คมนาคมเร่งงัดช่องทางสู้คดี ลุ้นไม่ต้องจ่าย ‘ค่าโง่’ โฮปเวลล์ 2.5 หมื่นล้าน

โฮปเวลล์
FILE PHOTO : PORNCHAI KITTIWONGSAKUL / AFP

“คมนาคม-รถไฟ” พบช่องสู้คดีโฮปเวลล์ลุ้นไม่ต้องจ่ายค่าโง่ 2.5 หมื่นล้าน จ่อยื่นศาลปกครองขอรื้อคดีใหม่ หลังศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยมติที่ประชุมใหญ่ตุลาการศาลปกครองขัดรัฐธรรมนูญ ปมข้อกฎหมายและการนับอายุความ “ศักดิ์สยาม” ตั้งคณะทำงานเตรียมข้อมูลตามล่าคนทำผิด

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังศาลปกครองสูงสุดมีคำพิพากษาข้อพิพาทโครงการโฮปเวลล์เมื่อวันที่ 22 เม.ย. 2562 ให้บริษัท โฮปเวลล์ (ประเทศไทย) จำกัด ชนะคดีตามคำชี้ขาดของอนุญาโตตุลาการ ให้ภาครัฐโดยกระทรวงคมนาคมและการรถไฟแห่งประเทศไทย (ร.ฟ.ท.) จ่ายค่าชดเชยรวม 11,888 ล้านบาท พร้อมดอกเบี้ยร้อยละ 7.5 ต่อปี หรือประมาณ 25,000 ล้านบาท ภายใน 180 วันนับคดีถึงที่สุด

ต่อมาคมนาคมและ ร.ฟ.ท. ยื่นผู้ตรวจการแผ่นดิน ถึงมติที่ประชุมใหญ่ตุลาการในศาลปกครองสูงสุด ครั้งที่ 18/2545 วันที่ 27 พ.ย. 2545 ไม่ได้ดำเนินการตามขั้นตอนของกฎหมายไม่ได้ส่งให้สภาผู้แทนราษฎรตรวจสอบและไม่มีการประกาศในราชกิจจานุเบกษา มองว่าไม่ชอบด้วยกฎหมายและไม่สามารถใช้บังคับได้ ตาม พ.ร.บ.จัดตั้งศาลปกครองและวิธีพิจารณาคดีปกครอง 2542 มาตรา 5 มาตรา 6 และมาตรา 44

รวมถึงการกำหนดให้เริ่มนับอายุความคดีปกครองตั้งแต่วันที่ศาลปกครองเปิดทำการตั้งแต่วันที่ 9 มี.ค. 2544 ผิดไปจาก พ.ร.บ.จัดตั้งศาลปกครองและวิธีพิจารณาคดีปกครอง 2542 มาตรา 51 ให้เริ่มนับระยะเวลาอายุความคดีปกครองตั้งแต่วันที่รู้หรือควรรู้ถึงเหตุแห่งการฟ้องคดี

โดยผู้ตรวจการแผ่นดินได้ยื่นต่อศาลรัฐธรรมนูญพิจารณาเมื่อปลายปี 2563 ที่ผ่านมา ล่าสุดวันที่ 17 มี.ค. 2564 ศาลรัฐธรรมนูญมีมติเสียงข้างมากวินิจฉัยว่า มติที่ประชุมใหญ่ตุลาการศาลปกครองเมื่อวันที่ 17 พ.ย. 2545 เป็นการออกระเบียบตาม พ.ร.บ.จัดตั้งศาลปกครองและวิธีพิจารณาทางปกครอง 2542 มาตรา 44 แต่มิได้ดำเนินการตามมาตรา 5 และมาตรา 6 วรรคหนึ่ง จึงขัดหรือแย้งต่อรัฐธรรมนูญมาตรา 3 วรรคสอง และมาตรา 197 วรรคสี่

นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เปิดเผยว่า คำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญนับว่าเป็นสัญญาณที่ดี ทำให้คมนาคมและ ร.ฟ.ท.มีแนวทางต่อสู้คดีต่อไป ขณะนี้รอคำวินิจฉัยกลางที่ผู้ตรวจการแผ่นดินส่งให้ จากนั้นคณะทำงานจะนำมติดังกล่าวมาดำเนินการต่อไป รวมถึงการดำเนินการเอาผิดกับเจ้าหน้าที่ด้วย แต่การจ่ายค่าชดเชยตามคำสั่งศาลปกครองยังไม่เกิดขึ้น จึงยังไม่เริ่มนับอายุความ ซึ่งยังมีเวลาดำเนินการ

“เรื่องนี้เกิดขึ้นตั้งแต่ปี 2532 เราจะต่อสู้อย่างเต็มที่ เพราะถือว่าเงินงบประมาณของรัฐบาล เป็นเงินจากภาษีประชาชน การจะเอาเงินไปจ่ายจะต้องทำให้ถูกต้องตามกฎหมาย”

นายนิรุฒ มณีพันธ์ ผู้ว่าการ ร.ฟ.ท. กล่าวว่า ขอดูคำวินิจฉัยศาลรัฐธรรมนูญและแนวทางต่อสู้คดีของคณะทำงานกระทรวงคมนาคมก่อน เพราะผูกพันทุกองค์กร แต่ถือเป็นแนวโน้มที่ดีและรายงานให้คณะกรรมการ (บอร์ด) ร.ฟ.ท.ทราบแล้ว

ส่วนคำวินิจฉัยดังกล่าวจะชี้ชัดได้เลยหรือไม่ว่าไม่ต้องจ่ายค่าชดเชย นายนิรุฒกล่าวว่า ต้องบอกว่าคำวินิจฉัยดังกล่าวถือเป็นแนวโน้มที่ดีน่าจะเหมาะสมกว่า เพราะประเด็นการพิจารณาคดี โดยเฉพาะเรื่องอายุความ ในข้อเท็จจริงควรนับตั้งแต่วันที่เกิดความเสียหาย หากไม่ฟ้องภายในอายุความที่กฎหมายกำหนดประเด็นนี้ก็ต้องหลุดไป ซึ่งเป็นเรื่องคาใจที่ศาลปกครองนับเอาวันที่เปิดทำการของศาลคือ วันที่ 9 มี.ค. 2544 เป็นวันเริ่มนับระยะเวลาในการฟ้องคดีได้อย่างไร

แหล่งข่าวจากกระทรวงคมนาคม เปิดเผยว่า คำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญยังไม่เกี่ยวข้องโดยตรงที่รัฐไม่ต้องจ่ายค่าชดเชยให้โฮปเวลล์ เพราะประเด็นยื่นให้ผู้ตรวจการแผ่นดินให้ตรวจสอบมติที่ประชุมใหญ่ตุลาการในศาลปกครองสูงสุด และอายุความคดีที่โฮปเวลล์มาร้องในวันที่ขาดอายุความไปแล้ว

“พบปมใหม่เรื่องมติที่ประชุมใหญ่ศาลปกครองขัดกับรัฐธรรมนูญ เพราะไม่ประกาศในราชกิจจานุเบกษา ซึ่งศาลปกครองถือว่าไม่เป็นกฎหมายที่ใช้บังคับโอกาสจะยื่นศาลปกครองสูงสุดขอรื้อฟื้นคดีใหม่จึงมีความเป็นไปได้สูง ต้องดูท่าทีของศาลด้วยว่าหากใช้ประเด็นคำวินิจฉัยศาลรัฐธรรมนูญประกอบการพิจารณา จะเข้าเกณฑ์ตามกฎหมายของศาลปกครองหรือไม่ ยังไม่พูดถึงว่าต้องจ่ายหรือไม่จ่าย 25,000 ล้านบาท เพราะมีประเด็นใหม่ที่จะนำไปสู่การฟื้นคดีได้”