3 คดีร้อนในศาลฎีกา ชี้ชะตาตระกูลชินวัตร

นาทีนี้คงไม่มี “ตระกูลการเมือง” ใดที่ระทึกใจไปกว่า ตระกูลชินวัตร

เพราะคดีความที่เกี่ยวข้องกับนักการเมืองในตระกูลเป็นจำเลยสำคัญใกล้งวดถึงวันที่ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองจะมีคำพิพากษา

หนึ่งคือ คดีสลายการชุมนุมกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย เมื่อวันที่ 7 ต.ค. 51 อันมีนายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ อดีตนายก ฯ-เขยบ้านชินวัตร เป็นจำเลยที่ 1 ฐานเป็นเจ้าหน้าที่ปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ

โดยศาลนัดฟังคำพิพากษา 8 ส.ค.นี้ 

สองคือ คดีที่ “ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร” อดีตนายกฯ ถูกฟ้องตกเป็นจำเลยในคดีที่ไม่ระงับยับยั้งการทุจริตในโครงการรับจำนำข้าว ซึ่งเหลือการไต่สวนพยานอีก 1 นัด ในวันที่ 22 ก.ค. จากนั้นศาลก็จะนัดฟังคำพิพากษา ซึ่งคาดกันว่าอยู่ในปลาย ส.ค.-ก.ย.

กับอีก 1 คดีที่แม้ไม่ใช่คนในตระกูลชินวัตร แต่ผลของคดีก็สะเทือนถึงคดีของ “ยิ่งลักษณ์” คดีทุจริตจำนำข้าว

ที่อัยการสูงสุด เป็นโจทก์ยื่นฟ้อง นายภูมิ สาระผล อดีต รมช.พาณิชย์ ในฐานะประธานอนุกรรมการพิจารณาระบายข้าว จำเลยที่ 1 นายบุญทรง เตริยาภิรมย์ อดีต รมว.พาณิชย์ ในฐานะประธานอนุกรรมการพิจารณาระบายข้าว จำเลยที่ 2 และพวก ซึ่งเป็นอดีตนักการเมือง 3 คน ข้าราชการการเมือง 3 คน คดีทุจริตระบายข้าวจีทูจี

โดยศาลพิพากษาในวันที่ 25 ส.ค.ที่จะถึงนี้ 

เหตุที่คดีทุจริตจำนำข้าวที่มี “บุญทรง-ภูมิ” เป็นจำเลย สะเทือนไปถึงคดี “ยิ่งลักษณ์” ก็เพราะว่าคดีของ “ยิ่งลักษณ์” เป็นคดีที่ถูกฟ้องว่าเป็นนายกฯ แต่ไม่ระงับยับยั้งการทุจริต ปล่อยให้เกิดความเสียหาย

ดังนั้น หากคดีทุจริตจำนำข้าวของ “บุญทรง-ภูมิ” เป็นจำเลย ศาลพิพากษาว่าผิดจริง ผลแห่งคดีย่อมมีผลต่อคดี “ยิ่งลักษณ์” เต็ม ๆ

ดังนั้น ปฏิทินการพิจารณาคดี “บุญทรง-ภูมิ” ต่อด้วยคดีของ “ยิ่งลักษณ์” จึงน่าสนใจยิ่ง

น่าสนใจยิ่งกว่านั้น หลัง ก.ต. มีมติเอกฉันท์ไม่เห็นชอบนายศิริชัย วัฒนโยธิน ประธานศาลอุทธรณ์ ขึ้นดำรงตำแหน่งประธานศาลฎีกา ทำให้นายชีพ จุลมนต์ รองประธานศาลฎีกา ที่มีอาวุโสอันดับ 2 มีสิทธิ์นั่งเก้าอี้ประธานศาลฎีกาคนใหม่ โดยอนุ ก.ต. 3 ชั้นศาล นัดประชุมพิจารณาคุณสมบัติ ลงมติและเสนอรายงานให้ทันการประชุม ก.ต.ชุดใหญ่ในวันที่ 11 ก.ค.นี้

ที่น่าสนใจก็เพราะว่า “ชีพ” เป็นตุลาการเจ้าของสำนวนคดีของตระกูล-เครือข่ายชินวัตร ทั้ง 3 คดี

ถึงแม้ว่าจะมีข่าว เซอร์ไพรส์ ว่า “ศิริชัย” เตรียมจะฟ้อง ก.ต.ต่อศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง ในข้อหาปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ

ทว่ากลับมี “บิ๊กเซอร์ไพรส์” ยิ่งกว่า

เมื่อสุดท้ายออกมาแถลงทั้งน้ำตา “ไม่ฟ้อง” 

ความน่าสนใจของผลคำพิพากษาจึงมีน้ำหนัก-เขย่าขวัญตะกูลชินวัตร