จำคุก 1 ปี “นาที-นายทุน” สปอนเซอร์หลัก “ภูมิไจไทย” แม่ทัพภาคใต้ ผู้ปักธง ส.ส. 7 ที่นั่ง

“นางนาที รัชกิจประการ” ติดโผแคนดิเดตว่าที่รัฐมนตรีกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ในโผคณะรัฐมนตรี พล.อ.ประยุทธ์ 2/1 ตั้งแต่วันแรกที่ผลเลือกตั้งจบ กวาด ส.ส.ภาคใต้ ให้พรรคภูมิใจไทย ถึง 7 ที่นั่ง

ผู้อยู่เบื้องหลังความสำเร็จที่ นายอนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรคอ้างถึงเสมอทุกเวที ว่าเป็น “ตัวหลัก” ในการหาทุนหาเสียงเลือกตั้งภาคใต้

แต่เมื่อชื่อ “นาที” ผู้เป็นภรรยา ซึ่งสนธิกำลังกับสามี “พิพัฒน์ รัชกิจประการ” เจ้าของอาณาจักรปั๊มน้ำมัน “พีที” ปรากฏข่าวว่าจะขึ้นศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง

โผ ครม. จึงต้องสลับชื่อของ “นาที” กับ “พิพัฒน์” ให้ผู้เป็นสามีแบบกะทันหัน ในตำแหน่งเดิม คือ รมว.ท่องเที่ยวฯ

เส้นทางการเมือง “นาที” นอกจากเคยเป็น ส.ว.จังหวัดพัทลุง ในการเลือกตั้ง ส.ว.ปี’49 หลังรัฐประหาร 19 ก.ย.2549 เคยเป็น “นายทุน” ดูแลพื้นที่ภาคใต้ฝั่งอันดามันให้กับพรรคพลังประชาชน (พปช.)

Advertisment

และเคยเป็นเลขานุการนายชัย ชัยชิดชอบ เมื่อครั้งเป็นประธานสภาผู้แทนราษฎร ซึ่งเป็นช่วงที่กลุ่มเพื่อนเนวิน มีบทบาทสูงใน พปช. แต่หลังจาก พปช.ถูกยุบพรรค และเกิดการแตกขั้วกันภายใน ลามมาถึงสลับขั้วรัฐบาล “นาที” จึงมาอยู่ฝั่งถูมิใจไทยตั้งแต่นั้น

และเป็นผู้ดูแลการเลือกตั้งปลายด้ามขวานให้กับภูมิใจไทย ตั้งแต่ปี 2554 และยังเป็น ส.ส.บัญชีรายชื่อของพรรค กระทั่งในการเลือกตั้ง 2562 สามารถปักหมุดภูมิใจไทยกวาดได้ถึง 7 ที่นั่ง ล้มแชมป์ประชาธิปัตย์ได้หลายเขต

กระทั่งมีชื่อเป็นรัฐมนตรี แต่ต้องติดชนักคดีความ เมื่อศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ออกนั่งบัลลังก์ โดยมี “นายธงชัย เสนามนตรี” ผู้พิพากษาเจ้าของสำนวน พร้อมองค์คณะผู้พิพากษา 9 คน

นัดพิจารณาครั้งแรกเพื่อสอบคำให้การจำเลย คดีหมายเลขดำ อม.346/2561 ที่ “คณะกรรมการ ป.ป.ช.” ผู้ร้อง ยื่นฟ้อง “นางนาที” ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคภูมิใจไทย 2 สมัย ผู้ถูกกล่าวหากระทำความผิดตาม พ.ร.ป.ว่าด้วยการปราบปรามการทุจริต พ.ศ.2542 มาตรา 32, 33, 34

Advertisment

จากข้อกล่าวหาที่ “นางนาที” จงใจแจ้งบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สินอันเป็นเท็จหรือปกปิดข้อเท็จจริงอันควรแจ้งให้ทราบ หลังพ้นจากตำแหน่ง ส.ส.บัญชีรายชื่อพรรคภูมิใจไทย เมื่อปี 2556 ไม่แจ้งทรัพย์สินเป็นบ้าน มูลค่า 2 ล้านบาท และหนี้สินของนายพิพัฒน์ รัชกิจประการ สามี จำนวน 93 ล้านบาทเศษ โดยนางนาทีให้การรับสารภาพ ทำให้ศาลอ่านคำพิพากษา โดยไม่มีการไต่สวน

ซึ่งศาลเห็นว่าจงใจแจ้งบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สินอันเป็นเท็จหรือปกปิดข้อเท็จจริงอันควรแจ้งให้ทราบ ใน 2 ประเด็น คือกรณีเข้ารับตำแหน่ง ส.ส. เมื่อวันที่ 25 สิงหาคม 2554 แต่คดีขาดอายุความและกรณีพ้นจากตำแหน่ง ในปี 2557 ไม่ชี้แจงทรัพย์สิน 2 รายการ คือ ที่ดิน 2 แปลงมูลค่า 2 ล้านบาท และหนี้สินของสามี มูลค่า 93 ล้านบาท

“ศาลพิพากษาจำคุก 2 เดือน ปรับ 8,000 บาท แต่จำเลยให้การรับสารภาพและไม่เคยต้องคดีมาก่อนโทษจำคุกลดลงกึ่งหนึ่งเหลือจำคุก 1 เดือน ปรับ 4,000 บาท โทษจำคุกให้รอลงอาญา 1 ปี ส่วนคำขอให้ตัดสิทธิทางการเมือง 5 ปีนั้นให้เริ่มนับตั้งแต่วันที่ 9 ธันวาคมปี 2556”

หลังฟังคำพิพากษา “นางนาที” มีอาการคล้ายเป็นลมจนต้องมีคนประคอง ต่อมา นายนรวิชญ์ หล้าแหล่ง ทนายความจำเลย กล่าวว่า วันนี้นางนาทีไม่ค่อยสบาย แต่ก็ได้ฝากขอบคุณสื่อมวลชนทุกคนและยังฝากขอบคุณศาลที่ให้ความเมตตา ซึ่งทุกอย่างก็ได้จบลงด้วยดี

“ส่วนเรื่องกรณีที่ผลจากคำพิพากษาของศาลจะทำให้นางนาทีพ้นจากตำแหน่ง ส.ส.หรือไม่นั้นก็ต้องไปว่ากันอีกทีหลังจากนี้ ตนเพียงได้รับมอบหมายให้ดูเฉพาะในส่วนของคดีความเท่านั้น ส่วนเรื่องคุณสมบัติ ส.ส.ขณะนี้ยังไม่ทราบ ขอทำหน้าที่ในฐานะของทนายความในคดีก่อน ส่วนเรื่องจะอุทธรณ์คดีหรือไม่นั้นจะต้องมีการพูดคุยปรึกษากันอีกทีนึง” ทนายความกล่าว

อย่างไรก็ตาม บุคคลที่จะเลื่อนลำดับขึ้นมาเป็น ส.ส.บัญชีรายชื่อของพรรคภูมิใจไทยแทนนางนาที คือ นายเศรษฐพงษ์ มะลิสุวรรณ โฆษกพรรคภูมิใจไทย