สภา 500 ดัน “บิ๊กตู่” นายกรอบ 2 ลุ้นคดี ป.ป.ช.-กกต.พลิกเกมรัฐบาลใหม่

รายงานพิเศษ

พลันที่พระราชกฤษฎีกาให้มีการเลือกตั้งประกาศในราชกิจจานุเบกษา และคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) กำหนดวันเลือกตั้ง 24 มี.ค. ในวันเดียวกัน เท่ากับมหกรรมเลือกตั้งเปิดฉากอย่างเป็นทางการ

เพียงแค่ออกสตาร์ต การเมืองกลับมามีชีวิตชีวา หุ้นเด้งขึ้นรับเลือกตั้งกว่า 15 จุด

นับแต่บัดนี้จนถึงวันหย่อนบัตรเลือกตั้ง ไปจนถึงขั้นตอนมีรัฐบาลใหม่ ยังมีเรื่องราวระหว่างบรรทัดที่สามารถพลิกเป็นตัวแปรมากมายที่อาจพลิกเกมการเลือกตั้ง

เปิดนายกในบัญชี ลุ้นชื่อ “บิ๊กตู่”

สปอตไลต์การเมืองหลัง “คิกออฟเลือกตั้ง” เตรียมสาดส่องไปที่จังหวะก้าวทางการเมืองของ “พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา” นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) กับทางเลือกที่ “พล.อ.ประยุทธ์” ต้องตัดสินใจ หากจะควบตำแหน่งนายกฯ รอบสอง

ทางแรก ใช้ “สามัคคีธรรมโมเดล” ที่พรรคหลักเป็นพรรคที่ตั้งโดยคณะทหาร จับมือกับพรรคการเมืองอื่น ๆ เพื่อสานต่ออำนาจ เข้าทำนองการเมือง 2 ขั้ว พรรคเทพ-พรรคมาร เหมือนการเมืองปี 2535

โดยทางเลือกนี้ “พล.อ.ประยุทธ์” ต้องกระโจนลงไปอยู่ใน 1 ใน 3 บัญชีนายกฯ ของพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) พรรคเส้นใหญ่ระดับ 4 รัฐมนตรีในรัฐบาล คสช. เป็นแกนนำ-หัวหน้าพรรค เปิดตัว “พล.อ.ประยุทธ์” เพื่อสร้างราคาการเมือง ให้พรรคการเมืองอื่น ๆ ตัดสินใจจูบปากจับขั้วตั้งรัฐบาล

โดยใช้จำนวนเสียง ส.ว.ลากตั้ง 250 คน ช่วยหนุน ตามสูตร ส.ว. 250 คน บวก ส.ส. 251 คน จาก พปชร. จำนวน 126 เสียง บวกกับพรรคอื่น ๆ ที่สนับสนุน พล.อ.ประยุทธ์ อีก 125 เสียง ก็สามารถโหวตเป็นนายกฯรอบแรกได้

กับทางที่สอง “เปรมโมเดล” ซึ่ง “พล.อ.ประยุทธ์” ไม่จำเป็นต้องไปผสมโรงการเลือกตั้ง แต่จะมาจากนายกฯคนนอก แต่ทั้งนี้จะต้องได้เสียงสนับสนุนอย่างต่ำ ๆ จากทั้ง ส.ส.และ ส.ว.ลากตั้ง ไม่น้อยกว่า 500 เสียง เพื่อยื่นญัตติขอเปิดโหวตเลือกนายกฯคนนอก จากนั้น ส.ส.-ส.ว.จะยกมือโหวตนายกฯคนนอก ซึ่งจะต้องได้รับเสียงขั้นต่ำ 376 เสียง ถึงจะได้เป็นนายกฯ ดังนั้น ทั้ง 2 ทางเลือกของ “พล.อ.ประยุทธ์” หากคิดจะเล่นการเมืองเบิลอำนาจรอบ 2 ไม่ใช่ของง่าย

บีบ 4 รัฐมนตรีลาออก

เช่นเดียวกับ อนาคตของ 4 รัฐมนตรีในรัฐบาล คสช. ในฐานะกรรมการบริหารพรรคพลังประชารัฐ ที่ไม่อาจลาออกได้ง่าย ๆ ประกอบด้วย “อุตตม สาวนายน”รมว.อุตสาหกรรม หัวหน้าพรรค “สนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์” รมว.พาณิชย์ เลขาธิการพรรค “สุวิทย์ เมษินทรีย์” รมว.วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี รองหัวหน้าพรรค “กอบศักดิ์ ภูตระกูล” รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี โฆษกพรรค ถูกนักเลือกตั้งอาชีพจากพรรคการเมืองขาใหญ่ ทั้งประชาธิปัตย์-เพื่อไทย เร่งเกม “กดดัน” ให้ลาออกจากตำแหน่ง

จึงมีรายงานว่า วันสุดท้ายที่ 4 รัฐมนตรีจะลาออกจากตำแหน่ง คือ วันที่ 8 ก.พ. อันเป็นวันสุดท้ายของการเปิดรับสมัครสมาชิกพรรค เพราะทั้ง 4 รัฐมนตรีไม่ลงสมัคร ส.ส. ด้วยเงื่อนไขที่ล็อกในรัฐธรรมนูญว่า ถ้ารัฐมนตรีจะลงเลือกตั้ง ต้องลาออกหลังรัฐธรรมนูญมีผลบังคับใช้ 90 วัน จึงมีแนวโน้มจะลาออกนาทีสุดท้าย

แหล่งข่าวใกล้ชิด 1 ใน 4 รัฐมนตรีระบุว่า แม้ 4 รัฐมนตรีจะลาออก แต่เชื่อว่าจะไม่มีแรงกระเพื่อมจนทำให้ พล.อ.ประยุทธ์ ปรับคณะรัฐมนตรี แต่ใช้วิธีให้รองนายกฯที่กำกับดูแลกระทรวงนั้น ๆ รับผิดชอบแทน

เปิดตัวนายกฯบัญชีพรรค 

นอกจากต้องลุ้นการตัดสินใจทางการเมืองของ “พล.อ.ประยุทธ์” คอการเมืองยังต้องลุ้นหน้าตาของ “ว่าที่นายกฯ” ในบัญชีพรรค ของแต่ละพรรค

ฟาก “เพื่อไทย” คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ ประธานคณะกรรมการยุทธศาสตร์เลือกตั้งของพรรค ระบุว่า นายกฯในบัญชีพรรคเพื่อไทยส่งครบ 3 ชื่อแน่นอน

ตามรายงานข่าวระบุว่า “คุณหญิงสุดารัตน์” จะอยู่ในบัญชีนายกฯของพรรค ขนาบข้างด้วย “ชัชชาติ สิทธิพันธุ์”อดีต รมว.คมนาคม และ พล.ต.ท.วิโรจน์ เปาอินทร์ หัวหน้าพรรค แต่คนที่จะเป็น “แคนดิเดต” นายกฯตัวจริง จะต้องอยู่ในปาร์ตี้ลิสต์เบอร์ 1 ของพรรคด้วยซึ่งยังไม่มีการเปิดตัว

ส่วนคู่แข่งในลู่การเมือง “ประชาธิปัตย์” แน่นอนว่า ชู “อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ” หัวหน้าพรรค เป็นนายกฯในบัญชี แต่ก็มี “อาวุธลับ” ที่ชื่อ “ชวน หลีกภัย” เอาไว้ต่อรองโหวตนายกฯนอกบัญชี

ส่วนนายกฯของ “ภูมิใจไทย”ไม่มีตัวเต็ง เพราะมีเพียงชื่อเดียว คือ “เสี่ยหนู” อนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรค “ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ” หัวขบวนอนาคตใหม่ จะเป็น “นายกฯในบัญชี” ของพรรค

ฝั่ง “ไทยรักษาชาติ” พรรคบริวารของเพื่อไทย แว่วว่ามีชื่อของ “ดร.วีรพงษ์ รามางกูร” อดีตรองนายกฯ เป็นแคนดิเดต คู่กับ“จาตุรนต์ ฉายแสง” ประธานยุทธศาสตร์พรรค ที่ไม่เสนอใครแข่งเป็นนายกฯ คือ “พรรครวมพลังประชาชาติไทย” ที่มี “สุเทพ เทือกสุบรรณ” เป็นแบ็กอัพ แต่จะเป็นอีก 1 พรรคที่สนับสนุน “พล.อ.ประยุทธ์” หากตัดสินใจต่อตั๋วนายกฯต่อ

ม็อตโต้หาเสียง 6 พรรคตัวแปร

ด้านนโยบายหาเสียง หลายต่อหลายพรรคเริ่มคลอดนโยบายแต่ละด้านออกมาตั้งแต่ยังไม่มี พ.ร.ฎ.ประกาศให้มีการเลือกตั้ง แต่คำหรู ๆ ที่ฟังแล้วรื่นหูคนการเมือง-โหวตเตอร์ต่างคลอดออกมาแล้วถ้วนหน้า พรรคเพื่อไทย ชูแคมเปญ “เพื่อไทย หัวใจคือประชาชน” ดัดแปลงจากมอตโต้ของ”ไทยรักไทย” ที่ใช้รณรงค์ในการเลือกตั้ง ปี 2548 ส่วน “ไทยรักษาชาติ” ใช้มอตโต้ “คิดใหม่ ทำใหม่ กล้าเปลี่ยนแปลง” ดัดแปลงจากคำที่พรรคไทยรักไทย ใช้ในการเลือกตั้ง ปี 2544

พรรคใหม่ถอดด้าม “อนาคตใหม่” ชูมอตโต้ ไทย 2 เท่า “คนไทยเท่าเทียมกัน ประเทศไทยเท่าทันโลก” อีกพรรคที่เพิ่งเกิดใหม่ แต่เต็มไปด้วยนักการเมืองหน้าเดิม “พลังประชารัฐ” ใช้มอตโต้ “สานพลังประชาราษฎร์ ร่วมสร้างชาติให้ยั่งยืน”

ส่วนพรรคเก่าแก่ที่สุด “ประชาธิปัตย์” ชูสโลแกน “ประชาชนเป็นใหญ่ ประชาธิปไตยสุจริต” ส่วน “ภูมิใจไทย” ที่กำเนิดมา 1 ทศวรรษ ใช้ประโยคที่ว่า “ลดอำนาจรัฐ เพิ่มอำนาจประชาชน” ม็อตโต้รณรงค์หาเสียงเป็นสิ่งสำคัญที่ออกคู่กับนโยบายหาเสียง ลด-แลก-แจก-แถม ที่จะทยอยคลอดออกมานับจากนี้

คดีใน ป.ป.ช.-กกต.ส่อพลิกเกม

อย่างไรก็ตาม ยังมีเกมขั้นจังหวะเลือกตั้ง กับสำนวนคดีที่อยู่ในการพิจารณาของคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) เตรียมเช็กบิลย้อนหลังกับคณะรัฐมนตรี ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร กรณีกระทำความผิดต่อตำแหน่งหน้าที่ กระทำผิดขัดต่อรัฐธรรมนูญ 2550 และกระทำขัดหรือแย้งต่อพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2542 และแก้ไขเพิ่มเติม (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2554 กรณีการดำเนินการโครงการเพื่อออกแบบและก่อสร้างระบบการบริหารจัดการทรัพยากรน้ำอย่างยั่งยืนและระบบแก้ไขปัญหาอุทกภัยของประเทศ

ซึ่งมี “ชัชชาติ สิทธิพันธุ์” อดีต รมว.คมนาคม ตัวเต็งนายกฯในบัญชีเพื่อไทย รวมอยู่ในผู้ถูกกล่าวหาด้วย ในโมงยามที่ ป.ป.ช.ถูกตั้งคำถามเรื่องความเป็นกลาง คนในเพื่อไทยจึงมองว่าเป็นเกม “เตะสกัด” คู่แข่งทางการเมืองให้พ้นทาง พปชร.-พล.อ.ประยุทธ์

“ชัชชาติ” ตอบกรณีดังกล่าวระหว่างเดินหาเสียงเลือกตั้งว่า “ว่าไปตามหลักการ ไม่มีอะไรอยู่แล้ว เรื่องเก่าแล้ว…”

คดีที่ “ชัชชาติ” ติดหางเลข ยังไม่นับรวมสำนวนที่ กกต. สั่งจับตาเรื่อง “ทักษิณ ชินวัตร” อดีตนายกรัฐมนตรี ครอบงำพรรคเพื่อไทยหรือไม่ ซึ่งจะโยงถึงการ “ยุบพรรค”

แถม กกต.ส่งทีมไปจับทุจริตล่วงหน้า รวบรวมหลักฐานก่อนมี พ.ร.ฎ.ตั้งแต่ไก่โห่ กระทั่งแกนนำเพื่อไทยหวั่น “แพ้ฟาวล์” มากกว่าแพ้คะแนน

มหกรรมการเลือกตั้งที่ทุกคนรอคอยมานาน 8 ปีเต็ม เติมเต็มทุกอรรถรส เปิดศักราชการต่อสู้แล้วนับจากนี้