สัมภาษณ์พิเศษ
นาทีนี้บาดแผลในการอภิปรายไม่ไว้วางใจ อาจไม่หนักเท่าบาดแผลในพรรคร่วมรัฐบาล
หลังจาก 6 ส.ส.กลุ่มดาวฤกษ์ แห่งพลังประชารัฐ “งดออกเสียง” 2 รัฐมนตรีภูมิใจไทย คือ “อนุทิน ชาญวีรกูล” รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.สาธารณสุข และ “ศักดิ์สยาม ชิดชอบ” รมว.คมนาคม
- “ทางรัฐ” ซูเปอร์แอปแห่งชาติ รองรับแจกเงินดิจิทัล 10,000 บาท
- ทำฟันประกันสังคม ไม่ต้องสำรองจ่าย เดือน มี.ค. 67 ยอด 169 ล้านบาท
- รู้ไหม ? 31 มณฑลจีน ชอบสินค้าอะไรของไทย
“อนุทิน” ใช้คำว่า “ติดใจ” กับการแหกมติพรรคร่วมรัฐบาล “พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ” รองนายกรัฐมนตรี หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ถึงกับควันออกหู เพราะเสียมารยาททางการเมือง
“ประชาชาติธุรกิจ” สนทนากับ “วิรัช รัตนเศรษฐ” ส.ส.บัญชีรายชื่อ พลังประชารัฐ ประธานวิปรัฐบาล ในฐานะ “หนังหน้าไฟ” เคลียร์รอยร้าวในพรรคร่วมรัฐบาล ว่าจะแก้สถานการณ์อย่างไร
Q : เพราะอะไรรัฐมนตรีของพรรคพลังประชารัฐที่ได้คะแนนรั้งบ๊วย
หลังจากการอภิปรายไม่ไว้วางใจผ่านพ้นไป จะเห็นความแตกต่างของคะแนน ซึ่งคะแนนพื้นฐานของฝ่ายรัฐบาลอยู่ที่ 270 เสียง เช่น การอภิปรายไม่ไว้วางใจนายกฯ ทุกรัฐมนตรีที่ถูกอภิปรายโหวตให้หมด แต่พอถึงคิวตัวเองไม่สามารถโหวตให้ตัวเองได้ คะแนนก็จะลดลงมาอย่างน้อย 1 คะแนน
อีกทั้ง การแสดงตนครั้งแรกของ ส.ส. ตอนโหวตของนายกฯ มาเทียบกับการโหวตรัฐมนตรีคนท้าย ๆ ดูแล้วของนายกฯ อาจมี ส.ส.แสดงตนน้อยกว่า แต่ตอนหลังคนเข้ามาเพิ่ม ก็เป็นนัย 2 อย่าง คือ เพิ่มแล้วโหวตให้นายกฯหรือไม่ หรือเพิ่มแล้วโหวตให้ฝ่ายตรงข้าม
ส่วนการโหวตให้กับพรรคภูมิใจไทย ของนายอนุทิน ที่ได้เสียง 275 เสียง มาจากไหน ก็คือมาจากซีกก้าวไกล เข้ามาอีก 4 เสียง ถ้าไม่มีคะแนนของก้าวไกล ก็จะได้คะแนน 270-271 เสียง ส่วนเสียงโหวตของนายศักดิ์สยาม ถ้าไม่มีเสียงก้าวไกล ก็จะอยู่ใกล้เคียงกับรัฐมนตรีของพรรคพลังประชารัฐ เป็นสมการที่เรามองเห็น
แต่พอ 6 เสียงของกลุ่มดาวฤกษ์ไม่ลงคะแนนให้ก็กระทบไปหมด ส่วนเสียงของก้าวไกลก็ลงให้เฉพาะนายอนุทิน กับนายศักดิ์สยาม ไม่ลงให้คนอื่นเลย
Q : เหตุผลที่ 4 เสียงก้าวไกล โหวตให้เฉพาะนายอนุทินกับนายศักดิ์สยาม
ผมตอบไม่ได้หรอก เหมือนกับวันนี้ที่มีคำถามต่อไปว่า ทำไมซีกดาวฤกษ์ไม่ลงคะแนนให้นายศักดิ์สยาม ผมก็ไม่รู้ ทั้งที่วันนั้นมีการเตรียมกันกับผู้หลักผู้ใหญ่ในพรรค พล.อ.ประวิตรบอกว่า ไม่ได้ เราเป็นพรรคหลักต้องโหวตในทิศทางเดียวกัน ทุกคนเข้าใจหมด ถ้าไม่มี 6 เสียง กลุ่มดาวฤกษ์คะแนนจะสมูทที่สุด
Q : นายอนุทิน รู้ทันกลุ่ม ดาวฤกษ์ว่าจะไม่โหวตจึงเตรียมเสียงสำรอง
เขาไม่ได้คาดคิดหรอก คำว่าไม่ได้คาดคิดคือ เขาไม่รู้หรอก เขาทำเพื่อในส่วนของเขา (ภูมิใจไทย) เมื่อคะแนนออกมาแบบนี้ไม่ต้องไปเจาะลึกอะไรมาก
ลองไปดูคะแนนของนายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกฯและ รมว.พาณิชย์ ได้คะแนนไว้วางใจ 268 เสียง เทียบกับนายนิพนธ์ บุญญามณี รมช.มหาดไทย ได้คะแนน 272 ก็น่าแปลกไหม ที่มีบางพวกในพรรคประชาธิปัตย์ไม่โหวตให้กับหัวหน้าพรรคตัวเอง
เราดูทุกช่อง แล้วดูตารางว่าใครไม่โหวตให้กับรัฐมนตรีที่ถูกอภิปรายบ้าง เมื่อไปถาม ได้คำตอบจากบางคนก็สมูท บางคนได้คำตอบแบบไม่คาดคิด ซึ่งเป็นข่าวไม่ได้ เราต้องเก็บข้อมูลเอาไว้
Q : มีข่าวว่าคนในพรรคพลังประชารัฐล็อบบี้พรรคเล็ก ให้โหวตให้กับตนเอง และให้งดออกเสียงกับรัฐมนตรีคนอื่น
คำว่าเป็นข่าวก็คือข่าว ถึงพูดไงว่าการเป็นประธานวิป ไม่มีอิสระเสรีในการพูด เวลาพูดต้องถนอมพรรคร่วมรัฐบาล หรือแม้กระทั่งงานในสภา รัฐบาลบอกว่าให้ไม่ได้ แต่ผมก็บอกว่า ท่านครับ…บางทีก็อะลุ่มอล่วยกัน เพราะผมอยู่กับเขาทุกวัน การขับเคลื่อนเราต้องไปพร้อมกันแต่บางอย่างก็มีอุปสรรคได้ เรายังไม่รู้ว่าสาเหตุอะไร แต่ทุกอย่างต้องมีสาเหตุและต้องคุยกัน
Q : ครั้งนี้สาเหตุเกิดที่พรรคพลังประชารัฐ จะสะเทือนพรรคร่วมรัฐบาลหรือไม่
การเป็นพรรคร่วมรัฐบาลมันสะเทือนหมด ถ้าสะเทือนพลังประชารัฐ ก็สะเทือนทุกพรรคร่วมรัฐบาล มีอะไรในภูมิใจไทยก็สะเทือนรัฐบาล วันนี้พรรคใหญ่ที่ปักหลักมี พลังประชารัฐ ภูมิใจไทย ประชาธิปัตย์ ขาดพรรคหนึ่งพรรคใดไม่ได้ ใครจะบอกว่าแขน ขา สมอง ไม่มีความสำคัญ ทุกอย่างประกอบกันเป็นร่างกาย มีความสำคัญทั้งหมด
Q : ต้องเจอหน้าคนในพรรคร่วมรัฐบาลทุกวัน จะประสานรอยร้าวอย่างไร
คำพูดโบราณบอกว่า แก้วแตก ประสานย่อมมีรอยร้าว เราก็ค่อย ๆ รักษารอยร้าวอย่าให้มันแตกมากขึ้น แล้ววัน เวลาก็จะสมานแผลได้ แผลก็จะหายไปเอง
ไม่มีรัฐบาลไหนที่ไม่มีรอยร้าว นอกจากจะเป็นรัฐบาลพรรคเดียวโดด ๆ 260 เสียง อย่างนี้เขาเรียกว่าหล่อเลือกได้ แต่ในเมื่อเรามีอยู่แค่นี้ ประกอบกัน 3 พรรค 221-225 เสียง ต้องรวมอีกหลายพรรคถึงจะข้ามเส้นครึ่งหนึ่งของสภา
Q : มาตรการลงโทษกลุ่มดาวฤกษ์ต้องมีอะไรเป็นรูปธรรมหรือไม่
บางครั้งคำพูดที่เราพูดไปแล้ว เขาอาจไม่สบายใจมากขึ้นกว่าเดิม เราก็อย่าไปพูดเลยดีกว่า
Q : ต้องลงโทษ 6 ส.ส.ดาวฤกษ์แค่ไหน ที่ทำให้พรรคภูมิใจไทยพอใจ
ตรงนี้เราไม่รู้ว่าอะไรเป็นมาตรวัด ที่ทำแล้วเขาจะพอใจแค่ไหน เหมือนเราทำโทษลูกเรา เพราะผิดไปตีหัวลูกข้างบ้าน แต่ไม่รู้ข้างบ้านจะพอใจไหมตีไปก็น้ำตาไหลไป ลักษณะเดียวกัน อีก 10 กว่าวันก็เห็นว่าจะมีบทลงโทษอย่างไร
แต่โชคดีที่เราไม่มีหน้าที่ไปสอบเรื่องนี้ เอาคนกลาง ๆ ที่ไม่ยุ่งอะไรกับใครมาสอบ เราต้องดูแลให้ดีที่สุด เรารู้ว่าลูกเราอาจเกเรบ้าง แต่ไม่ได้หมายความว่าจะต้องลงโทษมากมายอะไรขนาดนั้น ใจผมนี่นะต้องดู แต่ก็ไม่รู้ว่าเขา (ภูมิใจไทย) จะยอมหรือเปล่า ก็ว่ากันอีกรอบ
Q : ความยากคือลงโทษไปแล้ว ภูมิใจไทยพอใจหรือไม่
ไม่เคยมีแบบนี้ในอดีต มันมีแต่พลั้งเผลอไปบ้าง ขณะเดียวกันก้าวไกลที่แหกโผออกมาจะเป็นอย่างไร ถ้าไม่มีตรงนี้ ก้าวไกลจะเป็นประเด็น แต่มันควรจะเป็นประเด็นพร้อม ๆ กัน
Q : ก้าวไกลแหกโผมา 4 คน สามารถการันตีได้หรือไม่ว่า เสียงของรัฐบาลเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ
ก็ส่วนหนึ่ง อย่างวันนี้ ก้าวไกลลดลง ภูมิใจไทยก็เป็น 65 เสียง เขานับหรือไม่นับ เราก็ไม่รู้ มันยาก การเป็นวิปรัฐบาล ตัวเลข 270 วันนี้ 274 อ้าว ไอ้นี่ไป เหลือ 272 ไอ้นี่มา…ไม่รู้ มีเพิ่ม มีลด แล้วไม่ได้หมายความว่า มีลดแล้วไม่มีเพิ่ม มันมีได้ทั้ง 2 อย่าง การคุมเสียงไม่มีอะไรง่าย ตั้งแต่เดินวันแรกจนถึงวันนี้ก็ยอมรับว่ามันไม่ง่ายทุกเรื่อง
Q : รัฐบาลเสียงเหนือน้ำทำไมถึงยาก
คำว่าเหนือน้ำนี่ มันไม่ได้เหนือน้ำแบบเป็นเอกภาพ คำว่า เหนือน้ำ ยังประกอบไปด้วย 17-18 พรรค คิดดูแล้วกัน คำว่าเหนือน้ำมันเป็นเอกภาพไหม แล้วสมัยก่อนนี้ เหนือน้ำไม่กี่พรรคก็ยังล่มได้ การเมืองไปคิดเป็นคณิตศาสตร์ไม่ได้ ต้องใช้วันต่อวัน สถานการณ์ต่อสถานการณ์ และห้วงเวลานั้นจะมีปัญหาอื่นมาแทรกหรือไม่ เช่น วันนี้ยังมีปัญหาเรื่องอื่นคาอยู่ ยังไม่เคลียร์ แล้วก็มีเรื่องอะไรก็ไม่รู้เข้ามาแทรก พาล่ม พาพังก็มี
Q : ต้องแก้ปัญหาวันต่อวัน
ใช่ แต่โชคดีว่าปัญหาที่มันจะขัดแย้งกันสุด ๆ มันก็จะปิดสมัยการประชุมวันนี้ วันพรุ่งนี้แล้ว เวลาการปิดสมัยประชุมคือเวลาที่จะใช้เวลาเยียวยา เฮ้ยยยยย….ลืม ๆ มันไป จบ ๆ
Q : ภูมิใจไทยอาจจะไม่ลืม
แล้วมันจะมีคำบัญญัติไว้เหรอ ไม่มีมิตรแท้ ไม่มีศัตรูถาวร มันก็เป็นคำฮิตที่ใช้ได้ทุกยุค ทุกสมัย เขาไม่ลืม บางอย่างที่เขาทำเราก็ไม่ลืมเหมือนกัน แล้วมีประโยชน์อะไร ถ้าต่างคนต่างคิด ต้องตัดอะไรบางอย่าง แล้วก็เดินไปพร้อมกัน ให้มันเป็นความหลัง รอวันเลือนไป อย่าไปคิดจำในสิ่งที่มันไม่ดี
Q : นายกฯบอกว่าเป็นห่วงความขัดแย้ง ในคณะรัฐมนตรี ในฐานะที่คุมเสียงในสภาให้ความมั่นใจได้หรือไม่ว่าคุมอยู่
ความมั่นใจตรงนี้มันก็มาจากผลของรัฐบาล มันปฏิเสธไม่ได้เลย มันก็ส่งผลถึงกันหมด เพราะฉะนั้น ตรงนี้ไม่ได้เป็นสาเหตุที่ทำให้รัฐบาลมีปัญหา ถ้าไม่จบมันก็ไม่จบอยู่ตรงโน้น (รัฐบาล) แต่นี่ (สภา) มันทะเลาะ กระทบกระทั่งกันทุกวัน
Q : สถานการณ์วันนี้ พล.อ.ประวิตร ยังสามารถคล้องใจได้ทุกพรรค ได้ทุกก๊ก
วันนี้ไม่มีใครที่จะเหมาะเป็นผู้จัดการรัฐบาลเท่า พล.อ.ประวิตร คำว่า ผู้จัดการรัฐบาล คือ ทำได้ทุกอย่าง เราก็เป็นส่วนหนึ่งที่มาช่วย อาจจะมีรองผู้จัดการฝ่ายรัฐบาล เราอาจเป็นหัวหน้าแผนกของผู้จัดการรัฐบาล ตราบใดที่ พล.อ.ประวิตรยังเป็นผู้จัดการ รัฐบาลก็เดินไปได้
Q : พลังประชารัฐ ภูมิใจไทย ประชาธิปัตย์ จะขาดพรรคใดพรรคหนึ่งไปไม่ได้ ต้องอยู่ด้วยกัน
เขารวมกันก็ 200 นิด ๆ 205 ประมาณนั้น บางบัญชีอาจจะ 212 เสียง ไม่ถึงครึ่ง
Q : ภูมิใจไทยมีเสียงเพิ่มขึ้น ทำให้มีอำนาจการต่อรองในสภามากขึ้น
เขาก็มีบ้าง
Q : เมื่อภูมิใจไทยมีเสียงเพิ่มขึ้นในสภา ส่วนประชาธิปัตย์เสียงลดลง ต้องให้ความสำคัญภูมิใจไทยมากกว่าหรือไม่
เท่ากัน เหมือนกัน อย่าไปคิดไกลแล้ว คิดแค่วันนี้ก็พรุ่งนี้ พูดตรง ๆ การทำวิป คิดแค่นี้ เช่น พรุ่งนี้ทำอย่างไรให้การอภิปรายมันจบ ไม่ต้องลากไปถึงการประชุมสภาสมัยวิสามัญ ทำได้หรือไม่
Q : ปัญหาภายในพรรคกับนอกพรรคอันไหนหนักใจมากกว่ากัน
หนักทั้ง 2 อัน ขึ้นอยู่กับว่าหนักแบบไหน ถามว่าหนักใจหรือไม่หนักใจ ปัญหามีไว้แก้ หมดปัญหานี้ก็มีเพิ่ม ๆ จบตรงนี้ก็คิดต่อว่าจะส่งใครลงพื้นที่ไปช่วยหาเสียงเลือกตั้งซ่อม จ.นครศรีธรรมราช อย่าไปคิดอะไรมัน ตกเย็นกินข้าวด้วยกันกับประชาธิปัตย์ เช้าก็แยกกันไปทำงาน แข่งขันกันแล้วก็จบ
Q : ถ้าไม่ใช่คุณวิรัชจะมีคนมาทำงาน จะมีใครปัดเป่าปัญหาในรัฐบาลได้อย่างนี้ไหม
มันต้องมีใครมาเปลี่ยนจนได้ เราก็ไม่ได้อยู่ค้ำฟ้า ถึงเวลานั้นปัญหามันอาจน้อยกว่านี้ก็ได้ เพราะวันนี้เกือบ 20 ชิ้น (พรรคการเมืองร่วมรัฐบาล) ปกติไม่เกิน 5 ชิ้นประกอบได้แล้ว