สถานการณ์ความรุนแรงในเมียนมายังไปไม่ถึงด่านชายแดน หอการค้า 4 จังหวัด “แม่สาย เชียงราย ตาก กาญจนบุรี ระนอง” ยันการค้าขายยังปกติ เฉพาะที่แม่สาย ความต้องการสินค้าอุปโภค-บริโภคจากฝั่งไทยกลับพุ่งสูงขึ้น มีการส่งหน้ากากกันแก๊สน้ำตาผ่านด่านเจดียร์ 3 องค์ ไปแล้วกว่า 1 แสนชิ้น แต่การค้าขายในเมืองใหญ่กลับหยุดชะงัก เหตุชาวเมียนมายังไม่กล้าออกนอกบ้าน มีการเผาห้างสรรพสินค้าใหญ่ 2 ห้างวอดในกองเพลิง
นายกริช อึ้งวิฑูรสถิตย์ ประธานสภาธุรกิจไทย-เมียนมา กล่าวหลังจากที่เมียนมาได้ประกาศหยุดยิงเป็นเวลา 1 เดือน ในช่วงเทศกาลสงกรานต์ว่า การค้าการบริโภคหรือการผลิตในเมียนมาจะชะลอตัวต่อไป คงไม่มีการจับจ่ายซื้อสินค้า เนื่องจากประชาชนยังกังวลและไม่กล้าออกไปนอกบ้าน ซึ่งเป็นผลมาจากการปราบปรามก่อนหน้านี้
“ทางสถาบันการเงินยังมีการกำหนดเงื่อนไขในการเบิกจ่าย รวมไปถึง ผู้ประกอบการร้านค้า ห้างสรรพสินค้า หรือโรงงาน ยังคงหยุดทำการในหลายพื้นที่ ซึ่งส่งผลให้ภาพรวมเศรษฐกิจของเมียนมายังคงหยุดชะงัก และยังมีการประเมินว่า เศรษฐกิจพม่าในปี 2564 จะติดลบ -10% ขณะที่ผู้ประกอบการไทยที่อยู่ในเมียนมายังคงไม่มีความมั่นใจในการดำเนินกิจการ ให้พนักงานยังคงหยุดทำงานและให้อยู่ที่บ้านเพื่อรอดูสถานการณ์ แม้จะมีการประกาศหยุดยิงแล้วก็ตาม”
ส่วนภาพการลงทุนของไทยในเมียนมา หรือการลงทุนจากต่างชาติในขณะนี้ เชื่อว่ายังคงชะลอการลงทุน แม้สถานการณ์จะกลับมาเป็นปกติ เพราะนักลงทุนส่วนใหญ่ยังไม่มีความเชื่อมั่นและยังต้องรอดูในเรื่องของสิทธิประโยชน์ หรือเงื่อนไขที่จะเกิดขึ้นกับการลงทุนในอนาคตด้วย “ดังนั้นการลงทุนจะไม่ขยายตัวเหมือนที่ผ่านมาอีก”
ด้านการ sanction ที่เกิดขึ้น ล่าสุดมีการรายงานว่า เยอรมนีได้มีประกาศไม่ส่งกระดาษพิมพ์ธนบัตรไปยังเมียนมา รวมไปถึงฝรั่งเศสชะลอการส่งออกสินค้าบางรายการ โดยภาพรวมแล้วยังไม่ถึงขั้นร้ายแรงในการตัดขาดการค้า การส่งออกทั้งหมด ทั้งนี้ ในส่วนของการค้าชายแดนเชื่อว่า ในระยะยาวคำสั่งซื้ออาจจะชะลอตัว ดังนั้น โอกาสที่จะมีการนำเข้าสินค้าอาจจะน้อยลง ปัจจุบันพบว่าการขนส่งสินค้าส่วนใหญ่เริ่มติดขัดบริเวณชายแดน รวมไปถึงมีการสต๊อกสินค้ามากขึ้น
รายงานจากกรมการค้าต่างประเทศระบุว่า สถานการณ์การเปิด-ปิดจุดและเส้นทางผ่านแดน (ณ วันที่ 1 เมษายน 2564) ไทยเปิดจุดผ่านแดนเชื่อมต่อเมียนมา 11 จุด จากทั่วประเทศที่มีจุดผ่านแดน 97 จุด ส่วนเส้นทางผ่านแดนไทย-เมียนมา มี 3 เส้นทาง และมีคำสั่งให้เปิดจุดผ่อนปรนการค้าชายแดนไทย-เมียนมา บริเวณ จ.แม่ฮ่องสอน 5 จุด เพื่อนำเข้า-ส่งออกสินค้า ได้แก่ ห้วยต้นนุ่น, บ้านเสาหิน, บ้านแม่สามแลบ, บ้านห้วยผึ้ง และบ้านน้ำเพียงดิน ตั้งแต่วันที่ 1 เมษายน เป็นต้นไป
ด้านนายอนุรัตน์ อินทร ประธานหอการค้า จ.เชียงราย กล่าวว่า ตอนนี้ยังไม่มีการปิดด่านและไม่มีผลกระทบต่อการค้าชายแดนระหว่าง จ.เชียงราย กับ จ.ท่าขี้เหล็ก รัฐฉาน ที่จุดผ่านแดนถาวรตรงสะพานมิตรภาพไทย-เมียนมา ข้ามลำน้ำสายแห่งที่ 2 อ.แม่สาย เนื่องจากทุกฝ่ายในเขตรัฐฉานมีความต้องการสินค้าเกือบทุกชนิดจากไทย โดยเฉพาะสินค้าอุปโภคบริโภค น้ำมันเชื้อเพลิง วัสดุก่อสร้าง สอดคล้องกับ น.ส.ผกายมาศ เวียร์รา รองประธานหอการค้า จ.เชียงราย และประธานหอการค้า อ.แม่สาย กล่าวว่า สถานการณ์ในเมียนมาส่งผลกระทบในแง่บวกต่อการค้าชายแดนมากขึ้น
โดยปัจจุบันมีรถขนส่งสินค้าที่ด่านพรมแดน อ.แม่สาย ประมาณ 300-400 คัน ดังนั้น สินค้าไทยจึงกระจายเข้าไปในรัฐฉาน เพราะทุกฝ่ายต้องการสินค้าเหมือนกัน ปัจจุบันจีนยังปิดด่านรุ่ยลี่ มณฑลยูนนาน เชื่อมกับเมืองมูเซ ทางตอนเหนือของรัฐฉาน ทำให้เป็นโอกาสที่สินค้าไทยจะเข้าไปแทนที่ ขณะที่ถนนอาร์สามบีไทย-เมียนมา-จีน และถนนเชื่อมไปยังเมืองต่าง ๆ ในรัฐฉาน มีกองทัพเมียนมารักษาความปลอดภัยตลอดแนว ทำให้ไม่น่าเป็นห่วงเรื่องความรุนแรง
ขณะที่ชายแดนทาง จ.เชียงราย ได้เตรียมมาตรการรองรับกรณีมีชาวเมียนมาหนีความรุนแรงเข้าสู่ฝั่งไทย โดยตั้งสถานที่คัดกรองโควิด-19 และโรงพยาบาลสนาม 5 แห่ง ที่ชุมชนเกาะทราย วัดปิยะพร หมู่บ้านปิยะพร ต.แม่สาย อ.แม่สาย โรงเรียนเทศบาล 1 ต.แม่สาย ที่วัดถ้ำผาจม ต.เวียงพางคำ อ.แม่สาย และที่บ้านปางหนุน ต.เทอดไทย อ.แม่ฟ้าหลวง อย่างไรก็ตาม จนถึงปัจจุบันยังไม่มีเหตุการณ์รุนแรง จนทำให้มีการหลบหนีข้ามแดนเข้ามา
ด้านนายปัญญา วุฒิประจักษ์ ประธานอาวุโสหอการค้าจังหวัดกาญจนบุรี กล่าวว่า ชายแดนด่านเจดีย์สามองค์และด่านบ้านพุน้ำร้อน ปัจจุบันยังมีการนำเข้า-ส่งออกได้ตามปกติ แต่คาดว่ามูลค่าการส่งออกเดือนมีนาคมทั้ง 2 ด่านน่าจะลดลง เนื่องจากสถานการณ์ความไม่สงบในฝั่งเมียนมา รวมถึงเส้นทางการเดินทางของด่านพุน้ำร้อนเข้าไปในทวายค่อนข้างลำบาก โดยสินค้าส่งออกส่วนใหญ่จะเป็นสินค้าอุปโภคบริโภค และยังมีหน้ากากกันแก๊สน้ำตาที่มีการส่งออกไปแล้วกว่า 100,000 ชิ้น
ปัจจุบันทั้ง 2 ด่านมีตัวเลขส่งออกเดือนกุมภาพันธ์ 86,906,750 บาท เมื่อเทียบกับเดือนมกราคม มีมูลค่าส่งออก 47,889,989 บาท จะเห็นได้ว่ามูลค่าเพิ่ม 39,014,761 บาท อย่างไรก็ตาม หากเทียบมูลค่าส่งออกเดือนกุมภาพันธ์ ระหว่างปี’63 มูลค่า 257,850,326 บาท กับปี’64 มูลค่า 47,889,989 บาท ปรากฏว่ามูลค่าลดลงไปกว่า 209,960,337 บาท
นายประเสริฐ จึงกิจรุ่งโรจน์ ประธานหอการค้าจังหวัดตาก กล่าวว่า การนำเข้า-ส่งออกดำเนินไปตามปกติ ซึ่งต้นเดือนมีนาคมมีการส่งออกค่อนข้างมาก แต่ช่วงท้ายเดือนค่อนข้างแผ่วลง ถ้าหากดูจากสถิติรถขนส่งสินค้าในช่วงต้นเดือนมีประมาณ 800-900 คันต่อวัน แต่พอช่วงปลายเดือนเหลือเพียง 500 คันต่อวัน จากข้อมูลสถิติการส่งออกของเดือนมกราคม มีมูลค่า 6,508 ล้านบาท ส่วนเดือนกุมภาพันธ์ มีมูลค่า 4,628 ล้านบาท
นายธีระพล ชลิศราพงศ์ ประธานหอการค้าจังหวัดระนอง กล่าวว่า แต่ยังไม่ส่งผลกระทบต่อพื้นที่ชายแดนจังหวัดระนอง การค้าขายเป็นไปตามปกติ ทั้งสินค้าอุปโภคบริโภค ทั้งยังไม่มีการอพยพคนจากฝั่งเมียนมาเข้ามา แตกต่างจากเขตจังหวัดชายแดนฝั่งไทยในภาคเหนือที่การส่งสินค้าอาจลำบากขึ้น หรือมีการกักตุนสินค้า
ล่าสุดมีรายงานจากสำนักงานส่งเสริมการค้าในต่างประเทศ ประจำกรุงย่างกุ้ง เข้ามาว่า ได้เกิดเพลิงไหม้ห้าง Gandamar Wholesale Shopping Center ซึ่งเป็นห้างค้าส่งสินค้าขนาดใหญ่ กับห้าง Ruby Mart ห้างสรรพสินค้าแฟชั่นที่ตั้งอยู่ในเมืองย่างกุ้ง เป็นเวลาหลายชั่วโมงในวันที่ 1 เม.ย.ที่ผ่านมา โดยห้างเสียหายเกือบทั้งหมด ยังไม่สามารถระบุสาเหตุของเพลิงไหม้ได้
แต่มีข้อน่าสังเกตว่า ห้างทั้งสองแห่งมีบริษัท Myanma Economic Holdings Limited ที่กองทัพเมียนมาเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ “แม้กองทัพเมียนมาจะประกาศหยุดยิงกับกลุ่มกองกำลังชาติพันธุ์ทั่วประเทศเป็นเวลา 1 เดือน แต่ในช่วงอาทิตย์ที่ผ่านมามีสถานีตำรวจของเมียนมาในหลายพื้นที่ถูกโจมตี รวมถึงฐานที่มั่นของทหารเมียนมาในหลายพื้นที่ถูกโจมตี และทำให้ทหารเมียนมาได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิต และทางกองทัพเมียนมาก็ได้ตอบโต้ด้วยกำลังกับกลุ่มกองกำลังชาติพันธุ์ด้วยเช่นกัน