พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาควาสงบแห่งชาติ (คสช.) ให้สัมภาษณ์ภายหลังการประชุมคณะรัฐมนตรี ถึงการแสดงวิสัยทัศน์การเป็นนายกรัฐมนตรี ว่า ที่ผ่านมาตนพยายามทำหน้าที่อย่างดีที่สุด แก้ปัญหาต่างๆ มากมาย มีวิสัยทัศน์อยู่แล้วคือ มั่นคง มั่งคั่ง ยั่งยืน ภายใต้หลักการนี้คือการมองอนาคตไปข้างหน้า พร้อมทั้งมีแผนปฏิบัติราชการ มีการวางแผนยุทธศาสตร์ชาติ มีแผ่นแม่บท เพื่อให้เกิดความต่อเนื่องในการบริหารราชการแผ่นดิน และเพื่อให้ลดความเหลื่อมล้ำ กระจายรายได้ เชื่อมโยงกันทุกมิติทั้งกายภาพและดิจิทัล ต้องปรับตัวให้สอดคล้องกับสถานการณ์ขณะนี้ด้วย
ส่วนกรณีที่บางพรรคยังไม่ตอบร่วมรัฐบาลกับพรรคพลังประชารัฐนั้น พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า อย่าเพิ่งไปมองว่าจะเกิดอะไรขึ้น เพราะยังไม่เกิดขึ้น รอดูหลังจากวันพรุ่งนี้ (5 มิ.ย.) ไปก่อน ขอให้เป็นเรื่องวิถีทางการเมือง ทุกคนทราบดีอยู่แล้ว ทุกคนมุ่งหวังให้เกิดเสียงข้างมาก แต่จะมากจะน้อยเพียงใดต้องเคารพเสียงของประชาชนที่เลือกมา
- กรุงไทย ปิดระบบ-แอป Next 11-12 และ 14 พ.ค. นี้ เช็กรายละเอียด
- เปิด 20 อันดับมหาวิทยาลัย ที่โดดเด่นด้านวิศวกรรมศาสตร์
- กรุงไทย เตือนลูกค้าอัพเดต Android เวอร์ชั่นล่าสุด ก่อนใช้แอปไม่ได้
“ทุกคนอยากให้ตั้งรัฐบาลให้เร็ว คนที่อยู่ในในกลไกตั้ง ครม. ก็ต้องหาทางออกให้ได้ ในการเป็นรัฐบาลที่เข้มแข็งมีเสถียรภาพ เพราะไม่ใช่รัฐบาลของพรรคใด แต่เป็นรัฐบาลของประชาชน รัฐบาลของประเทศ ดังนั้น ต้องหาทางออกกันให้ได้ ทุกคนมุ่งหวังทำงานการเมือง เพื่อประชาชนด้วยกันทั้งสิ้น ประชาชนรอความหวังจากรัฐบาลนี้อยู่” พล.อ.ประยุทธ์ กล่าว
เมื่อถามว่า หลังการตั้งรัฐบาลแล้วจะทำให้การเมืองสงบเรียบร้อยขึ้นหรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า ไม่อยากให้มองสถานการณ์การเมืองอย่างเดียว ต้องมองความมีเสถียรภาพ ความมั่นคง มิติด้านสังคม สิ่งแวดล้อม มองการเมืองอย่างเดียวไม่ได้ เพราะการเมืองเป็นเพียงกลไกหนึ่งในการทำหน้าที่คนทุกหมู่ทุกเหล่า เราเป็นรัฐบาลโดยประชาชนเพื่อประชาชนทั้งสิ้น ภายใต้ระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข นายกฯ ทำคนเดียวไม่ได้ทั้งหมดหรอก ทุกคนต้องร่วมกันจะแบ่งแยกกันไม่ได้ ทั้งนักการเมือง ข้าราชการ ภาคเอกชน ประชาชน ทุกคนมีส่วนร่วมในการทำให้ประเทศชาติเดินไปข้างหน้า
“หลายคนอยากถามว่าการโหวตนายกฯ จะเป็นอย่างไร ขอให้มองในทางที่ดีอย่ามองในทางที่ไม่ดี ผมเชื่อในวุฒิภาวะ ส.ส ส.ว ผู้ทรงเกียรติทั้งหลาย รวมถึงขีดความสามารถประธานรัฐสภา (นายชวน หลีกภัย) และรองประธานรัฐสภา (นายพรเพชร วิชิตชลชัย) ทั้งสองท่าน น่าจะทำให้การประชุมวาระเลือกนายกฯ เป็นไปตามกฎหมายที่เกี่ยวข้อง แต่อยากให้พูดเฉพาะวาระกำหนด ไม่ใช่การเปิดอภิปรายไม่ไว้วางใจ ไว้ในโอกาสต่อไปไม่ใช่ในขณะนี้ คิดว่าคนไทยทุกคนมุ่งหวัง คาดหวัง ฟังการประชุมสภาครั้งแรก อยากให้ทุกคนมั่นใจ ในนักการเมือง ส.ส.ต่างๆ ที่ได้รับเลือกตั้งเข้ามาทำหน้าที่ผู้ทรงเกียรติ และทุกคนทราบดีถึงปัญหาในประเทศไทยที่เกิดขึ้นมาตลอด 10 ปี ทุกคนต้องเอามาเป็นบทเรียนว่าจะทำอย่างไรไม่ให้เกิดขึ้นอีก ทำอย่างไรไม่ให้ประชาชนเบื่อหน่าย ให้ประชาชนเชื่อมั่น สิ่งที่หาเสียงไว้สามารถดำเนินการได้ตามขั้นตอน ตามความเหมาะสม ตามสถานการณ์ ทุกอย่างไม่มีอะไรจะได้โดยเร็วทั้งหมด เพราะต้องคำนึงถึงภาระงบประมาณของรัฐ ถ้ายังเป็นแบบเดิมๆ ประเทศไทยจะเสียโอกาสอีกมากมาย เศรษฐกิจโลกยังมีปัญหา สงครามการค้ายังไม่จบสิ้น สิ่งเหล่านี้มีผลกระทบต่อไทยและอาเซียน” พล.อ.ประยุทธ์ กล่าว
พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า หลายคนบอกว่าอยากให้ปฏิรูปการเมือง เราเริ่มต้นมาระยะหนึ่งแล้ว ต่อไปนี้เป็นการปฏิรูปในระบบรัฐสภา โดย ส.ส. ส.ว.ผู้ทรงเกียรติทั้งหลาย ให้การปฏิรูปการเมืองเดินหน้าไปด้วยดี ไม่ให้กลับไปสู่ปัญหาเดิมๆ อีกจึง เริ่มจากการประชุมครั้งนี้ครั้งแรกที่จะแสดงให้ประชาชนมั่นใจ ว่าเลือกคนมาไม่ผิด ไม่เกี่ยวกับพรรคใดพรรคหนึ่ง
