นายไพรินทร์ ชูโชติถาวร รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม เปิดเผยว่า รฟม.เป็นหน่วยงานรัฐวิสาหกิจที่ทำงานได้ดี มีภารกิจชัดเจนในการพัฒนารถไฟฟ้า ซึ่งปัจจุบันก็ดำเนินการรถไฟฟ้าในกรุงเทพมหานครและปริมณฑลจำนวน 10 สาย
“อยากให้ทาง รฟม.ช่วยพัฒนาระบบรถไฟฟ้าในต่างจังหวัด เช่น ภูเก็ต เชียงใหม่ และขอนแก่น เพื่อแก้ปัญหาจราจรในท้องถิ่น ส่วนรถไฟฟ้าที่อยู่ในระหว่างก่อสร้าง คือ สายสีชมพู เหลือง และสายสีส้มตะวันออก ไม่น่ามีปัญหาอะไร” นายไพรินทร์กล่าวและว่า
- ด่วน ! วอยซ์ ทีวี ประกาศปิดกิจการทุกแพลตฟอร์ม เลิกจ้าง 100 กว่าคน
- ลูกแม่ค้าขายผัก-พ่อขับแท็กซี่ สู่เก้าอี้ “ปลัดพลังงาน” บทพิสูจน์ชีวิต “ดร.ประเสริฐ สินสุขประเสริฐ”
- NETA X ขาย มิ.ย.นี้ ราคาไม่เกิน 1 ล้านบาท หลัง MOU สรรพสามิต
นอกจากนี้ขอความร่วมมือ รฟม.หากการก่อสร้างรถไฟฟ้าแล้วเสร็จแล้ว ให้คืนพื้นผิวจราจร เพื่อช่วยกรุงเทพมหานคร (กทม.) ในการแก้ปัญหารถติด
ด้านนายฤทธิกา สุภารัตน์ รองผู้ว่าการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) ฝ่ายบริหาร รักษาการผู้ว่ารฟม. กล่าวว่า ในปี 2561 รฟม.เตรียมประมูลโครงการรถไฟฟ้า 2สายทาง
ได้แก่ สายสีม่วงใต้ ช่วงเตาปูน-ราษฎร์บูรณะ ระยะทาง 23.6 กิโลเมตร วงเงิน 101,112 ล้านบาท คาดว่าจะประกาศประกวดราคาภายในเดือน ก.พ.นี้ เบื้องต้น แบ่งงานโยธา วงเงิน 77,385 ล้านบาท เป็น 6 สัญญา แยกเป็นงานใต้ดินจำนวน 4 สัญญา ยกระดับจำนวน 1 สัญญา และระบบรางจำนวน 1 สัญญา คาดว่าลงนามสัญญาปลายปีนี้
และสายสีส้มตะวันตกช่วงศูนย์วัฒนธรรม- บางขุนนท์ ระยะทาง 12.9 กิโลเมตร วงเงิน 97,271 ล้านบาท ขณะนี้อยู่ระหว่างศึกษารูปแบบการลงทุน จะให้เอกชนลงทุน PPP ทั้งก่อสร้างและเดินรถ หรือ รฟม.จะลงทุนงานโยธาให้เอกชนลงทุนงานระบบ หรือ รฟม.ลงทุนเองทั้งหมด
ในส่วนรถไฟฟ้าสายสีชมพูช่วงแคราย-มีนบุรี ระยะทาง 34.5 กิโลเมตร วงเงิน 45,764 ล้านบาท และสายสีเหลืองช่วงลาดพร้าว-สำโรง ระยะทาง 30.5 กิโลเมตร วงเงิน 43,104 ล้านบาท ขณะนี้กำลังทยอยส่งมอบพื้นที่ให้กับกลุ่มบีทีเอสผู้ลงทุนก่อสร้างโครงการ ปัจจุบันบางพื้นที่เอกชนอยู่ระหว่างรื้อย้ายสาธารณูปโภค โดย รฟม.จะเริ่มนับหนึ่งตามสัญญาในเดือน มี.ค.-เม.ย.2561 หลังเลื่อนจาก ก.พ.2561 เนื่องจากแบบการก่อสร้างยังไม่เสร็จ