ทักษิณเปิดตัว “ไทยรักไทย” ครบ 23 ปี-13 ปี ไม่ได้กลับประเทศ

#พี่โทนี่กลับไทยแน่ ติดท็อปไฟว์เทรนด์ทวิตเตอร์ โดยเฉพาะช่วงเช้าของวันที่ 14 กรกฎาคม 2564

#พี่โทนี่กลับไทยแน่ ในบางช่วงทะยานขึ้นไปติดอันดับ 1 เทรนด์ทวิตเตอร์ประเทศไทย

ภายหลัง “พี่โทนี่” ชื่อในวงการคลับเฮาส์ หรือ “ทักษิณ ชินวิตร” อดีตนายกรัฐมนตรี ที่คนทั่วไปรู้จัก พูดในคลับเฮาส์ ของกลุ่ม CARE คิด เคลื่อน ไทย เมื่อช่วงหัวค่ำของวันที่ 13 กรกฎาคม หัวข้อ “เจ็บแต่ไม่จบ” เพราะรัฐบาลไทยยังขาดนโยบายวัคซีนต้านโควิด-19 อย่างเป็นรูปธรรม

ช่วงหนึ่ง “ทักษิณ” พูดถึงการกลับประเทศไทยว่า “ยืนยันอีกครั้งนะครับกลับแน่ แต่ขอบอกเวลาทีหลัง วันนี้ยังไม่บอก แล้วก็สุวรรณภูมิยังไง ไปประตูหน้า ไม่ไปประตูหลังแน่นอน เอาไว้เมื่อถึงเวลาแล้วผมจะบอกเป็นขั้นตอนไป ผมไม่มีอะไรปิดบัง เพียงแต่ว่ามันยังไม่ถึงเวลา ผมไม่เคยกลัวอะไรสักอย่าง เพียงแต่ไม่อยากสร้างปัญหา ต้องใช้เวลาให้มันเหมาะสม”

ภาพและเสียงของ “ทักษิณ” ระบาดจากคลับเฮาส์ทะลุสู่เฟซบุ๊ก ลามไปทวิตเตอร์ อย่างรวดเร็ว ปลุกความหวังของเหล่า “สาวก-แฟนคลับ”

Advertisment

เปิดเกมรุกในยามที่รัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผู้ครอบครองอำนาจการบริหารประเทศ อยู่ในภาวะอ่อนระทวย

แต่ไม่ใช่ครั้งแรกที่ “ทักษิณ” พูดถึงการกลับประเทศ เพราะเมื่อ 8 ปีที่แล้ว ในช่วงการบริหารประเทศของรัฐบาลยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ผู้เป็นน้องสาว มีคลิปเสียงสนทนาระหว่างชาย 2 คน ผ่านสื่อ ที่คาดกันว่าเป็น “ทักษิณ” กับ พล.อ.ยุทธศักดิ์ ศศิประภา รมว.กลาโหม ในขณะนั้น ซึ่งพูดถึงการกลับบ้านของอดีตนายกฯ พเนจร และการใช้ยา “ไวอากร้า” และ “ถั่งเช่า”

จนชาวโซเชียลเมื่อ 8 ปีที่แล้ว ตั้งฉายาให้ “พล.อ.ยุทธศักดิ์” ว่าเป็น “นายพลถั่งเช่า” และคลิปสนทนาดังกล่าวถูกเรียกว่า “คลิปถั่งเช่า”

เกือบ 13 ปีที่ “พี่โทนี่” หรือ “ทักษิณ” ต้องออกจากเมืองไทย หลังจากกลับแผ่นดินเกิดเมื่อ 28 กุมภาพันธ์ 2551 เป็นครั้งแรกนับแต่การถูกรัฐประหาร 19 กันยายน 2549 ในรัฐบาลสมัคร สุนทรเวช

Advertisment

แต่ “ทักษิณ” อยู่เมืองไทยได้เพียง 5 เดือนเศษ ก็ต้องขออนุญาตศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองออกนอกประเทศอีกครั้ง เมื่อ 31 กรกฎาคม 2551 ในระหว่างสู้คดีที่ดินรัชดา

“ทักษิณ” ให้เหตุผลเดินทางไปปฏิบัติภารกิจประเทศจีนและญี่ปุ่น ระหว่างวันที่ 31 กรกฎาคม-10 สิงหาคม 2551 ขณะที่ในรายละเอียดคุณหญิงพจมาน ผู้เป็นภริยา ให้เหตุผลขอเดินทางไปร่วมพิธีเปิดงานกีฬาโอลิมปิก ที่ประเทศจีน ระหว่างในวันที่ 5-10 สิงหาคม 2551

จากวันนั้นถึงวันนี้ กว่า 13 ปี ที่ “ทักษิณ” ไม่ได้เหยียบแผ่นดินไทยอีกเลย

อย่างไรก็ตาม วันที่ 14 กรกฎาคม กลับเป็นครบรอบ 23 ปี การ “เปิดตัว” พรรคไทยรักไทย ของ “ทักษิณ” ที่โรงแรมสยามซิตี้ กับผู้ร่วมก่อตั้งพรรค 25 คน

ทักษิณกล่าวในวันนั้นว่า รัฐธรรมนูญฉบับใหม่มุ่งเน้นการลดอำนาจรัฐ เพิ่มอำนาจให้ประชาชน การบริหารบ้านเมืองด้วยความโปร่งใส มีการตรวจสอบถ่วงดุลอำนาจ และยังคำนึงถึงคุณภาพชีวิตประชาชนมากขึ้น เปิดโอกาสให้คนมีความรู้ความสามารถเข้ามาสู่การเมืองได้มากขึ้นและง่ายมากขึ้น

ทำให้ผู้นำสามารถแสดงศักยภาพแห่งความเป็นผู้นำได้อย่างเต็มที่ ด้วยเหตุนี้ เราจึงพร้อมใจกันประกาศเจตนารมณ์ที่ชัดแจ้งที่จะสนับสนุนให้เกิดการเปลี่ยนแปลงในทางที่ดีขึ้นตามเจตนารมณ์ของรัฐธรรมนูญ

“โดยร่วมกันจัดตั้งพรรคการเมืองขึ้นมา ใช้ชื่อว่า ‘ไทยรักไทย’ หมายถึง การรวมพลังความรักและความเสียสละของคนไทย เป็นการมอบคืนให้กับแผ่นดิน เพื่อแก้วิกฤตการณ์และฟื้นฟูประเทศ ส่วนสโลแกนคือ ‘คิดใหม่ทำใหม่ เพื่อไทยทุกคน’ และผมหวังเป็นอย่างยิ่งว่าจะได้รับการตอบรับจากสังคม และขอปวารณาตัวเป็นทางเลือกของสังคมไทย”

“จุดยืนของผมจะทำการเมืองสร้างสรรค์ ไม่เล่นการเมืองแบบทำลายล้าง อนาคตพรรคไม่ได้หวังว่าจะเป็นพรรคที่โตที่สุด แต่ต้องการผลักดันนโยบายที่ดีให้ไปสู่การปฏิบัติได้” ทักษิณประกาศกร้าว

และ “ไทยรักไทย” กลับกลายเป็นพรรคใหญ่ที่สุด ได้ชัยชนะเด็ดขาดที่สุดถึง 377 เสียง ในการเลือกตั้งรอบที่สอง เป็น “รัฐบาลพรรคเดียว” กระทั่งโดนรัฐประหาร

จากวันเปิดตัวพรรคไทยรักไทยถึงวันนี้ ครบ 23 ปี พอดี และเกือบจะพอดีกับ 13 ปี ที่ “ทักษิณ” พ้นจากเมืองไทย

กับท่าทีล่าสุดที่เขาประกาศจะกลับประเทศอีกครั้ง