“ประยุทธ์” ย้ำ พ.ร.ก.ฉุกเฉินยังจำเป็น “โควิด” ทั่วโลกยังไม่จบ

วันที่ 23 มิถุนายน 2563 พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม แถลงภายหลังการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ว่า รวมไทยสร้างชาติ คือ new normal ของรัฐบาล ยกตัวอย่างเรื่องการประชุมคณะกรรมการยุทธศาสตร์ชาติและการปฏิรูปประเทศ 5 ปีแรก ซึ่งคณะกรรมการจะมีการปรับเปลี่ยนทุก 5 ปี ให้หลักการปรับปรุงแผนดังกล่าวแล้ว เอารวมไทยสร้างชาติขับเคลื่อนแผนข้างใน 6 ยุทธศาสตร์ที่เป็นพื้นฐานของประเทศ อยากให้ประชาชนเข้าไปมีส่วนร่วมในการปรับปรุงแผนดังกล่าว โดยมีระบบให้ประชาชนติดตามความก้าวหน้า โดยจะมีการรายงานรัฐสภาทุกๆ 3 เดือน และข้อสำคัญต้องยึดโยงกับความต้องการประชาชนในพื้นที่ ให้เลขาธิการสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติติดตามเรื่องนี้

พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า หลายคนมองว่าจะลงพื้นที่เราเท่าไหร่ เราต้องนึกถึงโครงสร้างด้วยที่จะทำให้เกิดโครงสร้างทุกๆ เรื่องทั้งเกษตร ลดความเหลื่อมล้ำ ความมั่นคง พัฒนาทรัพยากรมนุษย์ ปรับระเบียบบริหารราชการแผ่นดินให้ทันสมัย จะถอดแผนปฏิบัติการของแต่ละกระทรวง ได้นำเรียนให้ ครม.ให้ความสำคัญในเรื่องเหล่านี้

“รวมไทยสร้างชาติ นั่นคือ new normal ของผม เราต้องคิดใหม่ทำใหม่ คิดนอกกรอบแล้วหากรอบให้ได้ เช่นปัญหาวันนี้ทับซ้อนเป็นสิบปี ถ้าไม่แก้ก็จะอยู่ตรงนั้น ไม่ว่าใครก็ไม่ได้ประโยชน์ ประโยชน์ก็ไม่ได้ จะทำอย่างไร เช่น กลไก คณะกรรมการนโยบายที่ดินแห่งชาติ (คทช.) เป็นโครงการที่มีประโยชน์ที่จะจัดที่ดินทำกินให้ประชาชนได้มากยิ่งขึ้น ถ้าดูแค่กฎหมายเดิมก็มีปัญหา รัฐบาลทำโครงการเหล่านี้มาเพื่อประชาชน แต่ต้องระมัดระวังอย่างที่สุด”  พล.อ.ประยุทธ์กล่าว

เมื่อถามว่ารวมไทยสร้างชาติ รวมกันทุกกลุ่มหรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า รวมทุกกลุ่ม แต่ไม่ใช่กลุ่มที่กระทำผิดกฎหมายต้องว่ากันทางคดีความให้จบสิ้น วันหน้าถ้ารับโทษก็จบ ก็คนไทยด้วยกัน ถ้าไม่รับโทษจะไปแจงใคร คนก็ไม่เกรงกลัวต่อความผิด อ้างเหตุผลอื่นไม่เหมาะ ผมไม่ได้รังเกียจใคร ไม่ได้เป็นศัตรูกับใครสักคน แต่ถ้าเอาทุกคนเข้ามาผิดถูกไม่เป็นอะไร คิดว่ากฎหมายเสียหมดทั้งประเทศ แล้วต้องการให้ประเทศเป็นอย่างนั้นหรือ มีกฎหมายอะไรก็ยกเลิกไปทั้งหมด เพราะประชาธิปไตยอย่างนี้หรือ

“ประชาธิปไตยต้องมีกฎหมาย เพราะให้ความเท่าเทียมกับทุกคน ผมก็นับถือกฎหมายและต้องระวังกฎหมาย และมีกฎหมายอื่นอีกที่ต้องระวังตัวเอง ในการบริหารราชการแผ่นดิน ต้องรักษาไว้ทุกอันไม่ใช่มองการเมืองอย่างเดียว” พล.อ.ประยุทธ์ กล่าว

Advertisment

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ไทยรักษาชาติ นี่มันพรรคใช่ไหม พูดผิดทุกวัน ทำไมติดคำนี้จริงๆ จากนั้น พล.อ.ประยุทธ์ ย้ำคำว่า “รวมไทยสร้างชาติ” 3 ครั้ง พร้อมกล่าวว่า ขอร้องอย่าไปเขียนให้มันผิดเลยนะ เอาที่พูดถูกแล้วกัน วันๆ พูดเยอะ คิดเยอะเอกสารเต็มโต๊ะไปหมด อ่านทั้งวันทั้งคืนจนตาแฉะหมดแล้ว กฎหมายดูทุกตัว

อย่างไรก็ตาม พล.อ.ประยุทธ์ ไม่ตอบคำถาม พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯ ที่รับตำแหน่งหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ และปรับคณะรัฐมนตรี

อนุมัติโครงการฟื้นฟูเฟส 1 ก.ค.นี้

พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า สิ่งที่รัฐบาลระมัดระวังอย่างที่สุดคือ การใช้งบประมาณ 2563 งบประมาณโอนรายจ่ายประจำปี 2563 งบประมาณฟื้นฟูเยียวยาโควิด ทุกคนให้ความสนใจ ตนก็ต้องระมัดระวังอย่างที่สุด ดังนั้น แผนงานโครงการที่จะอนุมัติในระยะแรกคือเดือน ก.ค. อยู่ในขั้นตอนการคัดกรอง เมื่อระยะที่ 1 เสร็จแล้ว ไม่ใช่อนุมัติไปแล้วจะทำได้เลย แต่ต้องผ่านกลไกการมีส่วนร่วมของประชาชนในการเสนอโครงการขึ้นมา ดังนั้น การติดตามกระบวนการตรวจสอบทั้งภายใน ภายนอก องค์กรอิสระ ปปท. เสนอแผนงานผ่านระบบดิจิทัลอยู่แล้ว ทุกคนสามารถติดตามแผนงานได้โดยทันที

วอนดูโควิด ตปท.อย่านอนใจไทยปลอดเชื้อ

พล.อ.ประยุทธ์ ขอให้ประชาชนติดตามสถานการณ์ภายนอกประเทศด้วย สนใจแต่ในประเทศอย่างเดียวไม่พอ เพราะในประเทศสบายใจขึ้นเป็น 0 เกินมา 28 วัน ควรจะยกเลิกมาตรการทั้งหมดได้หรือไม่ แต่เชื้อโรคเหล่านี้ยังไม่แสดงตัว ส่วนใหญ่ที่เจอเกือบๆ 14 วัน จึงต้องตรวจสอบคัดกรองด้วยความเข้มงวดต่อไป ไม่เช่นนั้นเชื้อจะกลับมาอีก หลายประเทศก็มีเพิ่มขึ้น จากการเปิดประเทศ เปิดกิจการที่มีความเสี่ยงสูง แต่ทั้งนี้ ถ้าเราอยากได้ทำงาน มีอาชีพ มีรายได้ก็ต้องป้องกันตัวเอง ตนก็เห็นใจสถานประกอบการ แต่ต้องมีมาตรการที่เหมาะสม อาจจะไม่เหมือนเดิม นี่คือ new normal ดนตรีต้องมีที่กั้น ปล่อย 100% ไม่ได้ การท่องเที่ยวต่างๆ ยังอยู่ในการพิจารณา เที่ยวในประเทศอาจทำได้ก่อน ต่างประเทศเข้ามายังต้องดูความเหมาะสม

Advertisment

ไม่มีแผนหยุดยาว 8 วัน

พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า รัฐบาลไม่มีแนวคิดที่จะกำหนดวันหยุดชดเชยสงกรานต์ ในลักษณะหยุดยาวติดต่อกัน 8 วัน ตามที่มีกระแสข่าวก่อนหน้านี้ แต่จะทยอยให้หยุดชดเชย โดยอาจให้หยุดติดต่อกันเกิน 4 วัน โดยได้มอบหมายให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องศึกษาและจัดทำข้อเสนอเกี่ยวกับการกำหนดวันหยุดชดเชยสงกรานต์แล้ว โดยแบ่งเป็น 3 ระยะด้วยกัน ยกตัวอย่างเช่น หากมีวันหยุดในวันอังคาร ต่อเนื่องจากวัน เสาร์-อาทิตย์ และวันอังคาร ก็จะให้หยุดต่อเนื่อง 4 วัน (หยุดวันจันทร์) แต่ไม่ใช่หยุดต่อเนื่องยาว การหยุดยาวในทางราชการไม่ใช่เรื่องดี เพราะต้องการทำงานให้ประชาชนมากที่สุด

พล.อ.ประยุทธ์ ระบุว่า อยากขอร้องสื่อให้ช่วยเสนอข่าวความก้าวหน้า ข่าวดีๆ ไม่ใช่เอาข่าวความขัดแย้งกระทบเสถียรภาพ เรื่องจริงคืออะไร อย่าเอาคำกล่าวคำอ้างแหล่งข่าวรัฐบาล ตราบใดที่ยังไม่เข้าที่ประชุม ครม.ก็ยังไม่ใช่ ต้องดูในหลายมาตรการความคิดเห็นของแต่ละกระทรวง รัฐบาลยืนยันพยายามทำให้ดีที่สุด

แย้ม พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ยังจำเป็น

พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวถึงการพิจารณาต่ออายุ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ว่า “ถ้ามีความจำเป็นก็ต้องใช้ เพราะสิ่งที่เกิดได้วันนี้ที่ปลอดภัยอยู่ตอนนี้ก็เพราะ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ถ้าจำเป็นก็จำเป็นแต่พยายามจะผ่อนคลายให้มากที่สุด เพราะเป็นการใช้กฎหมายเชิงบูรณาการ ถ้าไม่คอนโทรลตรงนี้ก็ไม่ได้อย่างก็พิจารณานี้”

“ในส่วนการหารือร่วมกันของทุกคณะ จะต่อหรือไม่ต่อไม่ใช่ผมคนเดียวอยากให้สังคมเข้าใจว่า ถ้าย้อนกลับไปทำแบบเดิม พ.ร.ก.ฉุกเฉิน จะได้ถึงวันนี้ไหม สถานการณ์จบหรือยัง สถานการณ์ยังไม่จบทั่วโลกติดเชื้อจะ 10 ล้านคนอยู่แล้ว จะให้ทำอย่างไร ไม่ต้องการใช้กฎหมายกดดันใครเลย หลายคนจ้องเป็นเรื่องการเมือง คนละเรื่องกันทั้งหมด แล้วทำไมจะต้องเคลื่อนไหวกันตอนนี้ บ้านเมืองกำลังมีปัญหา การค้าลงทุนกำลังมีปัญหา เศรษฐกิจก็มีปัญหา แต่จะขัดแย้งกันแล้ว มันจะใช่เวลาหรือไม่“ พล.อ.ประยุทธ์ กล่าว

แผนแหกคุก “บรรยิน” นึกว่าดู Netflix

พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวถึงแผนแหกคุกของ พ.ต.ท.บรรยิน ตั้งภากรณ์ ว่า เห็นข่าวหลายวันแล้วนึกว่าเป็นในหนัง ดูหนังมากไปหรือเปล่าเรื่องแผนแหกคุก ใน Netflix เยอะหลายเรื่อง ถ้าทำได้ก็แสดงว่าบกพร่องแล้วล่ะ ไม่น่าจะทำได้ ถ้าเรื่องจริงก็ว่ากันไป ขอให้มีการสอบสวนติดตาม และย้ำกรมราชทัณฑ์ให้ดูแลสอดส่องพฤติกรรมผู้ต้องขัง และดูแลให้ดีที่สุด

สั่งลงโทษรื้อ “บอมเบเบอร์มาร์”

ส่วนกรณีบอมเบย์เบอร์มาร์ ที่ จ.แพร่ นั้น พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า วันนี้มีการลงโทษต่างๆ ไปแล้วแม้จะช้าไปบ้าง แต่กลไกบริหารมีหลายระดับ บางอย่างอยู่ในพื้นที่ ให้รัฐมนตรีเจ้ากระทรวงไปแก้ปัญหา และไปชี้แจงในสภาแล้ว ยืนยันทุกอย่างต้องสร้างกลับมาเหมือนเดิม และลงโทษผู้ที่ทำผิด ดังนั้น การจะรื้ออะไรก็ตาม ต้องมีแบบแปลนว่ารื้อแล้วจะสร้างอย่างไรต่อไป ถ้ายังไม่อนุมัติก็ทำก่อนไม่ได้ เป็นเรื่องที่ต้องสอบสวนกัน มีอยู่หลายเรื่องมีประวัติศาสตร์ของตัวเอง ใช้ในเรื่องศึกษารากเหง้าทางวัฒนธรรม แต่ต้องปรับปรุงให้อยู่ในสภาพที่ดีขึ้น แต่รื้อทิ้งทั้งหมดคงไม่ใช่ แต่คำว่าดีขึ้นถ้าซ่อมบางส่วนยังแข็งแรงอยู่หรือไม่ ไม่ใช่เข้าไปแล้วก็มีการบาดเจ็บล้มตายกันอีก เป็นเรื่องยากง่าย ทำอย่างไรให้โปร่งใสมากที่สุด

สั่ง พม.คิดโปรเจ็กต์ให้คนมีบ้านถาวร

พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า สิ่งที่เร่งทำคือเรื่องที่อยู่อาศัยของประชาชน ให้กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) ไปดำเนินการในฐานะผู้รับผิดชอบ โดยให้แนวทางว่าทำอย่างไรให้ไปช่วยภาคธุรกิจได้บ้าง กรณีบ้านจัดสรรที่ขายไม่ออก ต้องลดราคาหรือไม่ ตนอยากให้ทุกคนมีบ้านอยู่อาศัยที่มีถาวร เช่น เช่าราคาถูก เช่าซื้อ ซื้อ และสามารถเทิร์นได้เมื่อรายได้สูงขึ้นเพื่อไปซื้อบ้านที่ดีกว่า ขอความร่วมมือจากภาคธุรกิจด้วย แต่บ้านแพงๆ คงไม่ไหว ต้องดูความต้องการของประชาชนว่ามีเงินซื้อบ้านขนาดใหญ่แค่ไหน