“เพื่อไทย” หัวหาย ล้อมคอก ดึงผู้มีบารมีเข้ามุ้งใหญ่-มุ้งย่อย

การนัดรวมพลเมื่อวันที่ 4 เม.ย. ของพรรคเพื่อไทยทางหนึ่งเป็นการ “เช็กยอด” สมาชิกพรรคตามที่คำสั่งหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ที่ 53/2560 กำหนดให้ยืนยันการเป็นสมาชิกพรรค

ทางหนึ่งเป็นการหา “ทุนประเดิมพรรค” ตามที่ พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยพรรคการเมือง 2560 กำหนด

“ภูมิธรรม เวชยชัย” เลขาธิการพรรค กล่าวว่า การระดมทุนประเดิมของพรรค 1 ล้านบาท มาจากการให้อดีต ส.ส.เขต 350 เขต บวกกับบัญชีรายชื่อ 150 คน ซึ่งรวมกันแล้ว 500 คน ลงขันคนละ 2,000 บาท เป็นสมาชิกพรรคตลอดชีพ

“ไม่ต้องมีการระดมทุนแบบคลาวด์ฟันดิ้ง หายใจทีเดียวพรรคเพื่อไทยได้เงินแล้ว 1 ล้านบาทแล้ว”

แต่ทางหนึ่งเป็นการ “เช็กตัว” ของผู้แทนราษฎรของพรรคว่าใครอยู่ ใครไป หรือใครมา โดยมีฉากหน้าเป็นการ “รดน้ำดำหัว” ผู้ใหญ่ของพรรค คือ “สมชาย วงศ์สวัสดิ์” อดีตนายกรัฐมนตรี “เสนาะ เทียนทอง” ประธานที่ปรึกษาพรรค และ “พล.ต.ท.วิโรจน์ เปาอินทร์” หัวหน้าพรรค

คนต่างพรรคที่มาเปิดตัวในงานยืนยันสมาชิกพรรคเพื่อไทย คนแรกคือ “นคร มาฉิม” อดีต ส.ส.พิษณุโลก พรรคประชาธิปัตย์ ซึ่งชื่อของ “นคร” ถูก “จิรายุ ห่วงทรัพย์” อดีต ส.ส.กทม.ในฐานะพิธีกรรายการ ประกาศก้องไปทั่วทั้งงาน

แหล่งข่าวแกนนำพรรคเพื่อไทย บอกว่า “นายนคร” จะมาอยู่กับพรรคเพื่อไทยตั้งนานแล้ว อาจถือโอกาสมาเปิดตัวในงานนี้

ส่วนอดีต ส.ส.เพื่อไทย หน้าเก่าที่ตบเท้าเข้ามา “รดน้ำดำหัว” จำนวนมากมายืนยันการเป็นสมาชิกพรรค ไม่กล้าทิ้งพรรคไปไหน โดยเฉพาะกลุ่มอดีต ส.ส.อีสาน กับอดีต ส.ส.เหนือ เพราะเกรงว่าระเห็จออกจากพรรคเมื่อไหร่โอกาสสอบตกมีสูง

แต่ก็มีอดีต ส.ส.จำนวนหนึ่งที่มาแล้วแต่ยัง “ดูทิศทางลม” ก่อนตัดสินใจ ก็เพราะเวลานี้พรรคเพื่อไทยประสบปัญหาเป็นพรรค “ไร้หัว” ไม่มีผู้นำพรรคที่แท้จริง ยังไม่มีใครที่มี “บารมี” พอที่จะมานำทัพสู้ศึกสงคราม
เลือกตั้ง

ทำให้สภาพในพรรคเพื่อไทย เกิดกลุ่ม เกิดมุ้งแยกย่อยออกมา เหมือนเมื่อ 13 ปีที่แล้ว ครั้งยังเป็นพรรคไทยรักไทย ที่เกิดมุ้งหลายมุ้ง เพื่อใช้ตัวเลข ส.ส.ในมุ้ง “ต่อรอง” เก้าอี้รัฐมนตรีทั้งที่ภาพการแบ่งเป็น “มุ้ง” หายไป

หลังจากการเลือกตั้งปี 2554 ที่มีการปฏิรูปพรรคขนานใหญ่ ให้มีการบริหารงานแบบ “ภาค” แทนการบริหารแบบกลุ่มมุ้ง แต่ขณะนี้กำลังจะกลับคืนสภาพเดิม

แต่คราวนี้จะต่อรองเรื่องพื้นที่ลงสมัครรับเลือกตั้ง เพราะพื้นที่เขตเลือกตั้ง

บางจังหวัดลดลงทำให้บางจังหวัดต้องเกลี่ยผู้สมัครกันใหม่ แถมอดีต ส.ส.บัญชีรายชื่อ ก็พยายามหนีมาลงเขต เพื่อหนีการสอบตก เพราะคาดกันว่าใครอยู่ลำดับมากกว่าเลข 20 มีสิทธิสอบตกสูง

อย่างในอีสาน มีการจับมือกันอย่างหลวม ๆ ของอดีต ส.ส. เช่นในกรณีของกลุ่มอีสานใต้ หนองคาย ยโสธร อุบลราชธานี ที่มี นายเกรียง กัลป์ตินันท์ รักษาการรองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย เป็นหัวขบวน หลังการยืนยันเป็นสมาชิกพรรค กลุ่มอีสานใต้ได้นัดรวมตัวกันที่ทำการพรรคชั้น 4

หรือในกรณีที่มี “มุ้ง” เป็นทางการ อย่างกลุ่ม “วังบัวบาน” ที่มี “เยาวภา วงศ์สวัสดิ์” อดีตประธาน ส.ส.ภาคเหนือ เป็นหัวหน้ากลุ่มก็ยังเกาะกลุ่มกันเหนียวแน่น ทั้ง สามารถ แก้วมีชัย อดีต ส.ส.เชียงราย-วรวัจน์ เอื้ออภิญญกุล อดีต ส.ส.แพร่ แม้ “สมชาย วงศ์สวัสดิ์” ผู้เป็นสามีจะบอกว่าภรรยาเลิกเล่นการเมืองแล้ว

ทว่า แม้ไม่ปรากฏตัวมายืนยันความเป็นสมาชิกพรรค แต่ “เยาวภา” ได้มายืนยันการเป็นสมาชิกพรรคล่วงหน้าแล้วตั้งแต่วันแรก!

ส่วนมุ้ง กทม.ของ “คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์” ก็คึกคักมีชีวิตชีวา แม้ก่อนหน้านี้มีข่าวปล่อยว่า ส.ส.ในพรรคไม่แฮปปี้ หากได้คุณหญิงสุดารัตน์มาเป็น “หัวหน้าพรรค” ถึงขั้นเรียกร้องให้มีการ “เลือกตั้ง” หัวหน้าพรรค ตามตำรับประชาธิปไตย

จนกระทั่งเกิดศึกย่อย ๆ ในพรรคเพื่อไทยก่อนหน้านี้ จนลูกนายใหญ่ทักษิณ “พานทองแท้ ชินวัตร” สวมบท
เป็นผู้ใหญ่พรรคออกมาห้ามศึก ทำให้ลูกพรรคเพื่อไทยจำนวนไม่น้อยตีความว่า “คุณหญิงหน่อย” ได้รับไฟเขียวให้มานำพรรค นั่นยิ่งทำให้สปอตไลต์ในพรรค สาดไปยังคุณหญิงสุดารัตน์มากขึ้น

อดีต ส.ส.บัญชีรายชื่อ ที่ไม่มี “กำลัง” ในแบบเขต บางคนเลือกไปยืนอยู่ข้าง ๆ สมาชิกกลุ่มระดับบิ๊กเนมที่ปรากฏกายเคียงข้างคือ “วัฒนา เมืองสุข-ชวลิต วิชยสุทธิ์” อดีตรองเลขาธิการพรรค รวมกับกลุ่มของคุณหญิงสุดารัตน์ที่มีอยู่เดิมคือกลุ่ม ส.ส.กทม. ยังผนวกเอากลุ่มอดีตรัฐมนตรีสาธารณสุขเข้าไปอีก เช่น นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว อดีต ส.ส.น่าน

ยังไม่นับรวมอดีต ส.ส.อีสานที่ต้องการปฏิวัติพรรคนามสกุลชินวัตร ก็มีใจเอนเอียงอยากร่วมเป็นพันธมิตร จึงทำให้กลุ่มสุดารัตน์ ส่งผลให้มีกำลังในพรรคอยู่ไม่น้อย

สภาพของพรรคเพื่อไทยยังคงฝุ่นตลบ ใครจะมา ใครจะไป ยังต้องรอดูจนถึงวันที่ 30 เม.ย.อันเป็นวันสุดท้ายของการยืนยันการเป็นสมาชิก แต่คิวที่แกนนำพรรคเพื่อไทยมีการ “บุ๊กกิ้ง” จองคิวกันไว้คือ 18 เม.ย.นี้ แกนนำเพื่อไทยลงชื่อกันแล้ว 20 ชีวิต บิ๊กเนม นำโดยสมชาย วงศ์สวัสดิ์ อดีตนายกฯ ภูมิธรรม เวชยชัย ชูศักดิ์
ศิรินิล ปลอดประสพ สุรัสวดี พงศ์เทพ เทพกาญจนา จะไปออกรอบตีกอล์ฟกันที่สนาม “นิกันติ” ของ “เผดิมชัย สะสมทรัพย์”

สนามที่ “พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา” นายกฯ ถ่ายรูปร่วมกับนักการเมืองสะสมทรัพย์เจ้าของสนาม แน่นอนว่าไม่ใช่การออกรอบธรรมดา