ปลูกต้นไม้ส่งขายโรงไฟฟ้าชีวมวล กฟผ. ผนึก อ.อ.ป. ลุย

กฟผ. จับมือ อ.อ.ป. ศึกษาพื้นที่ปลูกพืชพลังงานผลิตเชื้อเพลิงชีวมวลป้อนโรงไฟฟ้า หวังเพิ่มสัดส่วนการผลิตไฟฟ้าพลังงานสะอาด เดินหน้าประเทศไทยสู่เป้า Net Zero

วันที่ 25 มกราคม 2567 รายงานข่าวจากการไฟฟ้าฝ่ายผลิตฯ (กฟผ.) ระบุว่า วานนี้ (24 มกราคม 2567) ดร.จิราพร ศิริคำ รองผู้ว่าการธุรกิจเกี่ยวเนื่อง รักษาการผู้ว่าการการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) และนายสุกิจ จันทร์ทอง ผู้อำนวยการองค์การอุตสาหกรรมป่าไม้ (อ.อ.ป.) ร่วมลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ (MOU) เพื่อศึกษาพื้นที่ที่มีศักยภาพในการผลิตเชื้อเพลิงชีวมวลสำหรับโรงไฟฟ้าของ กฟผ. ณ อาคาร 50 ปี กฟผ. สำนักงานใหญ่ จ.นนทบุรี

ดร.จิราพร ศิริคำ รักษาการผู้ว่าการ กฟผ. กล่าวว่า การผลิตและจัดหาเชื้อเพลิงชีวมวลมาผสมร่วมกับถ่านหินให้กับโรงไฟฟ้าแม่เมาะ จ.ลำปาง จำเป็นต้องใช้พื้นที่ในการปลูกไม้โตเร็ว

กฟผ.จึงร่วมกับ อ.อ.ป.ศึกษาและประเมินพื้นที่ที่มีศักยภาพสำหรับปลูกพืชพลังงานชีวมวล เพื่อให้ได้รับการรับรองตามมาตรฐานสากล สำหรับผลิตเชื้อเพลิงชีวมวลให้กับโรงไฟฟ้าของ กฟผ.

ซึ่งผลการศึกษาจะสามารถนำไปใช้เป็นแนวทางในการพัฒนาองค์ความรู้และเทคโนโลยี อีกทั้งยังถือเป็นก้าวสำคัญในการลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ เพิ่มศักยภาพการกักเก็บก๊าซเรือนกระจกจากภาคป่าไม้ นอกจากจะเป็นผลดีต่อสิ่งแวดล้อมแล้ว ยังส่งเสริมการมีส่วนร่วมของชุมชน ในการพัฒนาอาชีพ คุณภาพชีวิต รวมทั้งรายได้ที่เกิดจากการผลิตเชื้อเพลิงชีวมวลให้กับโรงไฟฟ้าของ กฟผ.

ด้านนายสุกิจ จันทร์ทอง ผู้อำนวยการองค์การอุตสาหกรรมป่าไม้ กล่าวว่า อ.อ.ป.มีภารกิจเกี่ยวกับการดำเนินงานด้านอุตสาหกรรมป่าไม้ รวมทั้งการดำเนินกิจการที่เกี่ยวข้องกับคาร์บอนเครดิต เพื่อสนับสนุนการดำเนินงานขับเคลื่อนการดูดซับก๊าซเรือนกระจกของประเทศไทย และการใช้ศักยภาพของสวนป่าเป็นแหล่งกักเก็บก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ สอดคล้องกับเป้าหมายของประเทศในการเดินหน้าสู่ความเป็นกลางทางคาร์บอน (Carbon Neutrality) ภายในปี ค.ศ. 2050 และเป้าหมายการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ (Net Zero Emission) ภายในปี ค.ศ. 2065 จากความร่วมมือในครั้งนี้ จะช่วยสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับไม้ที่ปลูก โดยนำมาพัฒนาเป็นเชื้อเพลิงชีวมวล สำหรับผลิตไฟฟ้า ซึ่งจะเป็นประโยชน์ต่อชุมชนและประเทศชาติต่อไป

สำหรับพลังงานชีวมวลนับเป็นอีกพลังงานทางเลือกที่ กฟผ.ดำเนินการศึกษา เพื่อก้าวสู่ยุคเปลี่ยนผ่านด้านพลังงาน ภายใต้กลยุทธ์ ‘Triple S’ คือ Sources Transformation เพิ่มสัดส่วนการผลิตไฟฟ้าจากพลังงานหมุนเวียน Sink Co-creation เพิ่มศักยภาพการกักเก็บก๊าซเรือนกระจกจากภาคป่าไม้ และ Support Measures Mechanism ส่งเสริมการมีส่วนร่วมลดก๊าซเรือนกระจกในภาคประชาชน เพื่อขับเคลื่อนและแก้ไขปัญหาการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศสู่สังคมคาร์บอนต่ำ