่งขึ้นในคุณภาพอากาศภายในโรงพยาบาลที่ได้รับการดูแลและตรวจสอบอย่างต่อเนื่อง
- ด่วน ! วอยซ์ ทีวี ประกาศปิดกิจการทุกแพลตฟอร์ม เลิกจ้าง 100 กว่าคน
- NETA X ขาย มิ.ย.นี้ ราคาไม่เกิน 1 ล้านบาท หลัง MOU สรรพสามิต
- ลูกแม่ค้าขายผัก-พ่อขับแท็กซี่ สู่เก้าอี้ “ปลัดพลังงาน” บทพิสูจน์ชีวิต “ดร.ประเสริฐ สินสุขประเสริฐ”
“วชิระชัย” กล่าวว่า การร่วมมือกับคณะแพทยศาสตร์โรงพยาบาลรามาธิบดีครั้งนี้ ถือเป็นส่วนหนึ่งของการยกระดับคุณภาพอากาศในโรงพยาบาลให้ได้มาตรฐานที่สะอาด ปลอดภัยยิ่งขึ้น รวมถึงควบคุมให้คุณภาพอากาศภายในอาคารมีค่าความเข้มข้นของก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ (CO2) และฝุ่นละอองขนาดไม่เกิน 2.5 ไมครอน (PM 2.5) ผ่านตามค่ามาตรฐาน
ทั้งยังช่วยให้อาคารประหยัดพลังงาน โดยหน่วยงาน SCG Smart Building Solution ผู้ให้บริการโซลูชั่นด้านพลังงาน และคุณภาพอากาศที่ดีในอาคาร เพื่อคุณภาพชีวิตที่ดีอย่างยั่งยืน มีความพร้อมในการนำองค์ความรู้ ความเชี่ยวชาญ พร้อมเทคโนโลยีที่สามารถตอบโจทย์ของทางโรงพยาบาลรามาธิบดีได้
คณะแพทยศาสตร์โรงพยาบาลรามาธิบดี วางแผนดำเนินการติดตั้งโซลูชั่นเพื่อดูแลคุณภาพอากาศภายในอาคารสมเด็จพระเทพรัตน์ บริเวณคลินิกผู้ป่วยนอก ชั้น 1-4 โดยเน้นไปในเรื่องของการจัดการเชื้อโรคและมลพิษในอากาศต่าง ๆ รวมถึงฝุ่น PM 2.5 ด้วยระบบ SCG Bi-ion และ SCG Air Filter
นอกจากนี้ ยังเลือกใช้โซลูชั่นเพื่ออาคารประหยัดพลังงานและลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก พร้อมดูแลคุณภาพอากาศ ด้วยระบบ SCG Air Scrubber ซึ่งเป็นระบบบำบัดอากาศเสียในอาคาร และลดภาระการทำงานของระบบปรับอากาศ ที่สามารถลดการใช้พลังงานในอาคารได้สูงสุดถึง 30%
เพื่อเป็นต้นแบบของโรงพยาบาลที่ส่งเสริมด้านสุขภาพ และสุขภาวะที่ดีแก่ผู้ใช้บริการ รวมถึงผลักดันด้านการใช้พลังงานอย่างมีประสิทธิภาพ เพื่อมุ่งสู่ความเป็นองค์กรที่ให้ความสำคัญเพื่อโลกที่ยั่งยืนให้กับหลายหน่วยงานหรือองค์กรต่าง ๆ ต่อไปในอนาคต
“รศ.นพ.สุรศักดิ์” กล่าวเสริมว่า โดยพื้นฐานแล้วทางโรงพยาบาลเราให้ความสำคัญและตระหนักถึงความปลอดภัยของผู้มารับบริการ นอกจากในมิติทางการแพทย์การดูแลรักษา เรายังคำนึงถึงความปลอดภัยด้านสิ่งแวดล้อม เพราะฉะนั้นทีมวิศวกรรม หรืออาชีวอนามัยจะมีการเฝ้าระวังตรวจสอบพื้นที่ของโรงพยาบาลใน 3 พื้นที่หลัก ทั้งในส่วนของอาคาร ห้องผ่าตัด รวมถึงอาคารผู้ป่วยนอก เพื่อความปลอดภัยอยู่เสมอ และหากพบสิ่งผิดปกติก็จะเข้าไปแก้ไขทันที
สำหรับอาคารสมเด็จพระเทพรัตน์ซึ่งปกติแล้วจะรองรับคนไข้นอกราว 5,000 คนต่อวัน จากที่ตรวจสอบคุณภาพอากาศในอาคาร พบว่ามีค่าคาร์บอนไดออกไซด์ในอาคารสูงกว่ามาตรฐาน ซึ่งไม่ได้เป็นอันตรายถึงแก่ชีวิต
แต่ทางโรงพยาบาลมองว่าเราต้องรักษามาตรฐานอากาศในอาคารให้มีคุณภาพที่ดีและปลอดภัยอยู่เสมอ เราจึงศึกษาการไหลเวียนของอากาศ เพื่อทำให้อากาศในอาคารดีขึ้นและส่งผลให้ก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ในอาคารเจือจางลง
“ซึ่งโซลูชั่นจากทางเอสซีจีสามารถช่วยดูแลได้ทั้งด้านการดูแลคุณภาพอากาศ จากการไหลเวียน และบำบัดอากาศในอาคารไปพร้อมกับการประหยัดพลังงานจากระบบปรับอากาศ โดยสามารถลดการใช้พลังงานได้สูงสุดถึง 30% ส่งผลดีให้กับทั้งทางโรงพยาบาล ผู้มารับบริการ รวมถึงบุคลากรของโรงพยาบาลให้มั่นใจในคุณภาพอากาศในอาคารมากยิ่งขึ้น”