เงินเดือน + สารพัดค่า = Overall Package

คอลัมน์ : SD TALK 
ผู้เขียน : ธำรงศักดิ์ คงคาสวัสดิ์
https://tamrongsakk.blogspot.com

หลักการสำคัญในการทำโครงสร้างเงินเดือนคือการนำตำแหน่งงานต่าง ๆ (ไม่ใช่แค่เพียงตำแหน่งใดตำแหน่งหนึ่ง) ในแต่ละ Job Grade ไปเทียบกับตลาด (ซึ่งต้องมีข้อมูลการจ่ายเงินเดือนของตลาด) แล้วมาหาค่าเฉลี่ยใน Job Grade นั้น ๆ ว่าตลาดเขาจ่ายเงินเดือนมูลฐาน (Basic Salary) เฉลี่ยอยู่เท่าไหร่

จากนั้นจึงนำข้อมูลการจ่ายเงินเดือนมูลฐานของตลาดมาออกแบบโครงสร้างเงินเดือนโดยไม่ควรมีค่ากลาง (Midpoint) ในแต่ละ Job Grade ต่ำกว่าที่ตลาดเขาจ่ายกัน แล้วค่อยไปหากรอบการจ่ายเงินเดือนของแต่ละ Job Grade ที่เหมาะสมว่าควรจะมี Min (Minimum) หรือ Max (Maximum) เท่าไหร่ดี

เมื่อทำโครงสร้างเงินเดือนเสร็จ เราจะมีกรอบการจ่ายเงินเดือนของตำแหน่งต่าง ๆ ที่ชัดเจน และสามารถแข่งขันกับตลาดได้ แต่ต้องไม่ลืมว่าเราจะแข่งขันได้เฉพาะเรื่องการจ่ายเงินเดือนมูลฐานเท่านั้นนะครับ เพราะบางบริษัทอาจจะจ่ายเฉพาะเงินเดือนอย่างเดียว 100% แต่ยังมีบริษัทอีกไม่น้อยที่มีการจ่ายเงินเดือนให้กับพนักงานที่นอกเหนือจากเงินเดือน

เงินอื่น ๆ เหล่านี้ ผมมักจะเรียกรวม ๆ กันว่า “สารพัดค่า” เช่น ค่าครองชีพ, ค่าตำแหน่ง, ค่าภาษา, ค่าวิชาชีพ, ค่ากะ, ค่าเบี้ยขยัน, ค่าคอมมิชชั่น, ค่าบริการ, ค่าเช่าบ้าน, ค่าน้ำมัน, ค่ารถ ฯลฯ ซึ่งแต่ละบริษัทจะมีการจ่ายสารพัดค่าเหล่านี้ที่แตกต่างกัน

ดังนั้น ลองกลับมาย้อนดูบริษัทของท่านว่ามีการจ่ายเงินเดือนเพียงตัวเดียว หรือจ่ายเงินเดือน+สารพัดค่า ถ้าจ่ายเงินเดือน+สารพัดค่า บริษัทจ่ายค่าอะไรบ้าง ?

เงินเดือน+สารพัดค่านี่แหละครับ คือ Overall Package ที่จะต้องดูภาพรวมของการจ่ายทั้งหมด

ดังนั้น เมื่อทำโครงสร้างเงินเดือนเสร็จแล้ว ถึงแม้ว่าเราจะมีการจ่ายเงินเดือนจริง (Actual Basic Salary Pay) ที่แข่งขันกับตลาดได้ จ่ายเงินเดือนให้ไม่น้อยกว่าตลาดก็จริง แต่เราต้องกลับมาดู Overall Package ด้วยว่า เมื่อมองในภาพรวมการจ่ายทั้งหมด (คือ เงินเดือน+สารพัดค่า) ในตำแหน่งใด (หรือบุคคลใด) ก็ตาม เรายังแข่งกับตลาดได้หรือไม่

ยกตัวอย่าง สมมุติว่าบริษัทต้องการจะจ้างวิศวกรประสบการณ์ทำงาน 3 ปี เข้ามาทำงานในอัตราเงินเดือน 35,000 บาท ซึ่งอยู่ในกรอบของโครงสร้างเงินเดือนคือ Min=20,000 Max=50,000 Midpoint=35,000 (อันนี้เป็นตัวอย่างโครงสร้างเงินเดือนสมมุติ อย่าเอาตัวเลขนี้ไปใช้จริงนะครับ)

บริษัทจ่ายเงินเดือนตัวเดียว 100% ไม่มีสารพัดค่าอื่น ๆ แต่มีโบนัสตามผลงานเฉลี่ย 3 เดือน สมมุติว่าคู่แข่งมีการจ่ายเงินเดือนวิศวกรประสบการณ์ทำงาน 3 ปี อยู่ในอัตรา 32,000 บาท แต่มีค่าครองชีพ (Cost of Living Allowance-COLA) เดือนละ 2,000 บาท, ค่าวิชาชีพเดือนละ 3,500 บาท มีโบนัสตามผลงานเฉลี่ย 4 เดือน

เมื่อมีข้อมูลอย่างนี้แล้ว จะเห็นได้ว่าบริษัทของเรามี Overall Package เฉลี่ยเดือนละ 35,000+8,750 (35,000 คูณ 3 หาร 12 = 8,750 บาท) = 43,750 บาท ส่วนคู่แข่งจะมี Overall Package เฉลี่ยเดือนละ 32,000+10,667 (32,000 คูณ 4 หาร 12 = 10,667)+2,000+3,500 = 48,167 บาท

สรุปว่าบริษัทของเรามี Overall Package ต่ำกว่าคู่แข่งเดือนละประมาณ 4,417 บาท หรือต่ำกว่าประมาณ 10% ต่อเดือน

นี่จึงเป็นเรื่องที่ Com & Ben ต้อง Aware เอาไว้ว่า เมื่อมีโครงสร้างเงินเดือนแล้วเห็นว่าการจ่ายเงินเดือนของเราสูงกว่าตลาดก็อย่าเพิ่งชะล่าใจจนลืมดู Overall Package (Pay mix) ให้แน่ใจด้วยนะครับ ว่าเราสามารถแข่งขันได้จริง