ธนินธร โชควัฒนา คีย์วูแมนออฟฟิศ KingBridge Tower ในเครือสหพัฒน์

ธนินธร โชควัฒนา

อาคารสำนักงานให้เช่า ‘KingBridge Tower’ โดย บริษัท คิงบริดจ์ ทาวเวอร์ บริษัทในเครือสหพัฒน์ ตั้งตระหง่านเป็นสถาปัตยกรรมเคียงคู่สะพานภูมิพล บนถนนพระราม 3

10 พฤษภาคม 2566 ทำเลพระราม 3 กำลังจะพลิกโฉมหน้าอีกครั้ง จากการเปิดไซต์ก่อสร้างออฟฟิศบิลดิ้งโครงการใหม่ล่าสุด ซึ่งออกแบบภายใต้แนวคิด ‘The Spirit of Synergy’ เชื่อมทุกความสำเร็จอย่างยั่งยืน ได้รับเลือกให้เป็น “โครงการต้นแบบอาคารอนุรักษ์พลังงานและสิ่งแวดล้อม’ ตามหลัก CECI หรือกลุ่มความร่วมมือด้านเศรษฐกิจหมุนเวียนในอุตสาหกรรมก่อสร้าง

คิงบริดจ์ ทาวเวอร์ 1

ด้วยการนำโมเดลตามแนวคิดหลักเศรษฐกิจหมุนเวียน (Circular Economy Models) มาใช้พัฒนาโครงการในทุกมิติ งบฯลงทุนกว่า 6,000 ล้านบาท

ความสำเร็จที่เกิดขึ้นจากการผนึกพลังระหว่างเครือสหพัฒน์และพาร์ตเนอร์ด้านการก่อสร้าง สถาปัตยกรรม และการออกแบบทั้งในไทยและนานาชาติ เพื่อให้ตอบคุณภาพชีวิตการทำงานที่เข้าอกเข้าใจและสร้างรอยยิ้มให้กับทุกคน

สำหรับผู้สนใจ สามารถติดตามแนวคิดในการสร้างสรรค์อาคารนี้ที่ http://bit.ly/3VJ27cU

 

The Spirit of Synergy-บ้านหลังแรกของบริษัทในเครือสหพัฒน์

“ธนินธร โชควัฒนา” ผู้อำนวยการโครงการคิงบริดจ์ ทาวเวอร์ กล่าวถึงแรงบันดาลใจในการปลุกปั้น ‘KingBridge Tower’ ว่า โครงการนี้เกิดขึ้นจากความตั้งใจที่จะพัฒนาชุมชน สร้างอาชีพ สร้างชุมชนที่มีความสุข ย่านพระราม 3

ซึ่งเป็นย่านที่เครือสหพัฒน์เติบโตมาให้ดีและเติบโตไปพร้อมกัน จึงตั้งใจพัฒนา คิงบริดจ์ ทาวเวอร์ ให้เป็นสถาปัตยกรรมเคียงคู่กับสะพานภูมิพล และเป็นความภาคภูมิใจของคนที่ใช้ชีวิตอยู่ในย่านนี้

ธนินธร โชควัฒนา

KingBridge Tower ถือเป็นอาคารสูงแห่งแรกของเครือสหพัฒน์ที่มีอายุองค์กรกว่า 80 ปี ความตั้งใจที่จะสร้างให้เป็นบ้านหลังแรกเพื่อให้บริษัทในเครือได้มาอยู่ร่วมกัน และเป็นพื้นที่ให้พันธมิตรได้มาพบปะ สร้างโอกาสทางธุรกิจให้กับทุก ๆ องค์กรได้เติบโตมากยิ่งขึ้น

นำไปสู่แนวคิด ‘The Spirit of Synergy’ เชื่อมทุกความสำเร็จอย่างยั่งยืน

“เรามุ่งมั่นและตั้งใจให้ คิงบริดจ์ ทาวเวอร์ เป็นบ้านที่ทุก ๆ องค์กรจะรวมพลังกันสร้างความสำเร็จ ไม่ว่าจะเป็นบริษัทต่าง ๆ พาร์ตเนอร์ และทุก ๆ คนที่ได้เข้ามามีส่วนร่วมในการใช้อาคารและ facilities”

นอกจากนี้ ยังเผื่อแผ่ไปถึงชุมชนและสังคมอีกด้วย ในทางการออกแบบ เรามีโจทย์ว่าจะต้อง ‘ไม่เบียดเบียน’ คืออยู่ร่วมกับสะพานและบริบทโดยรอบอย่างกลมกลืน สอดประสานไปกับสะพานภูมิพล สอดคล้องไปกับบริบทโดยรอบของผู้คนในชุมชน

โปรเจ็กต์นี้ได้เลือกพันธมิตรมืออาชีพ A49 สถาปนิกผู้ออกแบบหลักของโครงการ ทั้งยังได้ Mott Macdonald บริษัทวิศวกรที่ปรึกษาระดับโลก ผู้ออกแบบวิศวกรรมโครงสร้างให้กับสะพานภูมิพลและผลงานระดับโลกหลายโครงการมาผนึกพลังร่วมกัน

รวมถึงพันธมิตรมืออาชีพที่มีความเชี่ยวชาญเฉพาะด้าน อาทิ บริษัท Thai Obayashi ผู้รับเหมาก่อสร้างหลัก (Main Contractor), บริษัท Stonehenge Inter ผู้ควบคุมงาน, เครือ SCG, กลุ่มบริษัท YSH ผู้ดูแลงาน Façade ฯลฯ

 

สถาปัตยกรรมเคียงคู่สะพานภูมิพล

ด้าน “เมธินทร์ จันทรอุไร” กรรมการบริหาร บริษัท สถาปนิก 49 จำกัด กล่าวว่า มุมของนักออกแบบตั้งแต่การตีความคำว่า ‘สถาปัตยกรรมเคียงคู่สะพานภูมิพล’ ที่เป็น Iconic building

และการแก้โจทย์ ‘ไม่เบียดเบียน แต่ กลมกลืน’ ไปกับบริบทและความงดงามของสะพานภูมิพล

คิงบริดจ์ ทาวเวอร์ 2

“คำว่า Iconic building คือ ต้องการสร้างอาคารที่มีเสน่ห์ อาจจะเป็นอาคารที่ไม่ได้หันมองทันทีก็ได้ แต่ถ้าคุณได้หันมามองแล้วจะสะกดคุณได้ทันที โดดเด่นอยู่คู่กับสะพานภูมิพล ซึ่งเรียกว่าเป็น Harmonious Approach คือไม่ได้สร้างมาแข่งกัน แต่มาเสริมกัน”

ส่วนคำว่า ‘ไม่เบียดเบียน’ ต้องเริ่มต้นจากการที่อาคารต้องไม่เบียดเบียนสิ่งแวดล้อม นั่นคือเรื่องความยั่งยืน จึงนำแนวคิด Passive Design หรือ สถาปัตยกรรมอาคารสูงที่อยู่ร่วมกับธรรมชาติให้ได้มากที่สุด

โดยออกแบบขึ้นจากสภาพแวดล้อมจริงในพื้นที่ ทั้งเรื่องแรงต้านลมที่ปะทะตัวอาคาร ในระดับความสูงที่แตกต่างกัน และการเปิดพื้นที่เพื่อต้อนรับธรรมชาติในทุกประสาทสัมผัส

หากลองสังเกตจะเห็นว่าตัวอาคารมีลักษณะเหมือนเอียงสอบขึ้น แล้วโค้งตรงมุมปลายอาคารตามอากาศพลศาสตร์ เพื่อลดแรงต้านของลม ร่วมกับอาคารที่เปลี่ยนระนาบ 2 ช่วง ซึ่งออกแบบเป็นช่องลมลอดเพื่อลดแรงต้านอากาศ

ภูมิอากาศเมืองร้อนก็เป็นโจทย์ที่ส่งผลต่อโครงสร้างสถาปัตยกรรมของ คิงบริดจ์ ทาวเวอร์ สถาปนิกจึงติดตั้งฟินตามแนวนอนรอบอาคาร ที่ยื่นมากน้อยต่างกันไป ตามระดับแสงแดดที่ส่องถึง เพื่อให้เป็นร่มเงาให้ตึก

ลดความร้อนที่เข้ามาในตัวอาคาร ทำให้ใช้แอร์ลดลงและปล่อยความร้อนออกจากตัวอาคารน้อยลง

การออกแบบที่ตอบโจทย์แนวคิด Synergy สะท้อนผ่านพื้นที่ส่วนกลางหรือ Re-tell (Retail) พื้นที่ที่ดีไซน์ให้เป็น Open Space เพื่อเป็นพื้นที่แห่งการเรียนรู้และทำกิจกรรม

ยกแคนทีนขึ้นมาบนชั้น 3 ซึ่งอยู่ระดับเดียวกับสะพานภูมิพล พร้อมสาธารณูปโภคส่วนกลางครบครัน ให้ผู้ใช้งานได้เห็นวิวโค้งน้ำ วิวเมือง กระโดงสะพาน

และยังรายล้อมไปด้วยสวนธรรมชาติ ที่ปรับเปลี่ยนให้กลายเป็นมุมรับประทานอาหารกลางวัน พื้นที่ระดมสมอง ประชุมกึ่งทางการ หรือจะวิ่งจ็อกกิ้งตอนเย็น กลายเป็นพื้นที่มีความหมายและทำให้ผู้คนมีรอยยิ้มและความสุข

คิงบริดจ์ ทาวเวอร์ 3

แนวคิด Synergy กินพื้นที่ไปถึงชั้นที่มี Water Scape ด้านบนที่เป็นพื้นที่กิจกรรมที่เป็นเหมือนกับสะพานที่ยื่นออกมา เป็นแพลตฟอร์มสำหรับจัดกิจกรรม โดยมีฉากหลังเป็นวิวที่สวยที่สุดแห่งหนึ่งของกรุงเทพฯ

นอกจากกระบวนการออกแบบอาคารที่ไม่เบียดเบียนธรรมชาติ คุณภาพชีวิตของผู้ใช้งานภายในอาคารเป็นสิ่งที่ให้ความสำคัญอย่างมาก

ภายในอาคารติดตั้งระบบตรวจสอบคุณภาพอากาศ MERV 14 กรองอากาศ ฝุ่นละออง และมลพิษ PM 2.5 ได้มากกว่า 90% อีกด้วย

การันตีด้วยมาตรฐานสากลต่าง ๆ อาทิ LEED Gold, Fitwel ระดับสูงสุด 3 ดาว ประเภท Multi-tenant base building อาคารแรกในไทยและในเอเชีย เพื่อสุขภาวะที่ดีของผู้ใช้อาคารระดับสากล

และเป็นโครงการต้นแบบอาคารอนุรักษ์พลังงานและสิ่งแวดล้อม ตามหลัก CECI หรือกลุ่มความร่วมมือด้านเศรษฐกิจหมุนเวียนในอุตสาหกรรมก่อสร้าง

ผู้สนใจสามารถคลิกดูข้อมูลเพิ่มเติม: https://www.kingbridgetower.com