marketthink : สรกล อดุลยานนท์
“วอร์เรน บัฟเฟตต์” เคยบอกว่าเคล็ดลับความสำเร็จของเขา คือ คำว่า “ไม่”
ในฐานะนักลงทุนใหญ่ เขาจะมีบริษัทหรือโครงการที่น่าลงทุนจำนวนมากผ่านตาตลอด
- ลูกแม่ค้าขายผัก-พ่อขับแท็กซี่ สู่เก้าอี้ “ปลัดพลังงาน” บทพิสูจน์ชีวิต “ดร.ประเสริฐ สินสุขประเสริฐ”
- เงื่อนไขปุ๋ยลดราคาเฟส 2 สูตรไหน-พืชชนิดใดบ้าง
- KBANK ปรับโครงสร้างใหญ่ ลดจำนวนบอร์ด ตั้ง 4 เอ็มดีเป็น “ผู้จัดการใหญ่” มีผล 1 พ.ค.67
ถ้าดูเผิน ๆ บริษัทต่าง ๆ ล้วนน่าลงทุนด้วยกันทั้งสิ้น
แต่ “บัฟเฟตต์” จะใช้คาถา “ไม่” ของเขาในการเลือก
ไม่-ไม่-ไม่…
จนกว่าจะเจอบริษัทหรือหุ้นตัวไหนที่ดีจริง ๆ
เขาจึงตอบว่า “ใช่”
เคล็ดลับความสำเร็จของเขา คือ “การรอคอย”
ไม่รีบตัดสินใจเร็วเกินไป
ยอมทิ้งในสิ่งที่ใคร ๆ คิดว่าเป็น “โอกาส” ไปเรื่อย ๆ
จนพบ “โอกาสที่ดีที่สุด” แล้วค่อยตัดสินใจ
ถ้า “บัฟเฟตต์” ไม่มีคาถาคำว่า “ไม่” เป็นคาถาประจำตัว
เขาคงลงทุนแบบลูกปราย
อะไร ๆ ก็ดีไปหมด
แต่เหตุผลที่เขาร่ำรวยขนาดนี้ก็เพราะเขารอคอยและเลือกเก่ง
ยิงลูกโดด ใส่หนัก ๆ กับหุ้นที่เขามั่นใจว่าดี
ผลตอบแทนจึงกลับมามหาศาล
ในมุมนี้คำว่า “ไม่” จึงเป็นคำที่ดี
แต่ในเชิงการบริหาร คำว่า “ไม่” ต้องระมัดระวังในการใช้อย่างมาก
ผมเพิ่งคุยกับนักธุรกิจใหญ่คนหนึ่ง
เขาวิจารณ์ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ว่าเป็นคนชอบหาเหตุผลมาอธิบายว่าทำไมโครงการต่าง ๆ จึงทำไม่ได้
เริ่มต้นจาก “ปัญหา” ของตัวเอง
หรือข้อจำกัดในมุมของตัวเองก่อน
แทนที่จะคิดถึง “ปัญหา” ของคนที่เดือดร้อน
และคิดหาทางแก้ปัญหา
แต่ พล.อ.ประยุทธ์มักจะอธิบายเสมอว่าโครงการนี้ทำไม่ได้ เพราะเราไม่มีเงิน
ขึ้นค่าแรงไม่ได้ เพราะไม่มีเงิน
ช่วยเกษตรกรมากไม่ได้ เพราะไม่มีเงิน
หรือพอถามว่าทำไมการแก้ปัญหาช้าก็จะอธิบายขั้นตอนการทำงาน ซึ่งส่วนใหญ่เป็นวิธีการทำงานแบบระบบราชการที่เขาคุ้นเคย
ติดขัดโน่นนี่ตลอด
เป็นเรื่องของกระทรวงนั้น เป็นเรื่องของกระทรวงนี้
จนหลายคนเริ่มสงสัยว่าแล้วเราจะมี “นายกรัฐมนตรี” ไว้ทำไม
ถ้าไม่สามารถสั่งการกระทรวงต่าง ๆ ได้
อีกประโยคหนึ่งที่คุ้นชิน คือ การอธิบายวิธีคิดว่าต้องคิดตั้งแต่ต้นน้ำถึงปลายน้ำ คิดทั้งระบบ
เพื่อจะอธิบายว่าที่งานล่าช้าเพราะเหตุนี้
ผมฟังนักธุรกิจใหญ่วิจารณ์อย่างเมามัน
ในใจก็ท่องคาถาของ “วอร์เรน บัฟเฟตต์” เป็นระยะ ๆ
ไม่-ไม่-ไม่
ไม่จริง
ผมไม่เห็นด้วยเลย
จริง ๆ นะครับ
นักธุรกิจคนนั้นบอกว่าถ้าเราเป็น “ซีอีโอ” แล้วมอบหมายโครงการอะไรให้ลูกน้องทำ
แต่ลูกน้องเดินมาบอกว่าทำไม่ได้ เพราะอะไรทุกครั้ง
หาเหตุผลที่ไพเราะมาอธิบาย เพื่อที่จะไม่ทำ
แทนที่จะเริ่มต้นคิดว่าเราจะทำโครงการนี้ให้ประสบความสำเร็จอย่างไร
หรือถ้ามีปัญหาจริง ๆ ก็ต้องคิดหา “โซลูชั่น” ที่ดีที่สุดในการแก้ปัญหาเพื่อให้โครงการเดินไปได้
หรือเสียหายน้อยที่สุด
เราต้องเริ่มต้นคิดก่อนว่าทำได้ และจะทำอย่างไร
“ใช่ไหม” เขาถาม
เขาบอกว่าเราไม่ได้ขอร้องให้ พล.อ.ประยุทธ์มาเป็นนายกฯ
แต่ พล.อ.ประยุทธ์อาสามาเอง
เมื่ออาสาก็ต้องทำให้ได้
พรรคพลังประชารัฐหาเสียงไว้อย่างไร
แคนดิเดตนายกรัฐมนตรีของพรรคก็ต้องรับผิดชอบ
ต้องพยายามทำให้ได้
ไม่ใช่หาเหตุผลว่าทำไมถึงทำไม่ได้
เขาย้อนถามซ้ำอีกครั้งว่าถ้าเราเป็น “ซีอีโอ” แล้วลูกน้องทำตัวแบบนี้
พยายามอธิบายว่าทำไมถึงทำไม่ได้
เราจะทำอย่างไรกับลูกน้อง
…ให้ออกใช่ไหม
หลังจากสวมวิญญาณปู่วอร์เรน บัฟเฟตต์มานาน
ไม่-ไม่-ไม่
อยู่ดี ๆ เหมือนเห็นหุ้น “แอปเปิล” ลอยผ่านมา
ผมพยักหน้า
…ใช่