“บิ๊กป๊อก” บอกผู้ว่าฯมีอำนาจใช้ให้ดี ไม่เช่นนั้นจะถูกดึงอำนาจไป ยกเคสเชียงรายตัวอย่างการทำงาน

เมื่อเวลา 08.00 น. วันที่ 9 กรกฎาคม ที่ห้องรอยัลจูบิลี่บอลรูม เมืองทองธานี มีการประชุมผู้ว่าราชการจังหวัด และหัวหน้าส่วนราชการของกระทรวงมหาดไทย เพื่อบูรณาการแก้ไขปัญหาของประชาชนและขับเคลื่อนนโยบายของรัฐบาลเชิงพื้นที่ ซึ่งมีผู้เข้าร่วมการประชุมประกอบด้วย รองปลัดกระทรวงมหาดไทย ผู้บริหารระดับสูงกระทรวงมหาดไทย ผู้ว่าราชการจังหวัด และหัวหน้าส่วนราชการระดับจังหวัด เข้าร่วมการประชุมจำนวนกว่า 2,000 คน โดย พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย กล่าวว่า ตนถือว่าทุกท่านที่มาในวันนี้เป็นบุคลากรที่มีความสำคัญ เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นที่จังหวัดเชียงรายเราได้เห็นการทำงานเพื่อให้ท่านได้เก็บประสบการณ์ที่เป็นประโยชน์ในการแก้ไขปัญหา เช่น บางเหตุการณ์ที่กินพื้นที่ไม่มากที่เชียงราย แต่มีความซับซ้อนต้องใช้หลายหน่วยงานเข้ามาดำเนินการ ผู้ว่าราชการจังหวัดต้องรู้เรื่องทั้งหมดเพื่อดำเนินการประสานงาน ทั้งนี้ ตนเห็นว่ากฎหมายป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) ที่ท่านมีอยู่ในมือออกฤทธิ์แล้ว หากกำลังท่านไม่พอ ท่านต้องบูรณาการ รองผู้ว่าราชการจังหวัดก็ต้องแข็ง เพื่อที่จะสามารถช่วยควบคุมส่วนต่างๆ ซึ่งเป็นส่วนย่อยสนับสนุนให้ ผู้ว่าฯท่านถือกฎหมายอยู่ ท่านต้องใช้ทุกหน่วยงานให้ได้โดยการตั้งศูนย์อำนวยการร่วม เพื่อใช้คน เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนี้ความร่วมมือร่วมใจคือพระเอก ตนไม่อยากให้เกิดภัยอะไรในพื้นที่ของทุกท่าน แต่หากเกิดพวกท่านสำคัญจริงๆ เราต้องมีการวางแผนการทำงานไว้เสมอ

“เรื่องนี้ในหลวงรัชกาลที่ 10 ทรงห่วงใย ทรงให้กำลังใจและทรงพระราชทานให้ทำงานที่มีแผนงานชัดเจน มีผู้รับผิดชอบชัดเจน แยกผู้ที่ไม่เกี่ยวข้องออกไป นอกจากนี้ทรงชื่นชมความร่วมมือร่วมใจของทุกคนทำให้เกิดความสำเร็จ” พล.อ.อนุพงษ์ กล่าว

พล.อ.อนุพงษ์กล่าวอีกว่า เรื่องต่อมาคือเรื่องไทยนิยมยั่งยืน ตนต้องขอบคุณทุกท่านตั้งแต่กลไกของกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน นายอำเภอ ฯลฯ ที่ลงไปให้ความรู้แก่ประชาชนทั้งเรื่องแนวทางเศรษฐกิจพอเพียง และแนวทางในการเลือกตั้ง อย่างไรก็ตาม ขอให้กำกับดูแลเรื่องงบประมาณที่ลงไปด้วย ในส่วนของบางชุมชนที่ไม่รู้จะนำเงินไปทำอะไร เช่น บางที่อยากได้กล้องวงจรปิด แต่ตามกฎของกระทรวงการคลังไม่ให้ซื้อ ก็ซื้อไม่ได้ ประเทศไทยมีความลำบากยากแค้นอยู่ คนเหล่านี้ส่วนใหญ่ทำงานในด้านเกษตร หรือที่เราเรียกกันว่าเศรษฐกิจฐานรากไม่ดี ดังนั้น เราต้องแก้ให้ตรงจุด ต้องทำประชุมกันว่าชุมชนขาดอะไร สินค้าที่ชุมชนผลิตก็ต้องมีช่องทางให้ประชาชนจำหน่าย อาจขายในสถานที่ท่องเที่ยวของตนเอง ดังนั้น เราจะต้องพัฒนาทั้งผลิตภัณฑ์และแหล่งท่องเที่ยว เป็นต้น ทั้งนี้ สถาบันมหาดไทยเป็นสถาบันที่สำคัญ เมื่อกระจายอำนาจแล้วต้องทำให้ดี ผู้ว่าฯในฐานะอำเภอถือว่าเป็นผู้นำในพื้นที่ ต้องกำกับการใช้อำนาจให้ดี เพราะหากกำกับไม่ดีจะถูกดึงอำนาจไป ท่านยังคงเป็นตัวหลักของรัฐบาลนี้อยู่ เป็นกำลังใจให้ทุกท่านรักษาตัวให้ดี อำนาจที่มีใช้ให้ดีก็แล้วกัน

 

ที่มา : มติชนออนไลน์