“อุตตม” แจงยิบปมปล่อยกู้ธ.กรุงไทย ลั่น “ผมบริสุทธิ์” ซัด “คนหนีไปตปท.- คนอมเงินทอน”

แฟ้มภาพ

เมื่อวันที่ 26 ก.ค. นายอุตตม สาวนายน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังลุกขึ้นใช้สิทธิ์ชี้แจงกรณีการปล่อยกู้สินเชื่อธนาคารกรุงไทยทุจริตประมาณ 9 หมื่นล้านบาทระหว่างการประชุมร่วมกันของรัฐสภา ครั้งที่ 4 (สมัยสามัญประจำปีครั้งที่ 1) เพื่อแถลงนโยบายของรัฐบาลต่อรัฐสภาวันที่ 2 ว่า ตนยืนยันว่า ตนมีคุณสมบัติครบถ้วนในการดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เพราะมีความบริสุทธิ์ ยืนยันไม่ได้กระทำผิดแน่นอน

เรื่องเงินกู้ทุจริตธนาคารกรุงไทย มีการตรวจสอบทุกขึ้นตอนจากองค์กรอิสระและศาลโดยมีคำพิพากษามาโดยตลอด ทุกขั้นตอน ตั้งแต่ขั้นตอนของธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เมื่อปี 47 สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สตช.) และสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ปปช.) เมื่อปี 48  คณะกรรมการตรวจสอบการกระทำต่อความเสียหายของรัฐ (คสต.) เมื่อปี 49 อัยการสูง (อสส.) เมื่อปี 56 และศาลฎีกาแผนกคคีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ซึ่งพิพากษาเป็นที่ยุติแล้วว่าตนเป็นผู้บริสุทธิ์

“ไม่ใช่ตกหล่น แต่ปรากฏพยานหลักฐานชัดเจน ในฐานะที่ผมเป็นกรรมการอิสระ ด้วยความซื้อสัตย์สุจริต ท่านคิดได้ว่า ผมผิด ผมมัวหมอง แต่สังคมจะเป็นคนตัดสินใจ”

“ผมผ่านการตรวจสอบทุกขั้นตอน ไม่ใช่แต่ศาล ไม่ได้เข้าไปยุ่งเกี่ยวกับการบริหารกิจการของธนาคารกรุงไทยแต่ประการใด เพราะเป็นกรรมการอิสระ”

“ผมมีการทักท้วงในการอนุมัติสินเชื่อนั้น ผมเป็นผู้เดินเข้าไปหาธปท.ด้วยตัวเอง พร้อมให้ข้อมูลอย่างเต็มที่และมีข้อวินิจฉัยกล่าวโทษกลุ่มบุคคลหนึ่ง แต่ผม ธปท. ไม่ได้กล่าวโทษ ซึ่งธปท.มีมติว่าผมไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง”

นายอุตตมกล่าวว่า ธปท.ส่งเรื่องการทุจริตไปที่ปปช. แต่เมื่อเกิดการรัฐประหารเมื่อปี 49 และส่งไปที่ คตส. และคตส.ไต่สวนใหม่ตั้งแต่ต้น มีการเรียกผู้เกี่ยวข้อเข้าไปหลายครั้ง

“การถูกคสต.เรียกไปไต่สวนสอบสวน เป็นความทุกข์จริง ๆ ผมเป็นผู้ถูกกล่าวหาลำดับที่19 เมื่อคตส.ไต่สวนแล้วมีมติว่าผมไม่ได้กระทำความผิด ทำให้ข้อกล่าวหาของผมตกไป ยืนยันได้ว่า มีหนังสือจาก ปปช. ว่า คตส.พิจารณาแล้ว มีพยานหลักฐานว่าผมไม่ไดกระทำความผิด ทำให้ข้อกล่าวหาตกไป”

“ผมไม่ได้ถูกกันไว้เป็นพยาน แต่ผมถูกกล่าวหาเต็ม ๆ ผ่านกระบวนการเต็มที่”

นายอุตตมกล่าวต่อว่า คตส.มีมติแล้วไม่มีความผิดและส่งต่อให้อสส. และอสส.ตั้งคณะทำงานร่วมกับปปช. สุดท้ายมตเช่นเดียวกับ คตส. ไม่ได้กระทำความผิด เป็นผู้บริสุทธิ์

“อสส.เป็นผู้สั่งฟ้องเอง 27 ราย ใช้เวลา 4 ปี ต่อมาศาลฎีกาฯ ไม่ปรากฏชื่อผม เพราะผมผ่านกระบวนการยุติธรรม ผ่านการพิสูจน์ และศาลฎีกาฯมีมติผู้กระทำความผิด 25 คน ไม่มีผมเป็นจำเลย เพราะผมไม่ได้ถูกร้องตั้งแต่ต้น”

นายอุตตมกล่าวว่า ที่บอกว่ากรรมบริหารต้องรับผิดชอบด้วยนั้น หมายถึงกรรมการบริหารที่ถูกฟ้อง 3 คนเท่านั้น ผมไม่ได้ถูกฟ้องตั้งแต่แรก

“คนกล่าวหาว่าผมวิ่งเต้น มีผู้ใหญ่ช่วยเหลือ เป็นไปได้อย่างไร การวิ่งเต้นผ่านกระบวนการทุกขึ้นตอนที่กล่าวมา ทำได้หรือครับ แต่มีคนพยายามบิดเบือนข้อเท็จจริง”

นายอุตตมกล่าวว่า แต่เมื่อปี 60 จะเอาผิดตนให้ได้ โดยบอกว่ามีหลักฐานใหม่ โดยยื่นต่อ ปปช. และ กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) แต่สุดท้ายมีมติว่าเป็นหลักฐานเดิมทั้งสิ้น จึงมีมติให้คำร้องตกไป

“การปล่อยกู้ครั้งนี้ ไม่ใช่เป็นเรื่องของกรรมการบริหารเท่านั้น แต่ยังมีอีก 2 คดีที่เกี่ยวข้อง 1.มีผู้ถูกกล่าวหาจำเลยที่ยังหลบหนี้ไปต่างประเทศ ไม่ยอมเข้าสู่กระบวนการยุติธรรม และ 2. มีผู้ได้รับเงินทอนจากการปล่อยกู้ครั้งนี้ แต่ผมไม่ขอก้าวล่วง”

นายอุตตมกล่าวว่า คดีกรุงไทยมีการเตรียมการ มีการสมคบ โดยที่กรรมการบริหารไม่รู้เรื่อง แต่มาถูกค้นพบภายหลัง ผมได้ทำการทักท้วงแล้วด้วยตัวเองและผ่านการตรวจสอบทุกขั้นตอน

“มีผู้กล่าวอ้างว่า จะมีผลกระทบต่อการทำหน้าที่ของผมในฐานะรมว.คลัง เพราะจะทำให้ให้มัวหมอง ขาดจริยธรรม มัวหมอง ซึ่งผมทำให้กระจ่าง เป็นเรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อ 16 ปีที่แล้ว มีหลักฐานเป็นที่ประจักษ์”

“กระบวนการยุติธรรมพิสูจน์แล้วว่าผมไม่ได้กระทำความผิด ผมยินดีให้ตรวจสอบเสมอ แต่ขอให้อยู่ในกรอบ ไม่บิดเบือนจนเกินไป ขอยืนยันว่า ผมจะยึดมั่นในหลักการ ยึดมั่นผลประโยชน์ของประเทศเป็นสำคัญ”นายอุตตมอภิปรายทิ้งท้าย