พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้าพรรค พปชร. ระบุปรับ ครม.ไม่มีระบบโควต้า กปปส.
วันที่ 25 กุมภาพันธ์ 2564 ที่ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ให้สัมภาษณ์ถึงกรณี 2 รัฐมนตรีของพรรคพ้นจากตำแหน่งรัฐมนตรีจากคำพิพากษาจำคุก ได้หารือเรื่องการปรับคณะรัฐมนตรี (ครม.) กับ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมหรือยัง ว่า ไม่มี ยังไม่ได้คุย ยังไม่ได้พบนายกรัฐมนตรี แต่ก็ต้องปรับ โดยขึ้นอยู่กับนายกรัฐมนตรีพิจารณา
- ร้านธงฟ้า 1.4 แสนแห่ง พร้อมรับดิจิทัลวอลเลต เช็กจังหวัดไหนร้านธงฟ้ามาก-น้อยสุด
- นักท่องเที่ยวเข้าต่ำแสน หวั่นโลว์ซีซั่นทรุดหนัก ททท.ชี้กระทบสั้นยอดบุ๊กกิ้งแอร์ไลน์แน่น
- เปิด 10 อันดับมหาวิทยาลัยรัฐ-ราชภัฏ-เอกชน ที่ได้รับความนิยมมากสุด
ผู้สื่อข่าวถามว่า โควต้าของ นายณัฏฐพล ทีปสุวรรณ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ และนายพุทธิพงษ์ ปุณณกันต์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม หรือดีอีเอส เป็นโควตาของกปปส. โควต้านี้ ยังจะเป็นโควต้าของ กปปส.อยู่หรือไม่ พล.อ.ประวิตร ย้อนถามเสียงดังว่า “ของกปปส.ที่ไหนของพรรค พปชร. ทั้งสองคนเขาอยู่พรรค พปชร. ก็แล้วแต่พล.อ.ประยุทธ์พิจารณา”
วิษณุ ยันมีรักษาการแทน รมต. “ศึกษา-ดีอีเอส”
ขณะที่ นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงผู้กรณีตำแหน่งรัฐมนตรีเมื่อว่างลงว่า เรื่องนี้นายกรัฐมนตรียังไม่ได้คุยอะไรกับตน แต่เมื่อตำแหน่วว่างลง ซึ่งคณะรัฐมนตรี (ครม.) เคยมีมติไปแล้วว่า หากรัฐมนตรีว่าการไม่อยู่ให้รัฐมนตรีช่วยขึ้นมารักษาการตามลำดับ ซึ่งกรณีนี้ คือคุณหญิงกัลยา โสภณพนิช รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการขึ้นมารักษาการ
ส่วนกรณีรัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม ครม. เคยมีมติในเมื่อกระทรวงนี้ หากไม่มีรัฐมนตรีช่วย ให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการรักษาการแทนเป็นอันดับแรก และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรมรักษาการเป็นอันดับสอง ซึ่งในกรณีนี้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรมจะเป็นผู้รักษาการ จนกว่าเมื่อมีการประชุมคณะรัฐมนตรีแล้วนายกรัฐมนตรีอาจจะสั่งการเป็นอย่างอื่น
ผู้สื่อข่าวรายงาน ข่าวการปรับคณะมนตรีเกิดขึ้นภายหลังจากศาลอาญา ได้มีคำพิพากษาคดีคณะกรรมการประชาชนเพื่อการเปลี่ยนแปลงปฏิรูปประเทศไทยให้เป็นประชาธิปไตยที่สมบูรณ์แบบอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข (กปปส.) เป็นจำเลยความผิดฐานร่วมกันเป็นกบฏ ก่อการร้าย ล้มล้างระบอบการปกครอง มั่วสุมชุมนุมก่อความวุ่นวายในบ้านเมือง ที่พนักงานอัยการฝ่ายคดีพิเศษ 4 เป็นโจทก์ยื่นฟ้องนายสุเทพ เทือกสุบรรณ อดีตเลขาธิการ กปปส. กับพวกรวม 39 คน เป็นจำเลยความผิดฐานร่วมกันเป็นกบฏ ก่อการร้าย ล้มล้างระบอบการปกครอง มั่วสุมชุมนุมก่อความวุ่นวายในบ้านเมือง
จำคุกแกนนำกลุ่ม กปปส ซึ่งมี 3 รัฐมนตรีในรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา 2/3 คือ นายพุทธิพงษ์ ปุณณกันต์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม จำคุก 7 ปี, นายณัฏฐพล ทีปสุวรรณ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ จำคุก 6 ปี 16 เดือน และนายถาวร เสนเนียม รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม จำคุก 5 ปี
คำพิพากษาในคดีดังกล่าวแล้ว อาจส่งผลให้ 3 จำเลย ซึ่งเป็นรัฐมนตรี ต้องหลุดจากความเป็นรัฐมนตรีตามรัฐธรรมนูญกำหนด โดยมาตรา 170 (4) ความเป็นระบุว่าความเป็นรัฐมนตรีย่อมสิ้นสุดลงตามเป็นการเฉพาะตัว เมื่อมีลักษณะต้องห้ามตามมาตรา 160 (7) ที่ระบุถึง การต้องคำพิพากษาให้จำคุก ดังนั้นเมื่อศาลพิพากษาให้จำคุก ไม่ว่าจะถึงที่สุดหรือไม่แต่รัฐธรรมนูญให้ความเป็นรัฐมนตรีสิ้นสุดลง อย่างชัดเจน