“สมชัย” ย้ำไม่มี กกต.ใหม่ ไม่กระทบโรดแมปเลือกตั้ง เซอร์ไพรส์ สนช. โหวตคว่ำ

เมื่อวันที่ 22 กุมภาพันธ์ ที่สำนักงานคณะกรรมการเลือกตั้ง (กกต.) นายสมชัย ศรีสุทธิยากร กกต. กล่าวถึงมติที่ปรระชุม สนช. ไม่ผ่านความเห็นชอบรายชื่อกกต. 7 คน ว่า สนช.ควรมีคำอธิบายว่าผู้สมัครทั้ง 7 คน มีปัญหาเรื่องใด จะได้เป็นประโยชน์ต่อคณะกรรมการสรรหาและที่ประชุมใหญ่ศาลฎีกาที่จะต้องดำเนินกระบวนการสรรหาใหม่ เพื่อที่จะได้รู้ว่ามีจุดอ่อนใด เพราะถ้าไม่มีเหตุผลเลยก็จะเป็นปัญหาต่อกระบวนการสรรหาในครั้งหน้าได้ อย่างไรก็ตาม การสรรหาใหม่คงต้องใช้เวลา 5-6 เดือน กว่าจะมี กกต.ใหม่ แต่ก็ไม่ได้ก่อให้เกิดผลกระทบใดต่อโรดแมปการเลือกตั้ง เพราะ กกต.ชุดปัจจุบันยังคงทำหน้าที่ต่อไป ยกเว้นว่าจะมี กกต.ลาออก 2 คน ซึ่งจะทำให้เหลือองค์ประชุมแค่ 3 คน ซึ่งจะไม่สามารถพิจารณาเรื่องสำคัญต่างๆได้ ประกอบกับในเดือนกรกฎาคมนี้นายบุญส่ง น้อยโสภณ กกต.จะมีอายุครบ 70 ปี ซึ่งตามรัฐธรรมนูญจะต้องพ้นจากตำแหน่งทันที เว้นแต่มีคำสั่ง คสช.ให้อยู่ปฎิบัติหน้าที่ต้องไป เหมือนที่ คสช.มีคำสั่งให้ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญชุดที่ครบวาระไปแล้ว อยู่ดำรงตำแหน่งต่อไปจนว่าจะมีชุดใหม่ ซึ่งก็ไม่รู้ว่า คสช.จะมีความเห็นอย่างไร และไม่สามาถยืนยันได้ว่าจะมี กกต.คนใดลาออกหรือไม่

“ถ้านับไป 6 เดือนจากนี้ก็จะเป็นช่วงเดือนกรกฎาคม ซึ่งก็จะล้ำเข้าไปในโซนของการเลือกตั้งท้องถิ่น ถ้ามีจริงอย่างที่รัฐบาลตั้งใจจะให้มีขึ้น ซึ่งก็จะค่อนข้างมีปัญหา เพราะการรับมอบงานอาจไม่ราบรื่น ขณะเดียวกัน กกต.ชุดปัจจุบันก็อาจจะต้องคิดหนัก ว่าการที่ตัวเองต้องเข้าไปรับผิดชอบการเลือกตั้งท้องถิ่นจะเหมาะสมหรือไม่ เพราะไม่ได้เป็นตัวจริง แล้วถ้าพิจารณาเรื่องร้องเรียนไปจนเกิดเป็นปัญหาคดีความที่ต้องไปขึ้นศาลในฐานะส่วนบุคคล เมื่อพ้นจากตำแหน่ง จะรับไหวหรือไม่ เพราะไม่ใช่เรื่องสนุกของคนทำงาน ที่เมื่อออกจากงานแล้วต้องไปขึ้นศาลในนามของบุคคล”นายสมชัยกล่าว

นายสมชัย กล่าวว่า งานของ กกต.ที่จะต้องดำเนินต่อไป แม้จะยังไม่มี กกต.ใหม่ก็ต้องดำเนินการมีจำนวนมาก เช่น ในเดือนมีนาคมก็ต้องมีการเตรียมการสำหรับการจัดตั้งพรรคการเมืองใหม่ เดือนเมษายนก็เป็นการดำเนินการของพรรคการเมืองเก่า และยังจะต้องเตรียมการเลือกตั้งท้องถิ่น ถ้าหากจะเกิดขึ้นจะต้องมีการแบ่งเขต

“จริงๆ ไม่ได้คิดเลยผลการลงมติจะเป็นเช่นนี้ ส่วนตัวผมอยากให้ได้กกต.ใหม่เร็วๆ เพื่อที่จะได้มีเวลาในการเตรียมการต่างๆ ให้มากที่สุด เพราะยังไงเราก็ต้องไปอยู่แล้ว การที่เขามาช้า จะทำให้เขามีเวลาในการเตรียมการไม่มาก แล้วต้องมาจัดการเลือกตั้ง ซึ่งไม่เป็นผลดีจริงๆ วันนี้จึงอยากให้ได้ กกตใหม่ เพราะงานของ กกต.ไม่ใช่เรื่องง่ายๆ อย่างที่หลายคนคิด ว่า ให้สำนักงานทำงาน แล้ว กกต.เป็นเพียงผู้กำกับดูแล ถ้า กกต.ไม่รอบคอบ ไม่รู้เรื่อง แล้วปล่อยให้สำนักงานทำก็จะเสียหายหลายเรื่อง ซึ่ง 4 ปีที่ผมอยู่ ไม่ใช่เข้ามาแล้วทำงานได้ทันที ผมยังต้องเข้ามาเรียนรู้อยู่หลายปี ถึงวันนี้เรียนมา 4 ปีก็ยังรู้ไม่หมดเลย”นายสมชัยกล่าว

นายสมชัย กล่าวอีกว่า ในการสรรหา กกต.ใหม่ ผู้ที่ สนช.ไม่รับรองทั้ง 7 คน จะไม่สามารถสมัครใหม่ได้อีก แต่ในส่วนของผู้เคยสมัครแล้วไม่ผ่านการคัดเลือกจากคณะกรรมการสรรหา จะสามารถลงสมัครใหม่ได้