“บิ๊กป๊อก” จัดแถว “สิงห์ดำ” คุมเลือกตั้ง-ดันบิ๊ก มท.โตข้ามห้วย

ในที่สุดการแต่งตั้งโยกย้าย – สับเปลี่ยนกำลัง เพื่อจัดทัพศึกเลือกตั้งปี 2562 และเปลี่ยนผ่านบริหารงานตามกระทรวงต่าง ๆ ก็มาถึง

รายชื่อตำแหน่งสำคัญ ๆ อย่างอธิบดี – ปลัดกระทรวง ในแต่ละกระทรวงก็เริ่มทยอยเข้าสู่ห้องประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.)

มาถึงคิวของกระทรวงมหาดไทย ที่เสนอปรับเปลี่ยนเก้าอี้อธิบดี-ผู้ว่าราชการจังหวัดกว่า 18 ตำแหน่ง เมื่อ 14 ส.ค.ที่ผ่านมา ซึ่งถูกมองว่าเป็นการ “จัดทัพ” ข้าราชการ เพื่อคุมการเลือกตั้งในปี 2562

หลายตำแหน่งมีชื่อของ “มือทำงาน” ให้ “พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา” เจ้าของรหัส มท.1 ได้พาสชั้นขึ้นเก้าอี้ผู้ว่าฯกันหลายราย เป็น “สิงห์ดำ” ที่จบจากรัฐศาสตร์ จุฬาฯ กันยกแผง

ส่วนผู้ว่าที่เคยถูกลงโทษให้มานั่งในกรุผู้ตรวจกระทรวง ก็เปิดโอกาสให้กลับไปเป็นผู้ว่าฯ ใหม่อีกครั้ง

แต่ด้วยคำบัญชาของ “พล.อ.ประยุทธ์” ที่ต้องการปฏิรูประบบราชการ ให้ตำแหน่ง “รองปลัดกระทรวง” ในยุคนี้ มีความสำคัญสำหรับเป็น “ที่พัก” สำหรับ”บิ๊กมหาดไทย” ที่จะไปเป็นตำแหน่งปลัดกระทรวง – อธิบดี ในวันข้างหน้า คนที่เข้าไลน์ 2 ตำแหน่งอธิบดี ปรากฏชื่อ “ประยูร รัตนเสนีย์” จากรองปลัดกระทรวง ไปเป็นอธิบดีกรมที่ดิน (ทด.) แทนประทีป กีรติเรขา ที่เกษียณอายุ โดย “ประยูร” จับงานดูแลรับผิดชอบงานในขอบข่ายของกรมที่ดินมาโดยตลอด

ขณะที่ “นิสิต” ที่ขยับจากรองปลัดกระทรวง ไปเป็นอธิบดีกรมการพัฒนาชุมชน (พช.) แทน “อภิชาติ โตดิลกเวชช์” ที่เกษียณอายุราชการ ในแฟ้มประวัติเคยเป็นรองอธิบดีกรม พช.มาก่อน คุมงานโอท็อป ผลิตภัณฑ์ชุมชน ปั้นโครงการเที่ยวเมืองหลัก เมืองรอง เป็นพาร์ตหนึ่งของแผนการท่องเที่ยว ปลุกปั้นนโยบายรัฐบาลช่วงโค้งสุดท้าย

แต่ด้วยตำแหน่งปลัดกระทรวงมหาดไทยมีตำแหน่งเดียว เป็นของ “ฉัตรชัย พรหมเลิศ” ซึ่งจะเกษียณอายุราชการในปี 2564 แต่คนที่เข้าไลน์ “รองปลัด” ต่อคิวถึง 4 คน ยังไม่นับตำแหน่งอธิบดีอีก 6 กรม ที่ต้องขยับขยายเพื่อเป็นการ “เกลี่ยตำแหน่ง” จึงมีการผ่องถ่ายคนของมหาดไทยไปอยู่ในกระทรวงอื่น ซึ่งมีกระแสข่าวว่า “มณฑล สุดประเสริฐ” อธิบดีกรมโยธาธิการและผังเมือง มือวางผังเมืองโครงการ EEC จะข้ามห้วยไปนั่งปลัดกระทรวงคมนาคม เช่นเดียวกับ บุญธรรม เลิศสุขีเกษม ก็จะข้ามจากรองปลัดมหาดไทย ไปนั่งปลัดกระทรวงเกษตร

ขณะที่ตำแนห่งในระดับพื้นที่ – คุมกลไกจังหวัด “วิชิต ชาตไพสิฐ” ผู้ตรวจราชการกระทรวง ที่ขยับเป็นผู้ว่าฯสระแก้ว ย้อนอดีตไปตอน คสช.ยึดอำนาจใหม่ ๆ เขาถูกคำสั่งเด้งจาก ผู้ว่าฯระยอง มาเป็นผู้ตรวจราชการ เพราะถูกแปะป้ายว่าเป็นผู้ว่าฯสายเสื้อแดง เคยคลุกพื้นที่อยู่แถบอีสานมาก่อน

ตอนที่มีคำสั่งเด้งมาเป็นผู้ตรวจ “วิชิต” อำลาข้าราชการ จ.ระยอง ว่า “ส่วนตัวรู้สึกเหนื่อย ต้องแก้ไขปัญหาตลอดเวลา โดยเฉพาะการแก้ไขปัญหาเรื่องใหญ่ ๆ ของจังหวัด ทั้งปัญหาน้ำท่วม ปัญหาน้ำมันรั่วไหลกลางทะเล ซึ่งการทำงานในหน้าที่ผู้ตรวจราชการครั้งนี้ คิดว่าจะทำหน้าที่นี้ไปจนเกษียณอายุราชการ โดยเหลืออายุราชการอีก 6 ปี จะไม่ขอออกมาเป็นผู้ว่าราชการจังหวัดอีกแล้ว”

แต่ผ่านมา 4 ปี “วิชิต” ถูกส่งลงพื้นที่อีสานอีกครั้ง

เช่นเดียวกับ “ระพี ผ่องบุพกิจ” เคยถูกเด้งจากผู้ว่าฯนครสวรรค์ มาเข้ากรุผู้ตรวจราชการ ตั้งแต่ปี 2558 ถูกส่งลงพื้นที่กลับไปเป็น “พ่อเมือง” อีกครั้งที่ จ.ฉะเชิงเทรา ทั้งที่เป็น “สิงห์แดง” จบจากรัฐศาสตร์ ม.ธรรมศาสตร์ และเคยเป็นผู้ว่าฯแถบอีสานมามากมาย อาทิ นครราชสีมา สุรินทร์ ศรีสะเกษ แถมใกล้ชิดแกนนำพรรคภูมิใจไทยหลายคน โดยเฉพาะ “ศักดิ์สยาม ชิดชอบ” เลขาธิการพรรค

ส่วนคนที่เป็นมือทำงานให้ พล.อ.อนุพงษ์ ในกระทรวง คนใกล้ชิด-ทำงานให้ พล.อ.อนุพงษ์ โตเร็ว มาแรง ความใกล้ชิดขนาดที่ มท.1 โทร.สั่งงานเป็นฉาก ๆได้โดยตรง ไม่จำเป็นต้องผ่านหูปลัดกระทรวง

ทั้งหมดเป็นสิงห์ดำที่ได้ขึ้นเป็นผู้ว่าฯ คือ “สมคิด จันทมฤก” อีก 1 คนที่ พล.อ.อนุพงษ์ต่อสายสั่งงานได้โดยตรง ขยับจากผู้ตรวจ เป็นผู้ว่าฯสมุทรสาคร ซึ่งเป็นจังหวัดที่สิงห์ดำคุมมาตลอด

เช่นเดียวกับ “สยาม ศิริมงคล” ผู้ตรวจราชการกระทรวง เป็น ผวจ.นครพนม ทุบสถิติเป็นผู้ว่าฯอายุน้อยที่สุดในวัย 44 ปี

การโตพรวดพราดอาจจะแปลกใจสำหรับคนนอกมหาดไทย แต่คนในวงคลองหลอด รู้กันทั่วไปว่าเขาเป็นดาวรุ่งสิงห์ดำ ถูกเครือข่ายสิงห์ดำผลักดันให้รับตำแหน่งสำคัญ ๆ เช่น ผู้อำนวยการกองการเจ้าหน้าที่ หน่วยงานที่ทำโผแต่งตั้งโยกย้าย ตั้งแต่ยุควิบูลย์ สงวนพงศ์ เป็นปลัดกระทรวง

มาถึงยุค พล.อ.อนุพงษ์เป็น มท.1 เขาก็ขยับไปเป็นมือไม้อีก 1 คน จนได้ขึ้นเป็นผู้ว่าฯอย่างรวดเร็ว เหมือนมือไม้รุ่นก่อน ๆ ที่เดินตามหลัง พล.อ.อนุพงษ์ ก็ได้ขึ้นเก้าอี้พ่อเมืองกันถ้วนหน้า อย่าง “ชัยวัฒน์ ชื่นโกสุม” ที่ไปเป็นผู้ว่าฯเลย พื้นที่การเมืองของตระกูลเร่งสมบูรณ์สุข

หรืออีกหนึ่งตัวอย่างคือ “สฤษดิ์ วิฑูรย์” ที่ถูกส่งไปเป็นผู้ว่าฯอุบลราชธานี พื้นที่การเมืองหลายกลุ่ม ทั้งเพื่อไทย ประชาธิปัตย์ ชาติไทยพัฒนา

ขณะที่ตำแหน่งสำคัญ ๆ ในกรม-จังหวัดอื่น ๆ ได้ถูกวางตัวคนมาก่อนหน้านี้แล้ว เช่นตำแหน่งอธิบดีกรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น ที่มีข้าราชการมากคอนเน็กชั่นอย่าง “สุทธิพงษ์ จุลเจริญ” เป็นอธิบดี ก็เตรียมคุมเกมเลือกตั้งในระดับท้องถิ่น

อีกทั้งในช่วงต้นเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา มหาดไทยได้ตั้ง นายอำเภอ 341 ตำแหน่ง ปูพรมวางมือไม้การเมืองในพื้นที่ เอาไว้แล้ว

มหาดไทยจึงจัดทัพข้าราชการ รับมือสถานการณ์การการเลือกตั้งที่จะมาถึง