นายอดิเรก แสงใสแก้ว ประธานคณะกรรมการจัดงานมหกรรมบ้านและคอนโดครั้งที่ 37 เปิดเผยว่า แนวโน้มอสังหาฯ ช่วงครึ่งปีหลังมีความคึกคักต่อเนื่องจากครึ่งปีแรก ทาง 3 สมาคมเตรียมจัดอีเวนต์ประจำปีภายใต้งาน “มหกรรมบ้านและคอนโด ครั้งที่ 37 ระหว่างวันที่ 5-8 ตุลาคม 2560 ที่ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์
การจัดงานครั้งนี้ ไฮไลต์มีการจัดงานพรอพเทคนำเสนอเทคโนโลยีและนวัตกรรม โดยมี 200 บริษัท 1,000 กว่าโครงการ มูลค่ารวม 1 แสนล้านบาท ตั้งเป้ายอดขายในงาน 3,000-4,000 ล้านบาท และการติดต่อหลังจากงานอีกคิดเป็นมูลค่ารวม 7,000 ล้านบาท
- ด่วน ! วอยซ์ ทีวี ประกาศปิดกิจการทุกแพลตฟอร์ม เลิกจ้าง 100 กว่าคน
- NETA X ขาย มิ.ย.นี้ ราคาไม่เกิน 1 ล้านบาท หลัง MOU สรรพสามิต
- ลูกแม่ค้าขายผัก-พ่อขับแท็กซี่ สู่เก้าอี้ “ปลัดพลังงาน” บทพิสูจน์ชีวิต “ดร.ประเสริฐ สินสุขประเสริฐ”
ข้อแนะนำสำหรับผู้บริโภคในการช็อปมหกรรมบ้านฯ ครั้งที่ 37 ถือเป็นอีเวนต์ที่มีโครงการนำเสนอมากที่สุด ผู้สนใจสามารถคลิกดูข้อมูลได้ที่ housecondoshow.com
นายพรนริศ ชวนไชยสิทธิ์ นายกสมาคมอสังหาริมทรัพย์ไทย กล่าวถึงปัญหาปฏิเสธสินเชื่อหรือรีเจ็กต์เรตว่า ตัวเลขที่สอบถามในวงการพบว่าอัตราปกติอยู่ที่ 20% ราคาอสังหาฯ ต่ำ 3 ล้านบาทเป็นกลุ่มมีปัญหามากที่สุด และผู้ประกอบการรายกลาง-รายเล็กก็มีผลกระทบเยอะ สมาคมอสังหาริมทรัพย์ไทยได้มีการเจรจากับนอน-แบงก์ ปล่อยสินเชื่อวงเงิน 20,000 ล้านบาท มีทั้งจากธุรกิจประกันภัย เครดิตฟองซิเอร์ โดยมีอัตราดอกเบี้ยสูงกว่าอัตรา MRR ของสถาบันการเงิน 2% บวกลบ
ลูกค้ากลุ่มเป้าหมายชาวต่างชาติเป็นอีกกลุ่มที่น่าสนใจ โดยเฉพาะหลังเดือนตุลาคมนี้มีการสอบถามเข้ามาเยอะมาก โดยเริ่มจากการลงทุนไซซ์โครงการไม่ใหญ่มากนัก เป็นการลงทุนเพื่อทำความรู้จักก่อนขยายผลการลงทุนขนาดใหญ่ในอนาคต
นายพรนริศกล่าวถึงผลกระทบจากน้ำท่วมในภาคอีสานด้วยว่า ผู้บริโภคจะเก็บเงินไว้ซ่อมแซมบ้านเป็นหลัก ทำให้กำลังซื้อยังลำบาก อาทิ ตลาดขอนแก่นขายเฉื่อย 2-3 ปี, โคราชช่วงปลายปีกำลังจะเปิดห้างมีพื้นที่รวมกัน 9 แสน-1 ล้านตารางเมตร ฯลฯ
นายอธิป พีชานนท์ นายกสมาคมธุรกิจบ้านจัดสรร กล่าวถึงแนวโน้มครึ่งปีหลังว่าน่าจะดีกว่าครึ่งปีแรก อย่างไรก็ตาม ปัจจัยคือการลงทุนเมกะโปรเจ็กต์ภาครัฐต้องมีการลงทุนจริง เนื่องจากปัจจุบันยังไม่เห็นรูปธรรมมากนัก ตัวอย่างที่ดีคือรัฐบาลโปรโมตอีอีซี (การพัฒนาระเบียงเศรษฐกิจภาคตะวันออก) ทำให้มีความเคลื่อนไหวของภาคเอกชนเพื่อขานรับ อาทิ พื้นที่รอบสนามบินอู่ตะเภา
“พื้นที่น่าสนใจในภูมิภาคตอนนี้เด่นมากคืออีอีซี ส่วนภูมิภาคอื่นๆ ยังผูกกับกำลังซื้อและความเชื่อมั่นเศรษฐกิจมหภาค โดยเฉพาะนโยบายเขตเศรษฐกิจพิเศษที่ยังมีปัญหามากมาย ไม่ว่าจเป็นการกำหนดพื้นที่ผังเมืองรองรับก็ยังไม่เรียบร้อย ดังนั้น เขตภูมิภาคจึงได้รับผลกระทบหลายเรื่อง ซึ่งปัญหาน้ำท่วมกระทบต่อภูมิภาค ถ้าคลี่คลายเร็วจะเป็นผลบวก มีเฉพาะบางจังหวัดที่บ้านจัดสรรไปได้ดี คอนโดมิเนียมในตลาดภูมิภาคยังไม่ฟื้นตัว”
ในขณะที่กรุงเทพฯและปริมณฑล ครึ่งปีหลังแนวโน้มดีขึ้นเรื่อยๆ โฟกัสตลาดบ้านจัดสรร สินค้าทาวน์เฮาส์พูดมา 2 ปีแล้วว่าจะเป็นตัวดึงตลาดโครบการแนวราบให้ดีขึ้น คาดว่าสัดส่วนการตลาดเกิน 50% เป็นครั้งแรกในรอบ 10 ปี ทั้งยอดเปิดตัวโครงการใหม่และยอดขาย ในขณะที่ยอดโอนกรรมสิทธิ์สต๊อกคอนโดฯ ยังมีสัดส่วนจำนวนเกินครึ่งหรือมากกว่าแนวราบ
ส่วนคอนโดฯ มีการลงทุนหนาแน่นไปตามแนวเส้นทางรถไฟฟ้าที่เดินหน้าการลงทุน ในขณะที่ยอดโอนต่อปีคอนโดอยู่ที่ 2.5 แสนล้านบาท แนวราบรวมกันอยู่ที่ 2.1 แสนล้านบาท
นายอธิปกล่าวถึงยอดปฏิเสธสินเชื่อว่ายังใกล้เคียงเดิมอยู่ที่ 50% เนื่องจากธนาคารยังไม่มั่นใจ โดยเฉพาะปัญหาหนี้เสียที่มีแนวโน้มสูงขึ้น อย่างไรก็ตาม มองว่ามาตรการเข้มงวดสินเชื่อไม่ยุติธรรมต่อผู้กู้รายใหม่ ในขณะที่สถาบันการเงินมองในมุมพอร์ตสินเชื่อรวม
นอกจากนี้ยังมีประเด็นภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้างที่รัฐบาลเตรียมบังคับใช้ต้นปี 2561 แนวโน้มทำให้มีอสังหาฯ reverse กลับมาใหม่ มี 2 ขาคืออสังหาฯ รีเซลจากโครงการ (ทิ้งดาวน์) กับผู้บริโภคโอนไปแล้วแต่ไม่มั่นใจเศรษฐกิจจึงรีเซลอสังหาฯ ของตัวเอง อาทิ บ้านตากอากาศ เริ่มมีโปรโมชันระบายสต๊อก จึงเป็นช่วงเวลาที่ต้องมีความร่วมมือระหว่างเอกชนกับรัฐบาลในการหาความพอดี เพื่อหาจุดบาลานซ์ดีมานด์-ซัพพลาย รวมทั้งได้มีข้อเสนอให้กับทางรัฐบาลเพื่อบรรเทาผลกระทบ เนื่องจากภาคอสังหาฯ มีทั้งโครงการที่อยู่อาศัย โรงแรม รีสอร์ท ห้างสรรพสินค้า
ตัวอย่าง ร้านก๋วยเตี๋ยวบนถนนสีลมจะอยู่ได้ไหมถ้าหากต้องเสียภาษีที่ดินในอัตราใหม่, ปั๊มน้ำมันบนถนนสาทรที่มีราคาประเมินวาละ 7-8 แสนบาท เป็นต้น
