บมจ. ศุภาลัย เผย ภาพรวมตลาดอสังหาฯ ติดลบจากปีก่อน ปรับแผนลงทุน 27 โครงการแนวราบ รุกบ้านราคาแพง 18-30 ล้านบาท
วันที่ 10 กันยายน 2563 นายไตรเตชะ ตั้งมติธรรม กรรมการผู้จัดการ บริษัท ศุภาลัย จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ภาพรวมตลาดอสังหาริมทรัพย์ทำเลกรุงเทพฯ และปริมณฑลครึ่งแรกปี 2563 ติดลบจากปีก่อนหน้าอย่างชัดเจน โดยมีหน่วยเปิดใหม่ประมาณ 30,000 ยูนิต และมียอดขายใกล้เคียงกัน โดยเป็นแนวราบ 20,000 กว่ายูนิต และคอนโดฯ 8,000-9,000 ยูนิต ขณะที่ทั้งปี 2562 มียอดเปิดขายทั้งหมด 1.2 แสนยูนิต เป็นแนวราบ 50,000 กว่ายูนิต และคอนโดฯเกือบ 70,000 ยูนิต
- “ทางรัฐ” ซูเปอร์แอปแห่งชาติ รองรับแจกเงินดิจิทัล 10,000 บาท
- รู้ไหม ? 31 มณฑลจีน ชอบสินค้าอะไรของไทย
- ทำฟันประกันสังคม ไม่ต้องสำรองจ่าย เดือน มี.ค. 67 ยอด 169 ล้านบาท
จำนวนการเปิดตัวดังกล่าว สะท้อนให้เห็นว่าในครึ่งปีแรกคอนโดฯ เปิดใหม่ลดลงอย่างชัดเจน เนื่องจากสถานการณ์โควิดในครึ่งปีแรกและปัญหาโอเวอร์ซัพพลายในหลายทำเล ทำให้ดีเวลอปเปอร์ชะลอการลงทุน และปรับแผนการลงทุนพัฒนาแนวราบมากขึ้น
ทั้งนี้ มองว่าหลังแนวโน้มเศรษฐกิจที่ดีขึ้นในไตรมาส 2/63 ที่ผ่านมา ดีเวลอปเปอร์อาจมีการเปิดคอนโดฯมากขึ้น ประกอบกับปีนี้เป็นปีพักฐาน เพราะครึ่งปีแรก คอนโดฯยังมียอดขายเกือบ ช่วยดูดซับให้ตลาดโอเวอร์ซัพพลายน้อยลง
การสำรวจแผนการลงทุนปี 2563 เฉพาะดีเวลอปเปอร์รายใหญ่ 10 ราย พบว่า มูลค่าการเปิดตัวคอนโดฯ ลดลงกว่า -77% และแนวราบขยายตัว 11% โดยตลาดแนวราบ ดีเวลอปเปอร์ส่วนกลางลงทุนในกรุงเทพฯ และปริมณฑลเพิ่มจากปีก่อนเล็กน้อย 1% แต่การลงทุนในต่างจังหวัดขยายตัว 140%
อย่างไรก็ตาม นายไตรเตชะ มองว่า หลายปีที่ผ่านมา ดีเวลอปเปอร์ท้องถิ่นจะครองสัดส่วนตลาดที่อยู่อาศัยในต่างจังหวัดมากกว่าดีเวลอปเปอร์จากส่วนกลาง แต่ปัญหาเศรษฐกิจปีนี้ทำให้แบงก์ไม่ค่อยปล่อยสินเชื่อแก่ผู้ประกอบการรายย่อย อัตราส่วนการลงทุนของดีเวลอปเปอร์ส่วนกลางในปีนี้จึงพุ่งสูง แต่ไม่กังวลเรื่องโอเวอร์ซัพพลาย เพราะซัพพลายใหม่ที่เข้ามาแค่ทดแทนดีเวลอปเออร์ท้องถิ่นที่ทำโครงการน้อยลงอย่างชัดเจนเท่านั้น
ครึ่งปีแรก 2563 แม้ดีเวลอปเปอร์รายใหญ่ 10 รายแรก มีมูลค่ายอดขายโต 9% เพราะมีการกินมาร์เก็ตแชร์จากรายเล็กที่เปิดโครงการไม่ได้ หลังแบงก์ไม่ปล่อยสินเชื่อทำโครงการ แต่ไม่ได้หมายความว่ายอดขายทั้งตลาดทั้งโตจากปีก่อน
“สำคัญที่การปล่อยสินเชื่อโครงการของแบงก์ กระทั่งศุภาลัยซึ่งไม่มีปัญหาอะไร เรามีต้นทุนการเงิน 2% และสัดส่วนหนี้ 50-60% ซึ่งน้อยกว่ารายอื่น ๆ แบงก์ยังเข้มขึ้นในการปล่อยสินเชื่อ จากที่ก่อนหน้านี้แบงก์ไม่เคยไปดูที่ดินที่จะทำโครงการ ตอนนี้ก็ไปดูแล้ว ฉะนั้นดีเวลอปเปอร์ที่มีกำลังทรัพย์น้อยกว่าจะหาสินเชื่อได้มาก ผมคิดว่าแบงก์จะทำอย่างนี้อีก 1-2 ปี ทำให้รายใหญ่กินมาร์เก็ตแชร์ได้ หรืออาจจะเป็นอีก 3-4 ปี” นายไตรเตชะ กล่าว
ด้านศุภาลัยมีการปรับแผนลงทุนปี 2563 ให้สอดคล้องกับความต้องการของตลาด หลังครึ่งปีแรก 2563 ศุภาลัย มียอดขายจากโครงการแนวราบในกรุงเทพฯ โต 11% เทียบกับครึ่งปีแรก 2562 และต่างจังหวัดโตขึ้น 31%
เดิมหน้าพัฒนาทั้งหมด 30 โครงการ 30,000 ล้านบาท แบ่งเป็นแนวราบ 25 โครงการ มูลค่า 20,000 ล้านบาท และคอนโดฯ 5 โครงการ มูลค่า 10,000 ล้านบาท รีวิวแผนการลงทุนใหม่ทั้งหมด 30-31 โครงการ โดยแนวราบเพิ่มเป็น 27 โครงการ 21,800 ล้านบาท ส่วนคอนโดฯ อาจลดเหลือ 3-4 โครงการ ซึ่งครึ่งปีแรกที่ผ่านมาเปิดไปแล้ว 2 โครงการ 3,500 ล้านบาท
โครงการแนวราบที่จะเปิดในครึ่งปีหลังมีทั้งหมด 18 โครงการ 14,660 ล้านบาท โดยจะพัฒนาบ้านเซ็กเมนต์ 10 ล้านบาทขึ้นไป จำนวน 2 โครงการ รวมถึงอนาคตจะทำบ้านเดี่ยวแบรนด์ใหม่ 3 ชั้น ราคา 10-20 ล้านบาทด้วย เพื่อขยายฐานลูกค้ากลุ่มนี้ที่มีอยู่ 7% เพิ่มเป็น 9% หรือ 15% หากเป็นไปได้ เพราะสัดส่วนยอดขายเซ็กเมนต์นี้มีไม่ต่ำกว่า 20% ของตลาดรวม และที่ผ่านมาศุภาลัยทำบ้านเฉลี่ย 4 ล้านบาทต้น ต้นปีที่ผ่านมาตลาดกลาง 3-6 ล้านบาททำได้ดี จึงหวังว่าจะช่วยให้กลุ่ม 10 ล้านบาทขึ้นไปขยายตัวด้วย
“เซ็กเมนต์ที่ไปได้ดีคือ 3-6 ล้าน เนื่องจากลูกค้าตกงาน กำลังซื้อลด แบงก์ปล่อยกู้ยากโดยเฉพาะกลุ่ม 2.5 ล้านบาทลงมา ส่วนลูกค้าตลาดบนราคาตั้งแต่ 2.5 แสนบาทต่อตารางวา เขาจะไม่เฟอร์ฟอร์มจนกว่าเศรษฐกิจจะหักหัวขึ้น ศุภาลัยเลยเตรียมเซ็กเมนต์นี้รองรับเมื่อเศรษฐกิจดีขึ้น สัดส่วนลูกค้าที่เป็นเจ้าของกิจการจะเพิ่มขึ้น เขาพร้อมจะใช้จ่ายตรงนี้” นายไตรเตชะ อธิบาย
ล่าสุด เตรียมเปิดโครงการ ศุภาลัย พรีมา วิลล่า ปิ่นเกล้า-พุทธมณฑลสาย 2 มูลค่าโครงการ 1,100 ล้านบาท พื้นที่ 26 ไร่ บ้านเดี่ยว 2 ชั้น จำนวน 56 ยูนิต ขนาด 106.1-192.2 ตารางวา พื้นที่ใช้สอย 279-417 ตารางเมตร ราคา 18.4-30 ล้านบาท เริ่มพรีเซลวันที่ 26-27 กันยายน 2563
