กกต. ตั้งคณะทำงาน สอบปม พปชร. รับเงินบริจาคนายทุนจีน 3 ล้าน

พรรคพลังประชารัฐ

กกต. ตั้งคณะทำงานสอบปม พรรคพลังประชารัฐ รับเงินบริจาคจากนายทุนจีนผับยานนาวา ขีดเส้น 30 วันชี้ชัด ชอบด้วยกฎหมายหรือไม่ 

วันที่ 14 พฤศจิกายน 2565 จากกรณีมีการรายงานข่าวว่ามีนายทุนจีนซึ่งเป็นเจ้าของสถานบันเทิงย่านยานนาวา ที่มีการเข้าจับกุมเมื่อ 2 สัปดาห์ก่อน บริจาคเงินให้กับพรรคพลังประชารัฐ 3 ล้านบาท เมื่อปี 2564 และนายศรีสุวรรณ จรรยา เลขาธิการสมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย ยื่นเรื่องขอให้ สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ตรวจสอบพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) กรณีรับเงินบริจาค 3 ล้านบาทจากนายทุนชาวจีนคนดังกล่าวนั้น

ล่าสุด มติชน รายงานว่า ขณะนี้นายแสวง บุญมี เลขาธิการ กกต. ในฐานะนายทะเบียนพรรคการเมือง ได้ตั้งคณะทำงานไต่สวนและสืบสวนขึ้นมาตรวจสอบข้อเท็จจริงแล้ว โดยขั้นตอนการทำงาน ทางคณะกรรมการสืบสวนสอบสวนต้องแสวงหาข้อเท็จจริงจากพยานหลักฐาน รวมทั้งเรียกผู้ร้องและผู้ถูกร้องมาให้ข้อมูลเพิ่มเติม ภายในกรอบระยะเวลา 30 วัน

แต่หากไม่แล้วเสร็จ ทางคณะกรรมการสืบสวนสอบสวนสามารถขอขยายระยะเวลาออกไปอีก 30 วัน เพื่อรวบรวมข้อมูลเอกสารหลักฐานและพยานให้ครบถ้วนก่อนจัดทำเป็นความเห็นเสนอต่อนายทะเบียนพรรคการเมือง และรายงานเข้าที่ประชุม กกต.พิจารณาต่อไป

ทั้งนี้ ตามพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) ว่าด้วยพรรคการเมืองกำหนดเรื่องการรับบริจาคเงินของพรรคการเมืองไว้ ต้องไม่เป็นผู้มีลักษณะต้องห้ามตามมาตรา 74 และจำนวนเงินที่บริจาคต้องไม่เกิน 10 ล้านบาท

ก่อนหน้านี้ นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ในฐานะประธานยุทธศาสตร์พรรคพลังประชารัฐ กล่าวถึงการตรวจสอบกรณีดังกล่าวว่า ได้มีการตรวจสอบแล้ว เป็นเรื่องจริง การที่บุคคลจะบริจาคเงินให้กับพรรค พรรคก็ไม่สามารถจะรู้รายละเอียดส่วนลึกของแต่ละบุคคลได้ เราตรวจดูว่าเงินมาในรูปแบบที่คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ได้กำหนดไว้ ซึ่งถูกต้องครบถ้วน ส่วนเป็นบุคคลไหนอย่างไรเราไม่มีเวลาจะไปตรวจสอบได้ เป็นเรื่องของเจ้าหน้าที่บ้านเมืองที่ว่ากันไปตามข้อเท็จจริง