คมนาคมเปิดทาง ทอท.ลุย”เทอร์มินอล 2″ต่อ”นิตินัย”แจงแผนแม่บท ปรับตามICAOเตรียมดีเบตสภาวิศวกร-สถาปนิก16ต.ค.นี้

นายชัยวัฒน์ ทองคำคูณ ผู้อำนวยการสำนักนโยบายและแผนการจราจรและขนส่ง (สนข.) ในฐานะรักษาการปลัดกระทรวงคมนาคม กล่าวว่า การประชุมโครงการพัฒนาสนามบินสุวรรณภูมิเฟส 2 ในวันนี้ (3 ต.ค.61) เป็นการเชิญนายนิตินัย ศิริสมรรถการ กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) หรือ ทอท.มาชี้แจงกรณีที่เกิดกระแสวิพากษ์วิจารณ์การพัฒนาสนามบินสุวรรณภูมิ เฟส 2 ไม่เป็นไปตามแผนแม่บท (Master Plan)​ เดิม

จากการชี้แจงทำให้ทราบว่า Master Plan ที่ผ่านมา มีการจัดทำมาแล้วหลายครั้งคือ ในปี 2536, 2546, 2552, 2554 และฉบับล่าสุด 2561 สาเหตุที่ต้องมีการปรับแผน ก็เพื่อให้มีความทันสมัยและเป็นไปตามที่องค์การการบินพลเรือนระหว่างประเทศ หรือไอเคโอ กำหนดเป็นมาตรฐานไว้ ทางกระทรวงจึงไม่มีข้อติดใจอะไรอีก จึงให้ ทอท.ไปดำเนินการพัฒนาต่อตามแผนที่วางไว้ต่อไป และกำชับให้ติดตามข่าวที่จะเกิดขึ้นกับโครงการนี้อย่างใกล้ชิด และต้องเป็นผู้ชี้แจงให้สังคมรับทราบถึงข้อเท็จจริงในทุกประเด็นด้วย

“เข้าใจว่าการทำงานทุกอย่างอยู่บนหลักการของวิชาชีพอยู่แล้ว ก็มองว่าที่ ทอท.ทำถูกต้องแล้ว ทุกอย่างทำตามแผน ก็ให้เดินหน้าต่อ ไม่มีอะไรติดใจสงสัย”

ด้านนายนิตินัยกล่าวว่า Master Plan ที่เราปรับปรุงมา 5 ครั้ง (2536, 2546, 2552, 2554 และ 2561) นั้นแผนในปี 2552 และ 2554 เป็นการศึกษาที่ไอเคโอทำเอาไว้ และเข้าคณะกรรมการ (บอร์ด)​ เพื่อทราบแล้ว แต่ไม่ได้อนุมัติ​ ดังนั้น ถ้ามองในภาพรวมจะมีแค่ Master Plan ปี 2546 และ 2561 เลย ดังนั้นแผนงานปี 2561 จึงมีศักดิ์ศรี​เทียบเท่ากับแผนปี 2536 หรือ 2546 ถือว่าเราทำตาม Master Plan อยู่แล้ว

โดยการปรับ Master Plan ไม่จำเป็นต้องนำเสนอคณะรัฐมนตรีหรือหน่วยงานอื่นๆ ให้รับทราบ เพราะที่ผ่านมาก็ผ่านบอร์ดแล้วสามารถนำไปใช้ได้เลย ส่วนการลงทุนต่างๆ ก็ต้องดำเนินการไปตามขั้นตอนปกติ

ส่วนการตั้งข้อสังเกตของสภาสถาปนิก​ว่า การออกแบบอาคารผู้โดยสาร (Terminal)​ หลังที่ 2 ให้มี 14 หลุมจอดอยู่ในซอย (Taxi5)​ จะไม่สามารถรองรับผู้โดยสารได้ 30 ล้านคน ตามที่ TOR ระบุไว้นั้น การออกแบบ Terminal​ 2 เป็นการแนะนำของไอเคโอที่กำหนดมาตั้งแต่ปี 2554 แล้ว ในอดีตจุดนี้จะเป็น Bus Gate​ ที่จะทำให้เกิดคอขวดจราจรในพื้นที่ จึงต้องสร้าง Terminal 2 ให้มาประชิดแทน Gate ดังกล่าว

อีกทั้งยังมีโครงการอาคารเทียบเครื่องบิน (Satellite)​ ที่จะมาพร้อมกับหลุมจอดอีก 28 หลุมนั้น ก็ได้เปิดใช้ตัวหลุมจอดไปแล้ว ซึ่งในภาพรวมจะสามารถรองรับผู้โดยสารได้ถึง 90 ล้านคนอยู่แล้ว ถือว่าเหลือเฟือมากในปัจจุบัน และยืนยันว่าตัว Terminal 2 รองรับผู้โดยสารได้ 30 ล้านคนได้แน่นอน

นายนิตินัยกล่าวอีกว่า ส่วนการชี้แจงกับผู้ที่ตั้งข้อสังเกตนั้น ทราบว่าในวันที่ 16 ต.ค.นี้ สมาคมสถาปนิกสยามในพระบรมราชูปถัมภ์จะจัดเสวนาในเรื่องนี้ ทอท.ก็จะไปร่วมในงานนี้ด้วย