“วิษณุ” แจงหลังยึดบ้าน “ยิ่งลักษณ์” คนในครอบครัวยังอยู่ได้ แต่ต้องขออนุญาต-เสียค่าเช่า

“วิษณุ” แจงหลังยึดบ้าน “ปู” คนในครอบครัวยังอยู่อาศัยได้ แต่ต้องขออนุญาต ยันทำอย่างเหมาะสม ไม่ได้เอาเป็นเอาตาย

เมื่อเวลา 14.00 น. วันที่ 1 กุมภาพันธ์ ที่ทำเนียบรัฐบาล นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงการยึดทรัพย์ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ภายหลังศาลปกครองยกคำร้องขอทุเลาคำสั่งยึดทรัพย์ในคดีปล่อยปละละเลยให้มีการทุจริตในโครงการรับจำนำข้าว ว่า น.ส.ยิ่งลักษณ์ยังสามารถมอบหมายให้ทนายความร้องขอทุเลาคำสั่งยึดทรัพย์ได้ ส่วนการยึดบ้านนั้นจะต้องดูว่าเอกสารสิทธิ โฉนด น.ส.3 ส.ค.1 เป็นชื่อใคร และถ้าเป็นสินสมรสจะสามารถยึดได้เฉพาะส่วนหนึ่ง

เมื่อถามว่าตามคำสั่งมาตรา 44 ยึดทรัพย์แล้ว สามารถขายทอดตลาดได้เลยใช่หรือไม่ นายวิษณุกล่าวว่า หากพิจารณาแล้วเห็นว่าทำได้ ก็ทำเลย แต่หากพบว่ายังเป็นสินสมรสก็ไม่ควรทำ หรือพิจารณาแล้วเห็นว่ายังไม่ควรขายทอดตลาด เพราะอาจจะมีเรื่องเกี่ยวกับคดีตามมาก็อย่าเพิ่งทำ ซึ่งกรมบังคับคดีพิจารณาแล้วเห็นว่ายังไม่ควรขาย เพราะอาจจะมีการร้องขอให้ทุเลาคำสั่งยึดทรัพย์อีก ยืนยันว่าทุกฝ่ายทำอย่างพอสมควร ไม่ใช่จะเอาเป็นเอาตาย เพราะขณะนี้ก็มีคนอยู่อาศัย แต่อย่างน้อยที่ยึดคือไม่สามารถที่จะนำไปขายได้ แต่เมื่อใดที่เห็นว่า ทำแล้วจะไม่มีปัญหา กรมบังคับคดีก็จะพิจารณาขายทอดตลาด

เมื่อถามต่อว่าเมื่อกรมบังคับคดียึดบ้านแล้วคนในครอบครัวของ น.ส.ยิ่งลักษณ์ จะสามารถเข้าไปอยู่อาศัยได้หรือไม่ นายวิษณุกล่าวว่า เข้าไปอยู่อาศัยได้ แต่ต้องขออนุญาตหรือเสียค่าเช่า เพราะมีหลายกรณีที่หลังจากรัฐยึดบ้านแล้วก็อนุญาตให้เข้าไปอยู่อาศัยได้ แต่เป็นการอยู่ในฐานะที่ได้รับการอนุญาต ไม่ใช่เจ้าของ ดังนั้น เมื่ออยู่แล้วจะไปตกแต่ง ทาสี ดัดแปลง รื้อถอนไม่ได้

เมื่อถามอีกว่าหากพบว่ามีการยักย้ายถ่ายเททรัพย์สินจะมีการรายงานเข้ามาหรือไม่ นายวิษณุกล่าวว่า ผู้ที่จะรู้ว่ามีการยักย้าย ถ่ายเท ทรัพย์สินหรือไม่ คือเจ้าหนี้ หรือกระทรวงการคลัง เพราะกรมบังคับคดีมีหน้าที่เพียงเข้าไปยึด โดยการยักย้ายถ่ายเททรัพย์สินนี้ มีกฎหมายไว้สำหรับติดตามอยู่แล้ว

 

ที่มา : มติชนออนไลน์