เมื่อเวลา 07.00 น. วันที่ 5 เม.ย. ที่ท่าอากาศยานทหาร 2 (กองบิน 6) ดอนเมือง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) พร้อมคณะ ออกเดินทางไปยังราชอาณาจักรกัมพูชา เพื่อเข้าร่วมการประชุมสุดยอดผู้นำลุ่มน้ำโขงตอนล่าง ครั้งที่ 3 ที่จังหวัดเสียมราฐ ราชอาณาจักรกัมพูชา
โดยผู้เข้าร่วมการประชุมประกอบด้วย ผู้นำจากประเทศสมาชิกคณะกรรมาธิการแม่น้ำโขง ได้แก่ ไทย กัมพูชา ลาว และเวียดนาม รัฐมนตรีจากประเทศคู่เจรจา ได้แก่ จีน และเมียนมา และผู้แทนรัฐบาลประเทศหุ้นส่วนการพัฒนาและองค์การระหว่างประเทศ
- “ทางรัฐ” ซูเปอร์แอปแห่งชาติ รองรับแจกเงินดิจิทัล 10,000 บาท
- ทำฟันประกันสังคม ไม่ต้องสำรองจ่าย เดือน มี.ค. 67 ยอด 169 ล้านบาท
- รู้ไหม ? 31 มณฑลจีน ชอบสินค้าอะไรของไทย
ทันทีที่เดินทางถึงจังหวัดเสียมราฐ นายกฯ ได้หารือทวิภาคีกับ สมเด็จอัคคมหาเสนาบดีเดโช ฮุน เซน นายกฯ กัมพูชา นายกรัฐมตรีกัมพูชา จากนั้นได้เข้าร่วมการประชุมสุดยอดผู้นำลุ่มน้ำโขงตอนล่าง ครั้งที่ 3 อย่างไม่เป็นทางการ ก่อนจะเข้าร่วมการประชุมสุดยอดผู้นำลุ่มน้ำโขงตอนล่าง ครั้งที่ 3 แบบเต็มคณะ
วัตถุประสงค์ของการประชุมครั้งนี้ ประเทศสมาชิกจะร่วมแสดงจุดยืนร่วมกันในการดำเนินการตามความตกลงว่าด้วยความร่วมมือเพื่อการพัฒนาลุ่มแม่น้ำโขงอย่างยั่งยืน พ.ศ. 2538 และสนับสนุนการบรรลุเป้าหมายการพัฒนาแห่งสหประชาชาติ เพิ่มพูนความร่วมมือกับประเทศในลุ่มน้ำโขงตอนบน ได้แก่ จีนและเมียนมา พร้อมเสริมสร้างความร่วมมือระหว่างคณะกรรมาธิการแม่น้ำโขง และกรอบความร่วมมืออื่นๆ ในภูมิภาค
สำหรับผลของการประชุม ผู้นำรัฐบาลประเทศสมาชิกจะรับรองปฏิญญาเสียมราฐ ค.ศ. 2018 ซึ่งเป็นเอกสารแสดงเจตนารมณ์เชิงนโยบายของประเทศสมาชิกคณะกรรมาธิการแม่น้ำโขง มุ่งเน้นการดำเนินงานตามพันธกรณีของความตกลงว่าด้วยความร่วมมือเพื่อการพัฒนาลุ่มแม่น้ำโขงอย่างยั่งยืน พ.ศ. 2538 โดยไม่มีการลงนามและไม่มีถ้อยคำหรือบริบทใดที่มุ่งจะก่อให้เกิดพันธกรณีภายใต้บังคับของกฎหมายระหว่างประเทศ
ประเด็นที่นายกฯ จะผลักดันในการประชุมครั้งนี้ ได้แก่ ผลักดันความร่วมมือการบริหารจัดการความเสี่ยงด้านภัยพิบัติจากภาวะน้ำแล้ง น้ำท่วม และคุณภาพน้ำ เสริมสร้างบทบาทการดำเนินงานของคณะกรรมาธิการแม่น้ำโขงให้ เป็นศูนย์กลางความรู้ด้านทรัพยากรน้ำและทรัพยากรที่เกี่ยวข้องในภูมิภาคลุ่มน้ำโขง สนับสนุนให้นำองค์ความรู้ทางเทคนิควิชาการที่มี เพื่อพัฒนาสู่ระบบเทคโนโลยีสารสนเทศสนับสนุนการตัดสินใจด้านการบริหารจัดการทรัพยากรน้ำและทรัพยากรที่เกี่ยวข้องในลุ่มน้ำโขง ซึ่งประเทศสมาชิก หน่วยงานภาครัฐ องค์กรพัฒนาและประชาชน สามารถเข้าถึงและใช้ประโยชน์ได้อย่างแท้จริง
นอกจากนี้ ไทยจะผลักดันให้คณะกรรมาธิการแม่น้ำโขงมีความเข้มแข็งและโดดเด่น โดยการร่วมออกแบบองค์กร ให้ทันต่อสถานการณ์การพัฒนาด้านต่างๆ ทั้งในระดับโลกและระดับภูมิภาค ซึ่งมุ่งเน้นการดำเนินงานที่สำคัญ คือ การบริหารจัดการอย่างมีธรรมภิบาล การมุ่งเน้นนวัตกรรม การพัฒนาบนฐานทรัพยากร การใช้ทรัพยากรน้ำเสริมสร้างความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ โดยพัฒนาสู่การเป็นเวทีด้านการทูตเรื่องน้ำของภูมิภาค
ที่มา : ข่าวสดออนไลน์