“บิ๊กตู่” เผย พ.ร.ป.เลือกตั้ง ส.ส.ถึงมือรัฐบาล จ่อยื่นศาลรัฐธรรมนูญตีความ ยันไม่กระทบโรดแมป

พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) แถลงภายหลังการประชุมคณะรัฐมนตรี ว่าวันนี้รัฐบาลได้รับร่างพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญ (พ.ร.ป.) ว่าด้วยการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (ส.ส.) มาแล้ว ยังมีเวลาการพิจารณาก่อนนำขึ้นทูลเกล้าฯ จนถึงวันที่ 12 เม.ย. วันนี้ให้ฝ่ายกฎหมายไปตรวจสอบตามปกติอยู่ว่าควรจะยื่นให้ศาลรัฐธรรมนูญพิจารณาหรือไม่ แต่กำหนดการเลือกตั้งยังอยู่ในโรดแมป ถ้ามีการยื่นศาลรัฐธรรมนูญก็ไม่น่าจะใช้เวลานานเกินไป ขอให้ศาลรับเรื่องเหล่านี้ไปเป็นประเด็นสำคัญ ขอให้ช่วยรัฐบาลให้อยู่ในกรอบโรดแมปด้วย

“ร่างฉบับนี้มีปัญหาอยู่สองอย่างคือ ประเด็นให้ช่วยผู้พิการกาบัตร ซึ่งจริงๆ แล้วคนคงไม่เยอะเท่าไหร่ แต่เมื่อเป็นประเด็นก็ต้องไปหารือกันว่าผิดหรือไม่ผิด ให้ไปทบทวนกันว่าจะทำอย่างไรต่อไป ส่วนเรื่องการละเมิดสิทธิการเป็นข้าราชการการเมือง หากไม่ไปเลือกตั้งนั้น ถ้าใครเห็นว่าละเมิดสิทธิตัวเองก็ฟ้องได้ทีหลัง สิ่งที่ผมระวังมากที่สุดคือทำอย่างไรไม่ให้มีปัญหาในการทูลเกล้าฯ ขัดแย้งกันไม่ได้ ขอให้เข้าใจรัฐบาลด้วย และไม่ใช่โยนความรับผิดชอบไปที่อื่น รัฐบาลนี้ไม่ทำอย่างนั้น ต้องแก้ปัญหาระดับนี้ให้ได้ ผมยืนยันว่าไม่ให้กระทบโรดแมป” พล.อ.ประยุทธ์ กล่าว

ผู้สื่อข่าวถามว่า รัฐบาลจะยื่นให้ศาลรัฐธรรมนูญตีความร่าง พ.ร.ป.เลือกตั้ง ส.ส.หรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า ยังไม่ได้พูดเลยว่าจะยื่นหรือไม่ยื่น กำลังพิจารณาร่วมกันก่อนว่าจะเอาอย่างไร จะเสนอหรือไม่เสนอก็ยังไม่รู้ แต่จะยื่นหรือไม่ยื่นก็ต้องคำนึงถึงโรดแมป ทฤษฎีสมคบคิดสื่อคิดกันเองว่าจะเป็นอย่างนั้น เป็นอย่างนี้ รัฐบาลจะทำอะไรได้ ต้องเดินหน้าตามที่กรอบเวลาและกฎหมายที่มีอยู่ ยังไม่ครบถ้วนต้องไปวิเคราะห์ดูว่ามีผลกระทบวันหน้าหรือไม่ ไม่ใช่พอเลือกตั้งมาแล้วไปฟ้องศาลรัฐธรรมนูญกันอีก ก็ฟาล์วหมด ตนต้องรับผิดชอบอีกหรือ

เมื่อถามว่า ยืนยันได้หรือไม่ว่าการเลือกตั้งจะไม่เป็นโมฆะ พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า ถ้ากฎหมายออกมาชัดเจน เลือกตั้งก็ไม่โมฆะ ตนกำลังทำไม่ให้โมฆะอยู่ เพราะอยู่ที่คนทุกคน ไม่ใช่อะไรก็นายกฯ ถ้าผมทำคนเดียวก็ไม่ยากขนาดนี้ นายกฯ ไม่ใช่ผู้วิเศษ

พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า ส่วนการมีกลุ่มชุมนุมซึ่งฝืนคำสั่ง คสช. ตนไม่ให้ความสำคัญมากมาย เพราะเป็นคนกลุ่มเดิม และมีวัตถุประสงค์อย่างอื่นด้วย อาจมีการสนับสนุนมาจากภายนอก ไม่ใช่เจตนาบริสุทธิ์ร้อยเปอร์เซ็นต์ มีบางส่วนที่บริสุทธิ์แล้วเข้าไปร่วมกลุ่มด้วยความหวังดีก็มีอยู่ แต่ต้องตรวจสอบแกนนำว่ามีส่วนเชื่อมโยงกับพรรคการเมืองใดหรือไม่ ซึ่งการละเมิดกฎหมายมีผลต่อพรรคการเมืองในอนาคต จึงมีการตรวจสอบทางลึกอยู่

Advertisment

“ไม่ได้ปิดกั้น ขอให้เข้าใจว่าบ้านเมืองต้องการอะไรวันนี้ อยากเลือกตั้งก็จะให้มีการเลือกตั้ง เวลาก็ออกมาหมดแล้ว กฎหมายก็ออกมาหมด จะเร่งเลือกตั้งไปได้อย่างไร แสดงว่ามีจุดประสงค์อย่างอื่นหรือเปล่าก็ไม่รู้เหมือนกัน เท่าที่ทราบว่าประชาชนที่เดือดร้อนกำลังจะฟ้องร้อง ไม่อยากให้เด็กๆ เหล่านี้ติดคดีความแล้วกลับมาโทษรัฐบาลอีก แล้วอันตรายจะเกิดขึ้นไหม เมื่อมีคนประท้วง คนไม่เห็นด้วยกับการประท้วงก็มีอยู่ ถ้าเกิดอะไรขึ้นมาจะทำอย่างไร บานปลายไปเหมือนเดิมอีกเลิกเสียเถอะ” พล.อ.ประยุทธ์ กล่าว