เปิดประวัติ ครูอ้อย เข็มทิศชีวิต หรือฐิตินาถ ณ พัทลุง ไลฟ์โค้ชชื่อดัง หลังอดีตลูกศิษย์คนดังพาดพิงว่าสูญเงินจากการเข้าคอร์สจนติดหนี้ 50 ล้าน
วันที่ 11 พฤษภาคม 2566 ชื่อของฐิตินาถ ณ พัทลุง หรือที่รู้จักในนาม “ครูอ้อย เข็มทิศชีวิต” ถูกพูดถึงในโลกออนไลน์อีกครั้ง หลักจากที่อดีตลูกศิษย์คนดังอย่าง ตุ๊ยตุ่ย พุทธชาติ พงศ์สุชาติ ออกมาเปิดใจในรายการโทรทัศน์ เรื่องการหลงผิดเข้าร่วมลัทธิหนึ่งจนทำให้สูญเสียเงินถึง 100 ล้านบาท และเป็นหนี้อีก 50 ล้านบาท ซึ่งหลายคนเชื่อมโยงไปถึงไลฟ์โค้ชคน (เคย) สนิท
- ร้านธงฟ้า 1.4 แสนแห่ง พร้อมรับดิจิทัลวอลเลต เช็กจังหวัดไหนร้านธงฟ้ามาก-น้อยสุด
- นักท่องเที่ยวเข้าต่ำแสน หวั่นโลว์ซีซั่นทรุดหนัก ททท.ชี้กระทบสั้นยอดบุ๊กกิ้งแอร์ไลน์แน่น
- เปิด 10 อันดับมหาวิทยาลัยรัฐ-ราชภัฏ-เอกชน ที่ได้รับความนิยมมากสุด
“ประชาชาติธุรกิจ” จึงรวบรวมประวัติของครูอ้อย และความสัมพันธ์กับคนในวงการบันเทิง
ประวัติครูอ้อย เข็มทิศชีวิต
ครูอ้อย เข็มทิศชีวิต มีชื่อจริงว่า ฐิตินาถ ณ พัทลุง เกิดวันที่ 23 มีนาคม 2512 เป็นบุตรของนายไสว และนางอารีย์ ณ พัทลุง โดยครูอ้อยเป็นบุตรคนโตในจำนวนพี่น้อง 3 คน (ชาย 1 คน หญิง 2 คน) ซึ่งน้องชายคือ ณรงค์พร ณ พัทลุง หรือปลัดแป้น และน้องสาว คือ ศิริรัตน์ ณ พัทลุง ต.สุวรรณ ผู้เขียนหนังสือ “เข็มทิศหัวใจ” จบการศึกษาระดับปริญญาโทจากยูนิเวอร์ซิตี้ ออฟ ลอนดอน สาขาเศรษฐศาสตร์และบริหารธุรกิจ และแต่งงานมีลูกชาย 1 คน คือ ธฤต ณ พัทลุง หรือทะเล
ครูอ้อยเคยทำงานเป็นนักเศรษฐศาสตร์ให้กับบริษัทในเครือบรรษัทเงินทุนอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย และเคยทำงานที่บริษัท Gemopolis นอกจากนี้ ยังได้ร่วมหุ้นกับเพื่อนอีก 2 คน จัดตั้งบริษัท Diamond Today พัฒนามาจนประสบความสำเร็จในชื่อ “Working Diamond”
ขณะที่ธุรกิจส่วนตัวของครูอ้อยกำลังไปได้ดี ก็กลับเกิดเหตุการณ์ไม่คาดคิดกับครอบครัว เมื่อสามีซึ่งทำธุรกิจบ้านจัดสรรและโรงแรมทางภาคใต้ประสบอุบัติเหตุเสียชีวิต พร้อมทิ้งหนี้สินไว้กว่า 100 ล้าน แต่ในที่สุดครูอ้อยก็สามารถจัดการหนี้สินจนหมด และได้บอกเล่าวิธีผ่านการเขียนหนังสือ “เข็มทิศชีวิต” ในปี 2547 ทำให้ครูอ้อยเป็นที่รู้จักมากขึ้น จากนั้นรายการต่าง ๆ ได้นำเรื่องราวของครูอ้อยมานำเสนอสู่สังคม
หลังจากหนังสือ เข็มทิศชีวิตเล่ม 1 ได้รับการตอบรับที่ดี ครูอ้อยก็ได้เขียนหนังสือเข็มทิศชีวิตเล่ม 2 ตอนกฎแห่งเข็มทิศ, เข็มทิศชีวิตเล่ม 3 ตอนกฎแห่งความสุข, เข็มทิศเศรษฐี : หัวใจเศรษฐีสมัยพุทธกาล, ฤทธิ์แห่งใจ รุ่น Limited Edition, เข็มทิศชีวิตเล่ม 4 ตอน จิตใต้สำนึก, เข็มทิศชีวิตชีวิตเล่ม 5 ตอน มั่งคั่ง, เข็มทิศชีวิตเล่ม 6 ตอน ความสุข และเข็มทิศชีวิตชีวิตเล่ม 7 ตามลำดับ
คนบันเทิงประกาศแยกทาง
ครูอ้อยได้เปิดคอร์สอบรมหลักสูตร “เข็มทิศชีวิต” เพื่อชี้แนะแนวทางการดำเนินชีวิต ซึ่งมีดารานักแสดง และคนดังจำนวนมากแห่แหนกันไปเป็นลูกศิษย์ของครูอ้อย แต่แล้วคนดังหลายคนก็ได้โบกมือลาคอร์สอบรมชีวิตดังกล่าว ทั้งยังเกิดดราม่าอยู่ช่วงหนึ่งจากกรณีที่ครูอ้อยได้โพสต์ภาพโปรโมตคอร์สเข็มทิศชีวิตซึ่งปรากฏภาพนักแสดงหลายคน
หนึ่งนั้นคือ เอ๋ มณีรัตน์ คำอ้วน นักแสดง ที่ได้แชร์โพสต์ของครูอ้อย พร้อมระบุข้อความซึ่งมีใจความว่า ตนไม่ได้เข้าคอร์สดังกล่าวมานานแล้ว เนื่องจากแนวทางไม่ตรงกัน และได้ขอให้นำรูปของตนออกจากคลิปหรือสื่อใด ๆ ของที่นี่
ด้านอุ๋ย บุ้ดดา เบลส ที่เคยชี้แจงว่าไม่เคยเป็นลูกศิษย์ของครูอ้อย หลังจากที่มีภาพของตนปรากฏอยู่ในการโปรโมตคอร์สอบรม เพียงแต่ตนเคยได้รับการติดต่อให้ทำเพลงประกอบหลักสูตรเมื่อนานมาแล้ว แต่สุดท้ายก็ตัดสินใจที่จะไม่ร่วมงานด้วยและไม่ได้ติดต่อกันอีกเลยตั้งแต่นั้นมา
เช่นเดียวกันกับ ครูเงาะ รสสุคนธ์ กองเกตุ ที่หลายคนเข้าใจว่าสนิทสนมกัน เพราะมีภาพที่เกี่ยวกับครูอ้อยปรากฏ แต่ครูเงาะได้ออกมาปฏิเสธพร้อมลบภาพตนออกจากสื่อต่าง ๆ อย่างไรก็ตาม งานนี้ไม่จบง่าย ๆ เมื่อครูอ้อย โต้ว่า ได้รับอนุญาตให้นำภาพไปใช้โปรโมต จนนำไปสู่การฟ้องร้องในปี 2561 ที่ผ่านมา
นอกจากนี้ กาละแมร์ พัชรศรี เบญจมาศ พิธีกรชื่อดัง ออกมาเผยว่า ได้ถอนหุ้นทั้งหมด 30% ออกจากธุรกิจอาหารเสริม “พาวเวอร์ชอต” ที่ร่วมทุนกับครูอ้อยแล้ว และยืนยันว่าไม่ข้องเกี่ยวกับธุรกิจนี้อีก ทั้งยังได้ลบภาพที่เคยถ่ายคู่กับครูอ้อยออกจากโซเชียลมีเดียอีกด้วย
ครูอ้อย โต้ ตุ๊ยตุ่ยพูดเท็จ
สำหรับกรณีที่ตุ๊ยตุ่ยพูดถึงบทเรียนราคาแพงที่ทำให้ชีวิตพัง ครูอ้อยก็ได้ออกมาตอบโต้ โดยโพสต์ข้อความผ่านทาง เฟซบุ๊ก ว่า “#ความจริง การที่ตุ่ย ได้ไปออกรายการ แล้วทำให้คนที่ได้ฟังและสื่อจำนวนมากเผยแพร่ออกไปว่า มาเข็มทิศ เสียเงิน 100 ล้าน เป็น หนี้ 50 ล้าน ซึ่งเป็นความเท็จ
ความจริงคือ
1.ตุ่ยไม่เคยให้เงินครู ในทางใด หรือค่าเรียนอะไรก็ตาม มาอยู่ฟรี พักฟรี กินฟรี เรียนฟรี โดยไม่เคยเสียค่าใช้จ่าย ค่าเรียน หรือค่าใด ๆ ที่จ่ายให้ครูอ้อยแม้แต่บาทเดียว ไม่เคยให้ทั้งค่าเรียน หรือให้โดยเสน่หา ไม่เคย เห็นเงินร้อยล้านของตุ่ยมีตอนไหนไม่เคยเห็น ถ้ามีหรือเคยให้ ขอดูหลักฐาน โปรดไปถามเขาชัด ๆ เคยให้เงินครูอ้อย 100 ล้าน จริงไหมให้เขาตอบมา เขาอาจจะบอกว่าไม่ได้พูด
2.หนี้ 50 ล้าน ไม่ได้ให้ครู ไม่เกี่ยวกับครู ตุ่ยหาที่อยู่ แล้วไปซื้อคอนโดฯ จากโครงการที่สาทร ประมาณ 40 ล้าน อยู่มาถึงตอนนี้ เกือบ 10 ปี ไปถามเขาใหม่ หนี้ 50 ล้าน คือ ค่าบ้านคอนโดฯ ที่ตัวเองอยู่มา เกือบ 10 ปีใช่หรือไม่
3.ปี 2560 วันที่ตุ่ยกลับจากศรีสัชนาลัย ครูบอกตุ่ยว่า ไม่ต้องมาเจอกันอีก ขอยุติการคบกันแค่นี้ และตุ่ยจะมาหาครูที่บ้าน ครูจึงออกไปพักที่โรงแรมสุโขทัยคนเดียว และเขียนกลับมาบอกในกลุ่มไลน์โดยมีน้องสาวครูและตุ่ยอยู่ว่า ครูขออนุญาตไม่เอาแล้ว เลิกคบกัน ครูพอแค่นี้ เพราะครูเชื่อว่าทุกคนควรมีสิทธิขอยุติความสัมพันธ์ และต่างคนต่างไปมีชีวิตของตัวเอง โดยไม่ต้องออกมาให้ร้ายกัน
ตลอดเวลาที่ผ่านมาครูเงียบเฉยมาตลอดแม้จะถูกพาดพิง ไปถามตุ่ยได้ว่า วันนั้นทางไลน์กลุ่มครูไลน์หาจากโรงแรมที่ครูไปพัก ครูขอเลิกคบกัน แล้วตุ่ยบอกว่า รักครูเหมือนแม่ จริงหรือไม่ จากนั้น ครูไม่เคยพบตุ่ย พูดคุยหรือติดต่อกันอีก ตลอด 6-7 ปีที่ผ่านมา
4.การสอน ครูไม่สอนมาหลายปี แต่ตอนที่สอน ครูสอนให้
– รักครอบครัว รักพ่อแม่ กตัญญู ภรรยาให้เคารพสามี สามีให้รักภรรยา
– คิดดี พูดเรื่องดีดี เอาชีวิตไปทำเรื่องดีดี
– ตั้งเป้าหมายที่ดีงาม แล้วไปทำให้สำเร็จ
คนที่มุ่งร้ายต่อครู โจมตีครูมาตลอดสิบกว่าปี (ซึ่งก็อยู่เบื้องหลังการปั่นข่าวครั้งนี้อีกเหมือนเดิม ครูยังไม่ได้เริ่มจัดการ) เรียก การกตัญญูต่อพ่อแม่ ทำงานให้มีคุณภาพ เรียกให้เสื่อมเสียน่ารังเกียจว่าเป็นลัทธิ
การที่เรารักพ่อแม่ กอดท่าน กตัญญูต่อท่าน สามีภรรยา ควรรักกันอย่างซาบซึ้ง เข้าใจต่อกัน และคนทุกคนควรมีโอกาสทำความฝันที่จะเลี้ยงดูพ่อแม่และครอบครัวให้ดี ต้องถูกตราหน้าว่าเป็นลัทธิหรือ ?
ปัจจุบันครูไม่สอนแล้ว เพราะบทเรียนฟรี ที่ครูทำไว้ให้มีมากพอ และครูก็อยากใช้เวลาสงบสุขของตัวเอง
5.เมื่อหลายปีก่อนตอนยังคบกัน ตุ่ยบอกว่า เพราะครูเลยขายของ ตอนนั้นขายดีมาก วันแรกมาเจอครูอยากมีเงินแค่ 1 ล้านวันที่ 8 มีนาคม 2559 ที่ห้องเรียน เข็มทิศฟรีฟรีฟรี มีคนไปฟรี 1,000 คน ตุ่ยประกาศว่ามีเงินรวมทรัพย์สิน 200 กว่าล้าน และภายหลังประกาศกับประชาชนออกสื่อว่าเพราะครูสอนให้ทำงานแบบมีคุณภาพเลยได้งานพิธีกรรายการ Amazing Thailand (ชื่อรายการจำไม่ได้แม่น) ถ่าย 3 เทปได้เงิน 7 แสนบาท ตุ่ยพูดว่า ปกติทำพิธีกรเหนื่อยราวกับไถนา พอทำที่ครูสอนได้เงินจากขายของและทำพิธีกร ดีกว่าเดิมมาก ๆ เลยไปถามตุ่ยได้ว่า พูดจริงหรือไม่
สรุป ตลอดเวลาที่คบกัน ทุกวันตุ่ยจะขอบคุณครูในสิ่งที่ครูทำให้ และครูไม่เคยได้เงินจากตุ่ยเลย และครูเป็นคนว่าตุ่ยและขอเลิกคบตุ่ย
ตลอดเวลาที่เราเคยคบกันตุ่ยไม่เคยแสดงหลักฐานการมี 100 ล้านให้ดู และไม่เคยมีเหตุเสียเงิน 100 ล้านใด ๆ ดูจากสเตตเมนต์ธนาคารของเขาได้ แต่หลังจากครูเลิกคบตุ่ยแล้ว เขาไปเสียเงินกับใครที่ไหนครูไม่เกี่ยวและไม่ทราบ
สุดท้าย แม้ครูไม่ต้องการเป็นเพื่อนกับตุ่ย แต่ครูก็มีความปรารถนาดีและเห็นใจตุ่ยเสมอ คนบอกว่าตุ่ยเล่าในรายการว่าลำบาก เงินหมด เป็นหนี้ ครูก็ขอเอาใจช่วยให้ตุ่ยพ้นจากเคราะห์กรรมวิบาก พ้นเคราะห์พ้นโศก โรคภัยเสนียดจัญไรเวรกรรม”
