วีรกรรม ส.ส.ผู้ทรงเกียรติ ขายเสียง-ตั้งตัวเป็นนายหน้า-ค้าคดีความ

วีรกรรม ส.ส.ในสภา

พฤติกรรมเรื่องฉาว-โฉ่ ต่อหน้าประชาชนที่เฝ้ามองการทำหน้าที่ของ “สภาผู้แทนราษฎร” ให้พูดถึง ไม่เว้นแต่ละวัน

ถึงขั้น ส.ส.พรรคร่วมรัฐบาล “หวิดวางมวย” รุก-ไล่ ชี้หน้ากันกลางสภาผู้ทรงเกียรติ เพราะเอาเรื่อง “ในที่ลับ”มาเล่า “ในที่แจ้ง” จากเรื่อง “ลิงกินกล้วย” สู่การแฉวีรกรรมของ “ผู้แทนปวงชนชาวไทย” ที่กุมความลับเอาไว้-ไก่เห็นตีนงู งูเห็นนมไก่

พฤติกรรมขายตัว-ขายเสียงในสภา เป็นที่กล่าวขานในยุคขุดทอง-“ทุกเสียงมีความหมาย” ซื้อ-ขายกันหลัก 20 ล้านบาท ไม่รวม “ค่านายหน้า” รวบรวมเสียงต่อรองตำแหน่ง-เก้าอี้การเมืองทั้งในสภาและในทำเนียบ

วิวาทะระหว่างเต้-มงคลกิตติ์ สุขสินธารานนท์ หัวหน้าพรรคไทยศรีวิไลย์ กับ สิระ เจนจาคะ ส.ส.กรุงเทพมหานคร พรรคพลังประชารัฐ ทั้งในสภา-นอกสภา กลายเป็นเรื่องที่พูดถึง “ปากต่อปาก” มากกว่าผลงาน-ไม่เป็นที่ประจักษ์

ทั้งการออกมาแฉเรื่องบนเตียง “นักการเมืองดัง-หนุ่มใหญ่” และ “รูปหล่อเสี่ยขายบ้าน มีเมียไม่น้อยกว่า 3 คน ชี้แจง ป.ป.ช.แค่คนเดียวเอง ฝากไปชี้แจงเพิ่มนะ เด็กนาย เขาคงอนุโลม…นะ”

หรือการปล่อย “คลิปเสียง” ตีแผ่พฤติกรรมฉาว-ดิสเครดิต ส.ส.คู่กัด “ตบทรัพย์” บริษัทกล้องวงจรปิด แลกกับการ “เคลียร์คดี” ซึ่งอยู่ระหว่างการตรวจสอบของคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.)

คดีนี้-กรณีทุจริตโครงการติดตั้งระบบกล้องวงจรปิด (CCTV) ในโครงการ Safe Zone School 12 เขตพื้นที่การศึกษาในจังหวัดชายแดนภาคใต้ ดำเนินการโดย 4 บริษัท โรงเรียน 1,104 แห่งแห่งละ 16 จุด มูลค่าความเสียหาย 67 ล้านบาท

ขณะที “ร.ต.อ.อรุณ สวัสดี” ส.ส.สงขลา พรรคพลังประชารัฐ ประธานคณะทำงานพิจารณาศึกษาการแก้ไขปัญหาบ่อนการพนัน และการพนันออนไลน์ สภาผู้แทนราษฎร เชิญ นายอภิรักษ์ ชัยอานนท์-“เสี่ยโป้” มาให้ข้อมูล-ตั้งเป็นที่ปรึกษา แต่ถูกสังคมก่นด่าว่าเอานักพนันมาจับนักพนันจนต้องล้มเลิกไป

ปรากฏการณ์ ส.ส.รีดทรัพย์ 5 ล้านบาทในคณะอนุกรรมาธิการแผนงานบูรณาการ 2 ที่มี น.ส.แนน บุณย์ธิดา สมชัย เป็นประธานคณะอนุกรรมาธิการ จากอธิบดีกรมทรัพยากรน้ำบาดาล แลกกับการผ่านงบประมาณปี 2564

เรื่องอยู่ในระหว่างตรวจสอบของคณะกรรมาธิการการป้องกันและปราบปรามการทุจริตประพฤติมิชอบ สภาผู้แทนราษฎร แกะรอยเบอร์โทร.สาวให้ถึง “เสียงปริศนา” ของ ส.ส.ที่ เบียดบังเงินหลวงฉ้อโกง “เงินภาษีประชาชน”

สำหรับรายชื่อที่อยู่ในคณะอนุ กมธ. ฉาว คือ นายอนุรักษ์ ตั้งปณิธานนท์ รองประธานคนที่หนึ่ง นายจักรัตน์ พั้วช่วย รองประธานคนที่สอง นายศรัณย์วุฒิ ศรัณย์เกตุ รองประธานคนที่สาม นายสมเจตน์ ลิมปะพันธุ์ รองประธานคนที่สี่

นายสุทิน คลังแสง ประธานที่ปรึกษาอาวุโส นายสุรสิทธิ์ วงศ์วิทยานันท์ ประธานที่ปรึกษา นายสาธิต อุ๋ยตระกูล น.ส.สิตางศุ์ พิลัยหล้า โฆษก นางนันทนา สงฆ์ประชา เลขานุการ

นายบุญแก้ว สมวงศ์ นายคมเดช โชยศิวามงคล นายจิรพงษ์ ทรงวัชราภรณ์ นายพีรเดช คำสมุทร นายฐิตินันท์ แสงนาค นายธารา ปิตุเตชะ นายอัฏฐพล โพธิพิพิธ นายศิริพงษ์ รัสมี นายรณเทพ อนุวัฒน์ และนางเจริญ เรี่ยวแรง ที่ปรึกษา

วีรกรรม ส.ส.ที่ออกมาตีแผ่ต่อสาธารณะที่ผ่านมา ตั้งแต่ ส.ส.กร่าง วางกล้าม ข่มข้าราชการ-ตบทรัพย์ธุรกิจสีเทา โดยใช้คำว่า “ผู้แทนราษฎร” เป็นเกราะกำบัง

กระทั่งชนักปักหลัง “คดีรุกป่า” และ “คดีสนามฟุตซอล” ส.ส.พรรคแกนนำรัฐบาลที่ถูกลากเข้าไปในกระบวนการตรวจสอบแล้วยังขอ “พิสูจน์ตัวเอง” ขณะนี้อยู่ในมือ ป.ป.ช. องค์กรที่ถูกตั้งคำถาม-ข้อกังขาเรื่องการตรวจสอบ “ผู้มีอำนาจ”

ในช่วงโควิด-19 ระบาดหนัก ยังปรากฏข่าว ส.ส.-คนใกล้ชิดรัฐมนตรี พัวพันกับ “แก๊งกักตุนหน้ากาก” ฉวยโอกาสบ้านเมืองเกิดวิกฤตจากสงครามโรคระบาด หาผลประโยชน์เข้ากระเป๋าตัวเอง

นับรวมถึงก่อนหน้านี้ ศาลรัฐธรรมนูญอ่านคำวินิจฉัยคดี “ส.ส.เสียบบัตรแทนกัน” ระหว่างการพิจารณาร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) งบประมาณรายจ่ายประจำปี 2563 วาระที่สอง และวาระที่สาม ไม่ชอบด้วยรัฐธรรมนูญ

ส่งผลให้การเบิกจ่ายงบประมาณปี”63 วงเงินกว่า 3.2 ล้านล้านบาท โดยเฉพาะ “งบฯลงทุน” ต้องล่าช้าออกไป ขณะที่งบฯรายจ่ายประจำต้องเบิกจ่ายจากกรอบงบประมาณปี”62 “ไปพลางก่อน” ซึ่งเบิกจ่ายได้เพียงร้อยละ 50-75 เท่านั้น

สภายุครัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จึงมีเรื่องร้องเรียนกรณีประพฤติมิชอบ-ผิดจริยธรรมร้ายแรงของ ส.ส.อยู่ใน กมธ.ป.ป.ช. สภาผู้แทนราษฎร-ป.ป.ช.-ศาลรัฐธรรมนูญจน “รกโรงรกศาล”

ทั้ง ส.ส.กร่าง ส.ส.เสียบบัตรแทนกัน ส.ส.ซื้อ-ขายตัว ส.ส.ถือหุ้นสื่อ ส.ส.ถือครองที่ดิน-เอกสารสิทธิ ภ.ท.บ.5

และคดีรุกป่า-คดีสนามฟุตซอลหรือพฤติกรรมห่าม ๆ การเอาสารตั้งต้นระเบิดเข้าไปในสภา

1 ปี วีรกรรม ส.ส.ตลาดล่าง เป็นสนิมกัดกินประชาธิปไตย เกาะกินศรัทธานักการเมือง-ผู้ทรงเกียรติ รอวันยุบสภา