กลุ่ม “ประชาชนปลดแอก” เตรียมจัดกิจกรรมชุมนุมหน้ารัฐสภา “ให้กำลังใจ” ส.ว. ปิดสวิตช์ตัวเอง
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ช่วงเย็นวันนี้ (24 ก.ย.) ที่บริเวณหน้ารัฐสภา กลุ่ม “ประชาชนปลดแอก” และเครือข่าย ได้ประกาศจัดกิจกรรมชุมนุมบริเวณหน้ารัฐสภา เพื่อเรียกร้องให้ สมาชิกวุฒิสภา (ส.ว.) ลงมติเห็นด้วยกับการแก้ไขรัฐธรรมนูญ มาตรา 272 เพื่อยกเลิกอำนาจของ ส.ว. ในการเลือกนายกรัฐมนตรี ซึ่งเป็น 1 ใน 6 ญัตติร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญ ที่อยู่ระหว่างพิจารณาในวันนี้
- ลูกแม่ค้าขายผัก-พ่อขับแท็กซี่ สู่เก้าอี้ “ปลัดพลังงาน” บทพิสูจน์ชีวิต “ดร.ประเสริฐ สินสุขประเสริฐ”
- NETA X ขาย มิ.ย.นี้ ราคาไม่เกิน 1 ล้านบาท หลัง MOU สรรพสามิต
- KBANK ปรับโครงสร้างใหญ่ ลดจำนวนบอร์ด ตั้ง 4 เอ็มดีเป็น “ผู้จัดการใหญ่” มีผล 1 พ.ค.67
“นานแค่ไหนแล้วที่รัฐสภาแห่งนี้ไม่ได้รับใช้ประชาชน เต็มไปด้วยสว.ที่มาจากการแต่งตั้งของเผด็จการ คับคั่งไปด้วยตัวแทนของประชาชนที่อ้างไม่ได้เต็มปากว่าเป็นตัวแทนของประชาชน” กลุ่มเยาวชนปลดแอก หนึ่งในกลุ่มเครือข่าย ประกาศผ่านทางเฟซบุ๊ก
“ไปให้กำลังใจ ส.ว. และ ส.ส. เพื่อจะให้มีกำลังใจและมีแรงในการยกมือในการไล่ตนเองซึ่งเป็น ส.ว. ที่มีที่มาอย่างอัปยศ มีแรงในการฟังเสียงประชาชนให้มากขึ้น ทำเพื่อประชาชนไม่ใช่เพื่อชนชั้นศักดินา”
เจ้าหน้าที่ตำรวจได้เตรียมกำลังประมาณ 3 กองร้อย ซึ่งรวมถึงตำรวจควบคุมฝูงชน เพื่อดูแลความปลอดภัยและเตรียมรับสถานการณ์บริเวณด้านหน้าและโดยรอบอาคารรัฐสภา รวมถึงเตรียมความพร้อมเฮลิคอปเตอร์ไว้รองรับหากเกิดเหตุฉุกเฉินด้วย
ขณะที่ มติชน รายงานว่า นายสุทิน คลังแสง ส.ส.มหาสารคาม พรรคเพื่อไทย ในฐานะประธานวิปฝ่ายค้าน กล่าวถึงกรณีท่าทีของ ส.ว ที่ดูเหมือนจะไม่เห็นด้วยกับ 6 ญัตติแก้ไขร่างรัฐธรรมนูญว่า ทั้งฝ่ายรัฐบาลและฝ่ายค้านเห็นสอดคล้องเป็นส่วนใหญ่ มีเพียงซีก ส.ว.ที่มีความเห็นต่าง และมองว่ามีความน่าวิตกว่า 6 ญัตติอาจเสี่ยงที่จะไม่ผ่าน เว้นแต่ว่าวันนี้ ส.ว. จะเปลี่ยนท่าทีและวิธีคิด ซึ่งอาจจะทำให้พอมีหวังขึ้นมาบ้าง
ทั้งนี้ หาก 6 ญัตติร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญไม่ผ่านการพิจารณาครั้งนี้ นายสุทินกล่าวว่า “หากไม่ผ่านเราก็จะถามประชาชน ฟังประชาชน ภาคส่วนต่างๆ และเครือข่าย ถ้ายังอยากให้แก้และยังสู้เราก็ต้องยื่นใหม่ในสมัยประชุมหน้า อาจจะมองในแง่ดีว่า เวลาการศึกษาเรียนรู้จะน้อยไปหรือไม่ ถ้าน้อยไปก็มาเรียนรู้กันอีกสัก 2-3 เดือน แล้วมายื่นใหม่ ทั้งนี้ ก็ขึ้นอยู่กับประชาชน ถ้าประชาชนบอกว่าพอแล้ว ยอมแพ้แล้วเราเป็นฝ่ายการเมืองก็ต้องยอมไปกับประชาชน”