ยักษ์เฟอร์นิเจอร์สัญชาติสวีเดน “อิเกีย” นำเสนอเทคนิคการออกแบบ “ครัวที่ใช่ในสไตล์คุณ”
ฟังก์ชั่นห้องครัวนอกจากเป็นพื้นที่เสาะหาอาหารใส่ท้องแล้ว ยังเป็นพื้นที่สานสัมพันธ์สมาชิกในครอบครัวอีกด้วย การออกแบบ ตกแต่ง จัดเก็บอุปกรณ์ต่าง ๆ จึงไม่อาจมองข้าม
- “ทางรัฐ” ซูเปอร์แอปแห่งชาติ รองรับแจกเงินดิจิทัล 10,000 บาท
- ทำฟันประกันสังคม ไม่ต้องสำรองจ่าย เดือน มี.ค. 67 ยอด 169 ล้านบาท
- รู้ไหม ? 31 มณฑลจีน ชอบสินค้าอะไรของไทย
เพราะครัวในชีวิตจริงกับครัวในฝัน
บ่อยครั้งที่พบว่าสวนทางกัน…ไม่มากก็น้อย
แนวทางการออกแบบ “ครัวที่ใช่” อันดับแรก คือ การวางผังครัว ฟังก์ชั่นหลักการใช้งานมี 3 ส่วน “เก็บ-ล้าง-ปรุง” ซึ่งมีทิศทางการใช้งานแบบวงจรสามเหลี่ยม (triangle way)
เริ่มจากจุดเก็บของสด เครื่องปรุง วัตถุดิบต่าง ๆ นำไปยังส่วนล้าง ก่อนเข้าสู่การประกอบอาหาร ไม่ว่าจะหุง ทอด ผัด ต้มต่อไป
จากนั้นมารู้จักฟังก์ชั่น “เก็บ” เรากำลังมองไปที่ตู้เย็น ควรจัดเก็บวัตถุดิบในกล่องใส หรือขวดโหล เพื่อให้สะดวกในการหยิบใช้งาน สามารถมองเห็นของข้างในได้อะไรหมด-อะไรต้องเติมบ้าง หากมีตู้ด้านบนเป็นตู้แขวนโล่งอาจใช้เก็บแก้วน้ำ ชา กาแฟ กรรไกร ที่เปิดขวด และของแห้งทั้งหลาย
ฟังก์ชั่น “ล้าง” หรือมุมอ่างล้างจาน ด้านใต้อ่างมักใช้วางถังขยะ สามารถเลือกซื้อแบบแบ่งถังขยะแห้ง ขยะเปียก
นอกจากนี้ใช้เก็บอุปกรณ์ล้างจานได้ ส่วนท็อปครัวตรงกลางเป็นส่วนของราวแขวน บางบ้านไม่มีที่คว่ำจาน สามารถใช้ที่แขวนติดผนังแทนได้ และอาจใช้ชั้นวางเสริมช่วยเพิ่มพื้นที่วางของร่วมไปด้วยก็ได้
ฟังก์ชั่น “ปรุง” ควรเว้นระยะห่างระหว่างท็อปครัวกับตู้แขวนผนัง 55 ซม. เพื่อให้มีพื้นที่เพียงพอต่อการทำอาหาร รวมทั้งพื้นที่ระหว่างเตากับอ่างล้างจาน ควรห่างกันอย่างน้อย 80 ซม. เพื่อความสะดวกระหว่างประกอบอาหาร
ส่วนมุมจัดเก็บและลิ้นชักข้างล่าง สามารถเพิ่มที่แบ่งช่องลิ้นชักสำหรับเก็บช้อนส้อม ระหว่างตัวผนังที่เป็นส่วนทำอาหารอาจหากระเบื้องสีขาว หรือเลือกใช้แผ่นติดผนังกันคราบ เพิ่มลวดลายให้กับผนังและทำความสะอาดง่ายอีกด้วย
ถัดมาที่ต้องให้ความสำคัญ คือ “ผังห้องครัว” แบบยอดนิยมมี 5 แบบด้วยกัน
1.ครัวผนังเดียว (single-sided kitchen) เหมาะกับบ้านมีพื้นที่จำกัด คอนโดมิเนียม
2.ครัวสองฝั่ง (double-sided kitchen) เหมาะกับบ้านที่มีลักษณะเป็นแนวยาว หรือบ้านที่ต้องการพื้นที่ครัวแยกออกมาจากตัวบ้าน มีข้อดีคือสามารถเข้าครัวได้พร้อมกันสองคน
3.ครัวเข้ามุม (L-shaped kitchen) เหมาะกับบ้านที่ไม่ได้ต้องการแยกครัวออกมาเป็นสัดเป็นส่วนในอีกห้องหนึ่งไม่ต้องการก่อผนังเพิ่ม ผังครัวแบบเข้ามุมทำให้มีพื้นที่เพียงพอสำหรับทำครัว และเหลือพื้นที่วางโต๊ะกินข้าวด้วย
4.ครัวเกาะกลาง (island kitchen) กำลังนิยมมากในปัจจุบัน ช่วยเพิ่มพื้นที่ในการใช้งาน ใช้อเนกประสงค์ทั้งเก็บของ นั่งทานอาหาร เป็นแพนทรีเล็ก ๆ พื้นที่สำหรับล้างจาน หรือเป็นพื้นที่ตั้งเตาประกอบอาหารก็ได้
5.ครัว 3 ผนัง (U-shaped kitchen) เหมาะกับบ้านพื้นที่กว้างขวาง ครอบครัวใหญ่ ๆ หรือคนที่รักการทำอาหารและใช้ห้องครัวอยู่เสมอ จุดเด่นใช้ครัวได้พร้อมกันหลาย ๆ คน ทำอาหารหลาย ๆ เมนู
ห้องครัวสไตล์คุณ เติมเทคนิค DIY อีกนิด ครัวในฝันก็สามารถเนรมิตให้เป็นครัวในชีวิตจริงได้ง่ายนิดเดียว
