คสช. แนวร่วม-แนวรบ รุกเงียบปิดคดี “ยิ่งลักษณ์” จำนำข้าว

ท่าที “พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา” นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) แม้ว่าจะแสดงออกถึงอาการ “หัวเสีย” ทุกครั้ง เมื่อถูกถามถึงความเคลื่อนไหวของบรรดาสายล่อฟ้า คสช.-แกนนำพรรคเพื่อไทย (พท.) ท่ามกลางความระทึกไม่ถึง 24 ชั่วโมงก่อนผลตัดสินคดีจำนำข้าวที่กำลังจะออกมา (24 ส.ค.)

“วันนี้ที่มีการยกมาเป็นหนึ่งคดีในแสนหรือล้านคดี ยกมาให้เป็นเรื่องอยู่ทุกวัน ทำอย่างไรให้เรื่องคดีความต่าง ๆ

เป็นเรื่องธรรมดาในสังคม คือ เข้าสู่การพิจารณาของกระบวนการยุติธรรมของศาล ถ้าปลุกระดมกันไปมา เห็นด้วย ไม่เห็นด้วย ต่อไปศาลก็ทำอะไรไม่ได้”

นอกจากนี้ยังมีความพยายามในการ “กันตัวเอง” ไม่ให้เข้ามามีส่วนร่วมต่อผลการตัดสินของศาล-ใช้กำลังคุมกองเชียร์ยิ่ง ลักษณ์ เพราะไม่ว่าผลคำตัดสินของศาลจะออกหัว ออกก้อย สถานการณ์จะเขม็งเกลียว-สงบเรียบร้อย ย่อมส่งผลต่อเสถียรภาพของรัฐบาล-คสช.

“ศาลตัดสินตามพยานและหลักฐานที่มีอยู่ อย่าคิดเอาเองและอย่าทำให้ประเทศชาติเกิดความวุ่นวายอีกเลย”

ยิ่งในช่วงใกล้หัวเลี้ยวหัวต่อ 22 ส.ค.ทที่ผ่านมา พล.อ.ประยุทธ์ ตอบคำถามสถานการณ์ในวันตัดสินจำนำข้าวว่า “มีอะไรหรือ เป็นวันอะไร วันศุกร์ หรือวันศุกร์ก็ดีใจซิ วันศุกร์แล้วผมจะได้พักผ่อน จะไปสนใจว่าเป็นวันอะไร ก็เป็นเรื่องของคดี หรือเป็นเรื่องของใครก็เป็นเรื่องของคนคนนั้น เรื่องของศาลคนที่จะนอนไม่หลับคงมีไม่กี่คนละมั้ง”

ย้อนลึกไปกว่า นั้น 21 ส.ค.วันที่ “ยิ่งลักษณ์” วันที่สืบพยานฝ่ายจำเลยนัดสุดท้าย ค่ำวันเดียวกัน “พล.อ.ประยุทธ์” กล่าวในรายการศาสตร์พระราชาสู่การพัฒนาอย่างยั่งยืน ตอนหนึ่ง-ประหนึ่งส่งสัญญาณถึงคดีสำคัญที่จะเกิดขึ้น ว่า สิ่งที่น่าห่วงอีกเรื่องหนึ่งคือ ภาพที่มีคนไทยหนีคดีไปอยู่ต่างประเทศนะครับ มีความเคลื่อนไหวในการบ่อนทำลายความน่าเชื่อถือของรัฐบาล

“รัฐบาลและ คสช. พร้อมให้ความเป็นธรรมทุกคดี ทุกคน ขอให้กลับเข้ามาสู่กระบวนการต่อสู้คดี ผมไปบังคับศาลไม่ได้ครับ ไม่ต้องกลัว ศาลก็คือศาล กระบวนการยุติธรรมคือกระบวนการยุติธรรม ผมมีหน้าที่ในการนำเข้าเท่านั้นเอง”

ท่าที “พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ” รองนายกรัฐมนตรีและหัวหน้าฝ่ายความมั่นคง- “พี่ใหญ่ คสช.” ยังคงใช้

“ความสงบสยบความเคลื่อนไหว” แต่อีกด้านหนึ่งเล่น “บทดุ” เชียร์ได้แต่อย่าป่วน และมั่นใจว่า หากผลคำตัดสินของศาลจะออกมาใน “ทางลบ” ต่อ น.ส.ยิ่งลักษณ์ แต่จะไม่เกิดความวุ่นวาย-แยกย้ายกันกลับบ้าน

“ไม่กังวลกับสถานการณ์ ไม่ต้องเพิ่มมาตรการรักษาความปลอดภัย สถานการณ์ไม่น่าเป็นห่วง”

จับสัญญาณ “สุเทพ เทือกสุบรรณ” อดีตเลขาธิการ กปปส.- “หัวหน้าม็อบนกหวีด” ได้ให้สัมภาษณ์เมื่อ 4 ส.ค. ที่ผ่านมาว่า “ถึงเวลาแล้วที่ทุกฝ่ายต้องเคารพกติกาของบ้านเมือง เพื่อให้ประเทศเดินหน้าต่อได้ ตนไม่เชื่อว่าเหตุการณ์ดังกล่าวจะกระทบต่อความปรองดอง เพราะคนไทยทั้งประเทศตระหนักดีว่า นี่คือภาระหน้าที่ที่ต้องทำเพื่อประเทศชาติ”

ท่าที พรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) โดย “อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ” หัวหน้า ปชป.

“เชื่อว่าผลของคำตัดสินจะไม่ทำให้เกิดความวุ่นวาย ได้กำชับ นพ.วรงค์ และอดีต ส.ส.อีกหลายคนในพรรค ให้ระมัดระวังตัวอย่างต่อเนื่อง ไม่ประมาท เพราะอยู่ในช่วงวันตัดสินคดีโครงการรับจำนำข้าว”

ขณะที่ผู้ใหญ่ภายใน พรรคได้กำชับรองหัวหน้าพรรคที่รับผิดชอบแต่ละภาคให้กำชับอดีต ส.ส.-สมาชิกพรรค ระมัดระวังการใช้คำพูด อย่าใช้ลักษณะยั่วยุ ท้าทาย หรือซ้ำเติม

“โดยเฉพาะคนที่มีหน้าที่ให้ข่าวที่เป็นสัญลักษณ์ของพรรค ขอให้ระมัดระวังท่าทีไม่แสดงออกในเชิงซ้ำเติม หรือกระแนะกระแหน เพราะไม่เป็นผลดี” แหล่งข่าว ปชป.ระบุ

ปฏิกิริยากองทัพ ยังไม่ประมาทสถานการณ์แม้หลังคำพิพากษาจบไปแล้ว

“พล.อ.เฉลิม ชัย สิทธิสาท” ผู้บัญชาการทหารบก (ผบ.ทบ.) ในฐานะเลขาธิการ คสช. จัดทัพ-รับมือ “worst case” กรณีเลวร้ายที่สุดที่อาจเกิดขึ้นได้ เขายังมองโลกในแง่ดีว่าทุกอย่างน่าจะคลี่คลายไปด้วยดีไม่น่ามีอะไรที่เป็นปัญหา แต่ก็ไม่ได้นิ่งนอนใจ ทุกอย่างมีแผนรองรับ สบายใจว่าเราเตรียมแผนรองรับทุกอย่างที่จะเกิดขึ้นไว้เรียบร้อยแล้ว

มหากาพย์จำนำข้าว มิใช่เป็นการเดิมพันเฉพาะฝ่ายยิ่งลักษณ์เท่านั้น แต่ฝ่ายอนุรักษ์ ขุนทหาร ก็ลุ้นเดิมพันในเกมนี้ด้วย