ครม.ขยายแพ็คเกจภาษี หนุนลงทุนชายแดนใต้อีก 3 ปี

ครม.ไฟเขียวขยายเวลามาตรการภาษีส่งเสริมการลงทุนในจังหวัดชายแดนภาคใต้ 6 มาตรการ ออกไปอีก 3 ปี คาดรัฐสูญเสียรายได้ 2,250 ล้านบาท

วันที่ 29 มิถุนายน 2564 ที่ทำเนียบรัฐบาล น.ส.ไตรศุลี ไตรสรณกุล รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แถลงว่า คณะรัฐมนตรี (ครม.) อนุมัติการขยายเวลามาตรการภาษีเพื่อส่งเสริมการลงทุนในจังหวัดชายแดนภาคใต้ จำนวน 6 มาตรการ จากสิ้นสุดวันที่ 31 ธันวาคม 2563 เป็นสิ้นสุดวันที่ 31 ธันวาคม 2566 ประกอบด้วย

1.มาตรการภาษีเพื่อสนับสนุนการประกอบธุรกิจ เช่น ลดอัตราภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาเหลือร้อยละ 0.1 ลดอัตราภาษีเงินได้นิติบุคคลให้แก่บริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคลเหลือร้อยละ 3 ของกำไรสุทธิ ลดอัตราภาษีธุรกิจเฉพาะสำหรับการขายอสังหาริมทรัพย์เหลือร้อยละ 0.1

มาตรการที่ 2 มาตรการภาษีเพื่อสนับสนุนให้มีการติดตั้งระบบกล้องโทรทัศน์วงจรปิด (CCTV) สามารถนำค่าใช้จ่ายมาหักเป็นรายจ่ายได้ 2 เท่า

มาตรการที่ 3 มาตรการภาษีเพื่อส่งเสริมการลงทุนในทรัพย์สินของกิจการ โดยสามารถนำมาหักรายจ่ายการลงทุนในทรัพย์สินได้ 2 เท่า

มาตรการที่ 4 มาตรการภาษีเพื่อส่งเสริมผู้ประกอบการรายใหม่ (New Startup) โดยยกเว้นภาษีเงินได้นิติบุคคลให้ New Startup เป็นระยะเวลา 5 รอบระยะเวลาบัญชี

มาตรการที่ 5 มาตรการภาษีเพื่อส่งเสริมให้บุคลากรผู้มีความสามารถสูงนอกพื้นที่ไปทำงานในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ โดยลดอัตราภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาเหลือร้อยละ 3 ของเงินได้พึงประเมิน

และมาตรการที่ 6 มาตรการส่งเสริมการลงทุนร่วมกันระหว่างกิจการที่มีศักยภาพนอกพื้นที่กับกิจการที่มีศักยภาพในท้องที่ โดยให้บริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคลหักรายจ่ายเงินลงทุนในหุ้นได้ 2 เท่า

ทั้งนี้ กระทรวงการคลังได้ประมาณการสูญเสียรายได้จาก 6 มาตรการ ประมาณปีละ 2,250 ล้านบาท แต่จะมีประโยชน์ที่คาดว่าจะได้รับ ประกอบด้วย เพิ่มสภาพคล่องให้แก่สถานประกอบกิจการที่ตั้งอยู่ในจังหวัดชายแดนภาคใต้ ลดต้นทุนในการประกอบกิจการ สร้างความเชื่อมั่นและช่วยรักษาความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของประชาชนและผู้ประกอบการ สนับสนุนการค้าและการลงทุนในจังหวัดชายแดนภาคใต้ ส่งเสริมการพัฒนาและการถ่ายทอดความรู้ เทคโนโลยี และนวัตกรรมให้แก่บุคลากร และกระตุ้นการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจ เพิ่มประสิทธิภาพในการผลิต การให้บริการ รวมทั้งส่งเสริมการจ้างงานในจังหวัดชายแดนใต้