“วิ่งไล่ลุง” คึก 1.3 หมื่นคนแห่ร่วม “ธนาธร” ลั่น เป็นจิตวิญญาณไม่จำนนเผด็จการ

ผู้สื่อข่าวรายงานบรรยากาศงาน ‘วิ่งไล่ลุง’ ที่สวนวิชรเบญจทัศ หรือสวนรถไฟ กรุงเทพฯ มีประชาชนที่เข้าร่วมงานทยอยเดินทางอย่างต่อเนื่องตั้งแต่เวลา 05.00 น. มีการใส่เสื้อยืดสกรีนข้อความ ‘วิ่งไล่ลุง’ ซึ่งเป็นเสื้อของงาน ทั้งนี้ ได้มีเจ้าหน้าที่ตำรวจทั้งในและนอกเครื่องแบบ รวมถึงเจ้าหน้าที่เทศกิจ ตั้งจุดคัดกรองเพื่อตรวจสัมภาระของผู้เข้ามาร่วมงาน โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจขอความร่วมมือไม่ให้มีการนำป้ายข้อความที่มีลักษณะพาดพิงทางการเมืองเข้าไปภายในบริเวณงาน

ขณะที่ภายในงานมีการตั้งเวทีขนาดใหญ่ เขียนข้อความ ‘หยาดเหงื่อทุกหยดเพื่ออนาคตประเทศไทย’ และ ‘ออกยากกว่าพุงก็ลุงนี่แหละ’ พร้อมภาพวาดโดย ‘ไข่แมว’ มีการเปิดเพลง ‘ประเทศกูมี’  และเพลง ‘วิ่งไล่ลุง’ โดยวง rap against dictatorship

ในงาน “วิ่งไล่ลุง” มีบุคคลในแวดวงการเมือง เข้าร่วมงานอาทิ นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ (อนค.) ที่มาพร้อมครอบครัว น.ส.พรรณิการ์ วินิช โฆษกพรรคอนค. นายรังสิมันต์ โรม ส.ส.บัญชีรายชื่อ อนค. และ ส.ส.พรรค อนค. นายกิตติรัตน์ ณ ระนอง อดีตรองนายกรัฐมนตรี ในรัฐบาล น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายสมชัย ศรีสุทธิยากร รองประธานคณะกรรมาธิการ (กมธ.) วิสามัญศึกษาแนวทางการแก้ไขรัฐธรรมนูญ พ.ศ.2560 และอดีตผู้สมัคร ส.ส.ประชาธิปัตย์ พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง เลขาธิการพรรคประชาชาติ (ปช.) และ นางอังคณา นีละไพจิตร อดีตคณะกรรมการสิทธิมนุษยชแห่งชาติ(กสม.) มาร่วมสังเกตการณ์

นอกจากนี้ยังมี นายจอห์น วิญญู นางสาวณัฏฐา มหัธนา หรือโบว์ ที่นำมวลชนตะโกน ‘ประยุทธ์ออกไป ประชาธิปไตยจงเจริญ’ จากนั้นเป็นการปล่อยตัวนักวิ่ง ซึ่งต่างชู 3 นิ้วขณะออกตัวจากจุดปล่อยตัว ในเวลา 07.00 น.

ด้านนายธนาธร ให้สัมภาษณ์ก่อนร่วมกิจกรรม”วิ่งไล่ลุง” ว่า รู้สึกตื่นเต้นมาก เนื่องจากมีประชาชนมากมายมาร่วมงาน จนไม่สามารถระบุได้ว่ามีจำนวนเท่าไร แสดงให้เห็นว่าวันนี้พี่น้องประชาชนตื่นตัว และเข้าใจสถานการณ์การเมือง และเข้าใจว่ามี”ลุง”ที่เป็นตัวฉุดรั้งความเจริญก้าวหน้าของประเทศเอาไว้ จึงมาแสดงพลังของประชาชนร่วมกัน  อยากส่งสัญญาณว่า ตนและพรรคอนาคตใหม่ เป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกันกับประชาชนที่ต้องการเห็นความก้าวหน้าความเปลี่ยนแปลงของประเทศไทย ซึ่งมีแต่การที่ประชาชนรวมพลังกันเท่านั้น จะสามารถนำมาซึ่งความเปลี่ยนแปลงนี้ได้ ดังนั้น เราจึงมาร่วมกิจกรรมในวันนี้ เพื่อเป็นส่วนหนึ่งของกระแสธารของประวัติศาสตร์

“นี่คือเสียงของประชาชนที่บอกว่าเราไม่พอใจกับการสืบทอดอำนาจของคสช. เราต้องการเห็นการเปลี่ยนแปลง ต้องการประชาธิปไตยกลับคืนมา นี่คือจิตวิญญาณของคนที่ไม่ยอมจำนนต่อเผด็จการ”

เมื่อถามว่า นอกจากกิจกรรม”วิ่งไล่ลุง” ในฐานะแกนนำจัดกิจกรรม”แฟลชม็อบ” จะมีการจัดกิจกรรมในลักษณะนี้อีกหรือไม่ นายธนาธร กล่าวว่า เชื่อว่า ปี 2563 เราจะเห็นการชุมนุมของประชาชนไม่ว่าจะเป็นกลุ่มที่เรียกร้องประชาธิปไตย กลุ่มที่ต้องการเห็นรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ที่เป็นของประชาชน กลุ่มเรียกร้องปัญหาที่ดินและประมง เราคงได้เห็นการชุมนุมของประชาชนออกมามากขึ้น

นายธนาธร กล่าวต่อว่า สิ่งที่เราเห็นในรอบสองสัปดาห์ที่ผ่านมา เป็นเผด็จการที่ยังหลงเหลืออยู่ ขณะที่มีประชาชนจำนวนมากจัดงาน”วิ่งไล่ลุง ” ในต่างจังหวัดกลับถูกเจ้าหน้าที่ข่มขู่ คุกคาม เข้าไปเยี่ยมบ้าน กระบวนการดังกล่าวไม่ใช่ประชาธิปไตย แต่คือซากเดนของเผด็จการ ที่ยังหลงเหลือในประเทศ ตนขอเรียกร้องให้เจ้าหน้าที่ยุติการข่มขู่คุกคาม ประชาชนที่ลุกขึ้นมาแสดงสิทธิเรียกร้องประชาธิปไตย ตนขอเชิญชวน ประชาชนทุกคนจงกล้าหาญ ต่อสู้กับอำนาจอยุติธรรม เขาต้องการให้เรากลัว ถ้าเรากลัวก็จะเข้าทางพวกเขา ถ้าเรากลัว การเปลี่ยนแปลงจะไม่เกิดขึ้นจริง และไม่มีทางได้สังคมที่ดีกว่านี้ขึ้นมา ตนขอเรียกร้องไปยังเจ้าหน้าที่ และพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ขอให้เลิกข่มขู่ประชาชน ที่มีสังคมประชาธิปไตย เปิดโอกาสให้ให้มีการแสดงความคิดและความเชื่อออกมา

เมื่อถามถึง กรณีที่จะมีการพิจารณาตัดสินยุบพรรคอนาคตใหม่ในวันที่ 21 มกราคม นี้ นายธนาธร กล่าวว่า อย่างที่เราบอกเสมอ จิตวิญญาณของการต่อสู้เพื่อประชาธิปไตย และความยุติธรรมก็ยังคงมีอยู่ ดังนั้นการยุบพรรคไม่ช่วยอะไร ตนอยากให้เผด็จการทราบว่าวิธีเดียวที่จะทำได้คือการปล่อยให้ประชาธิปไตยกลับคืนสู่ประเทศ

เมื่อถามถึงการจัดงาน” เดินเชียร์ลุง “ที่สวนลุมพินี นายธนาธร กล่าวว่า ตนไม่รู้ว่ามีคนมาเท่าไร ไม่ได้อยู่ในจุดที่ให้คอมเมนต์เรื่องนี้ได้ ประชาชนตระหนักรู้ถึงความเป็นเผด็จการที่เกิดขึ้น สถานการณ์การเมืองตอนนี้ แสดงให้เห็นว่าประชาชนมีความกลมเกลียวร่วมกัน แสดงให้เห็นว่า เวลาของเผด็จการกำลังจะสิ้นสุดลงแล้ว

ขณะเดียวกันมีรายงานจากหน่วยงานความมั่นคงว่า สถานการณ์วิ่งไล่ลุงที่ลานกิจกรรมสวนรถไฟยอดมวลชนเข้าไปในพื้นที่มวลชนที่ผ่านจุดคัดกรองประตู 1, 3 และ 4 ยอดรวมประมาณ 13,260 คน (เฉพาะหน้าเวที 6,000 คน) โดยแกนนำหลักที่ปรากฏคือ นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ, นายธนวัฒน์ วงค์ไชย, น.ส.ณัฏฐา มหัทธนา และนายจอน วิญญู ส่วนที่สวนสาธารณะสมเด็จย่า นายทองแดง เบ็ญจะปัก ส.ส.พรรคอนาคตใหม่ จ.สมุทรสาคร จัดกิจกรรม มีมวลชนประมาณ 40 คน เหตุการณ์ทั่วไปปกติ ยุติกิจกรรม

นอกจากนี้ในส่วนของภูมิภาค จ.อุบลราชธานี ประมาณ 400 คน ยุติกิจกรรม, จ.เชียงใหม่ ประมาณ 300 คน เริ่มทำกิจกรรมออกจากท่าแพฯ, จ.นครศรีธรรมราช จุดที่ 1 ที่วัดพระมหาธาตุวรมหาวิหาร ประมาณ 36 คน และจุดที่ 2 ม.วลัยลักษณ์ ประมาณ 50 คน ยุติกิจกรรม, จ.มหาสารคาม ประมาณ 120 คน, จ.ปัตตานี ประมาณ 300 คน, จ.ตาก จำนวน 10 คน ยุติกิจกรรม

จ.นครพนม จำนวน 10 คน, จ.ภูเก็ต จำนวน 9 คน เริ่มกิจกรรม, จ.นนทบุรี จำนวน 50 คน, จ.ฉะเชิงเทรา 300 คน ยุติกิจกรรม, จ.ร้อยเอ็ด จำนวน 30 คน ยุติกิจกรรม, จ.พิษณุโลก ประมาณ 200 คน, จ.บุรีรัมย์ จุดที่ 1 จำนวน 5 คน จุดที่ 2 ยุติกิจกรรม จำนวน 15 คน, จ.มุกดาหาร จำนวน 40 คน ยุติกิจกรรม, จ.พิจิตร จำนวน 20 คน ยุติกิจกรรม จ.สมุทรปราการ ประมาณ 50 คน, จ.พัทลุง ประมาณ 80 คน, จ.ปทุมธานี ประมาณ 60 คน เริ่มกิจกรรม, จ.พังงา ประมาณ 50 คน ยุติกิจกรรม, จ.นครปฐม ประมาณ 120 คน ยุติกิจกรรม, จ.กระบี่ จำนวน 10 คน ยุติกิจกรรม และ จ.อุดรธานี จำนวน 120 คน ยุติกิจกรรม

สำหรับสวนลุมพีนี กิจกรรมเดินเชียร์ลุง (กลุ่มสนับสนุน) ผ่านจุดคัดกรอง 8,000 คน (เฉพาะหน้าเวที ประมาณ 3,200 คน) นำโดย นพ.เหรียญทอง แน่นหนา และ ร.ต.อ.ทรงกรด ชื่นชูผล อยู่ระหว่างรับเสื้อ หมวก และยังมีมวลชนทยอยเข้าพื้นที่ กิจกรรมยังไม่เริ่ม