ช.การช่างลุ้นระทึกสัมปทานทางด่วนปิดดีลทัน-ไม่ทันรบ.นี้-รออัยการสูงสุดตรวจร่างสัญญาชงบอร์ดเคาะ27มิ.ย.นี้

แฟ้มภาพ

นายสุทธิศักดิ์ วรรธนกิจ รองผู้ว่าฝ่ายกฎหมายและกรรมสิทธิ์ที่ดิน รักษาการในตำแหน่งผู้ว่าการทางพิเศษแห่งประเทศไทย (กทพ.) เปิดเผยถึงความคืบหน้าผลการเจรจาและร่างสัญญาข้อพิพาททางด่วนกบมจ.ทางด่วนและรถไฟฟ้ากรุงเทพ (BEM) กรณีที่ศาลปกครองให้ กทพ.จ่ายค่าชดเชยทางแข่งขันของทางด่วนสายบางปะอิน-ปากเกร็ด ให้กับ บจ.ทางด่วนเหนือ (NECL) บริษัทในเครือ BEM และ บมจ.ช.การช่าง เป็นวงเงินรวมดอกเบี้ย 4,318 ล้านบาท รวมเป็นมูลค่าหนี้ 59,000 ล้านบาท โดยคณะกรรมการ (บอร์ด) กทพ.จะขยายอายุสัญญาสัมปทาน 30 ปีเพื่อยุติข้อพิพาททั้งหมดนั้น อยู่ระหว่างการพิจารณาของสำนักงานอัยการสูงสุด

กระบวนต่อไป คือรออัยการสูงสุดส่งรายงานและร่างสัญญากลับมาที่บอร์ด กทพ. เพื่อทราบก่อนจะส่งต่อกระทรวงคมนาคมพิจารณาและขอความเห็นหน่วยงานที่เกี่ยวข้องก่อนจะเสนอให้ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ให้ความเห็นชอบต่อไป ซึ่งการประชุมบอร์ดในครั้งถัดไปจะมีขึ้นในวันที่ 27 มิ.ย.นี้ และไม่สามารถคาดเดาได้ว่า อัยการสูงสุดจะส่งเรื่องกลับมาทันการประชุมบอร์ดวันที่ 27 มิ.ย.นี้หรือไม่ เพราะขึ้นอยู่กับดุลยพินิจของอัยการสูงสุด แต่ถ้าส่งกลับมาไม่ทันก็ไม่เป็นไร สามารถนัดประชุมบอร์ดวาระพิเศษ เพื่อรับทราบความคืบหน้าขึ้นมาภายหลังได้

ส่วนจะนำร่างสัญญากลับมาทบทวนตามข้อเสนอของสหภาพแรงงานรัฐวิสาหกิจการทางพิเศษแห่งประเทศไทย (สร.กทพ.) หรือไม่นั้น คงไม่สามารถนำกลับมาทบทวนได้ เพราะร่างสัญญาได้เดินไปตามขั้นตอนทางกฎหมายแล้ว อีกทั้งก่อนที่จะเสนอให้อัยการสูงสุดพิจารณาก็ได้นำข้อสังเกตของแต่ละฝ่าย ซึ่งรวมถึงข้อสังเกตจากสหภาพฯประกอบไปกับร่างสัญญาเรียบร้อยแล้ว ต่อไปนี้ต้องรอว่า อัยการสูงสุดจะมีข้อสังเกตกลับมาอย่างไร

นายสุทธิศักดิ์ กล่าวเพิ่มเติมว่า หากเรื่องนี้เสนอไม่ทันรัฐบาลชุดนี้ก็ไม่กังวล เพราะข้อมูลที่จะนำเสนอให้รัฐบาลใหม่ก็เป็นข้อมูลเดียวกันนี้ เปลี่ยนเพียงผู้อนุมัติเท่านั้น ส่วนกระแสข่าวที่ว่านายอนุทิน ชาญวีรกุล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทยที่ได้โควต้าคุมกระทรวงคมนาคมจะไม่เห็นชอบให้ BEM ต่ออายุสัญญาสัมปทาน ก็สุดแล้วแต่นโยบายของท่าน