60 ปี ‘ไทยออยล์’ ชูองค์กรจิตอาสา ปั้นโปรเจกต์ ‘คุณริเริ่ม…เราเติมเต็ม’

ไทยออยล์ “สร้างค่านิยมจิตอาสา” ให้กับพนักงาน ผ่านโครงการจิตอาสา 60 ปี ไทยออยล์ “คุณริเริ่ม…เราเติมเต็ม” เชิญชวนพนักงานร่วมบำเพ็ญประโยชน์แก่สังคมด้วยตัวเอง โดยบริษัทจะสนับสนุนการทำความดีดังกล่าวด้วยการสมทบทุนให้แก่องค์กรสาธารณกุศลต่าง ๆ ตามประเภทของกิจกรรม

ฉลองครบรอบ 60 ปี

ตลอดระยะเวลาเกือบ 60 ปี ไทยออยล์ดำเนินกิจการตอบสนองความต้องการและสร้างความมั่นคงด้านพลังงานให้กับประเทศไทย อีกทั้งยังมุ่งมั่นพัฒนาผลิตภัณฑ์ที่ส่งเสริมคุณภาพชีวิตที่ดีให้กับชุมชนและสังคม ภายใต้การมีธรรมาภิบาลที่ดี เพื่อความยั่งยืนครอบคลุมทั้งทางด้านสิ่งแวดล้อม การดำเนินกิจกรรมและโครงการเพื่อชุมชนและสังคม ทั้งทางด้านการสาธารณสุข การศึกษา กีฬา ศาสนา วัฒนธรรมประเพณี เพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตผู้คนให้เติบโตเคียงข้างกัน

“วิรัตน์ เอื้อนฤมิต” ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ไทยออยล์ จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า โครงการจิตอาสา 60 ปี ไทยออยล์ คุณริเริ่ม…เราเติมเต็ม เป็นหนึ่งในกิจกรรมสร้างวัฒนธรรมจิตอาสา เพื่อประโยชน์แก่ชุมชนและสังคม โดยพนักงานเป็นผู้คิดและเลือกทำกิจกรรมต่าง ๆ ด้วยตนเอง ทั้งในรูปแบบบริจาคสิ่งของ ร่วมกิจกรรมจิตอาสากับบริษัท และกิจกรรมจิตอาสาที่พัฒนาด้วยตนเองภายใต้แนวคิด “คุณ …ริเริ่ม”

“วิรัตน์ เอื้อนฤมิต” ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ไทยออยล์ จำกัด (มหาชน)

จากนั้นบริษัทจะสนับสนุนเป็นเงินบริจาคภายใต้แนวคิด “…เราเติมเต็ม” เพื่อมอบให้มูลนิธิกุศลเนื่องในโอกาสครบรอบ 60 ปีของการก่อตั้งไทยออยล์ ในวันที่ 3 สิงหาคม 2564 โดยระยะเวลาการดำเนินโครงการเริ่มมาตั้งแต่เดือน พ.ย. 2563 ที่ผ่านมาจนถึงเดือนก.ค. 2564 ที่จะถึงนี้ รวมระยะเวลาโครงการ 9 เดือน

“นอกเหนือจากดำเนินธุรกิจโดยใส่ใจสิ่งแวดล้อม ดูแลชุมชนและสังคมบนหลักการมีธรรมาภิบาลที่ดีแล้ว ไทยออยล์ยังให้ความสำคัญและส่งเสริมให้พนักงานเป็นทั้งคนเก่ง และคนดี ซึ่งการเป็นคนเก่งคือ มีความสามารถในการปฏิบัติหน้าที่ด้วยความรู้ ประสบการณ์ และความชำนาญ ส่วนการเป็นคนดีคือ การมีทัศนคติที่ดีเสียสละเพื่อสังคม ซึ่งเป็นหนึ่งในคุณลักษณะค่านิยมองค์กรของไทยออยล์”

ทั้งนี้ พนักงานต้องโพสต์รูปภาพและรายละเอียดกิจกรรมลงบนแอพพลิเคชั่นชื่อว่า Thaioil Hub หลังจากนั้นระบบจะร่วมรายการและสมทบเงินบริจาคตามประเภทของกิจกรรมให้แก่มูลนิธิต่าง ๆ 5 แห่ง ได้แก่ มูลนิธิธรรมรักษ์ (วัดพระบาทน้ำพุ) อ.เมือง จ.ลพบุรี มูลนิธิวัยวัฒนานิวาส สถานสงเคราะห์คนชรา ปากน้ำ อ.เมือง จ.สมุทรปราการ มูลนิธิสงเคราะห์เด็ก พัทยา อ.บางละมุง จ.ชลบุรี มูลนิธิบ้านครูบุญชูเพื่อเด็กพิเศษ อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี และสถานคุ้มครองและพัฒนาคนพิการ การุณยเวศม์ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี ทั้งนี้พนักงานสามารถเลือกระบุได้ว่า ต้องการให้เงินบริจาคจากโพสต์ของตนเองไปที่มูลนิธิใด

หลังจากเริ่มโครงการไปไม่มีเดือนมีพนักงานโพสต์ความดีกว่า 600 โพสต์ มียอดเงินบริจาคแล้วกว่า 480,000 บาท โดยมีพนักงานเข้าร่วมกิจกรรมครอบคลุมทั้งเรื่องการดูแลสิ่งแวดล้อมและรักษาธรรมชาติ การยกระดับคุณภาพชีวิต การช่วยเหลือและให้กำลังใจผู้ด้อยโอกาส การช่วยชีวิตผู้อื่น การทำบุญเพื่อส่งเสริมพระพุทธศาสนา หรือแม้แต่การช่วยเหลือสัตว์โลก ยกตัวอย่างเช่น ปลูกป่าชายเลน ปล่อยปูคืนสู่ธรรมชาติ ทำบ้านปลา ช่วยซ่อมแซมอุปกรณ์จำเป็นให้โรงเรียนในชุมชนต่าง ๆ บริจาคสิ่งของจำเป็น บริจาคโลหิตและเกล็ดเลือด และไถ่ชีวิตโค กระบือ เป็นต้น

สร้างแรงจูงใจแข่งกันทำความดี

“ศักดิ์อุทัย แกล้วกสิกรรม” หัวหน้าทีมปฏิบัติการ-หน่วยการผลิตพื้นที่ LABIX กล่าวว่า ตนและเพื่อนพนักงานจิตอาสากว่า 50 คน จากหลายหน่วยงาน นำวัสดุที่เหลือใช้จากบริษัท เช่น ไม้ เหล็กและอื่น ๆ มาเพิ่มมูลค่า ด้วยการทำเป็นโต๊ะและเก้าอี้สำหรับรับประทานอาหารกว่า 100 ตัว เพื่อมอบให้กับน้อง ๆ ชาวกระเหรี่ยงโปว์ โรงเรียนบ้านคลองอังวะ ต.แก่นมะกรูด อ.บ้านไร่ จ.อุทัยธานี

“วนิดา ห่อคำ” ผู้ชำนาญการด้านสิ่งแวดล้อม กล่าวว่า บริจาคเส้นผมเพื่อนำไปทอวิกให้กับผู้ป่วยผ่านโครงการจากคุณนางฟ้าสู่คุณวันใหม่ โดยตั้งใจดูแลเส้นผมให้ดี ไม่ย้อมสี ไม่ดัด ให้เส้นผมสะอาดปลอดจากสารเคมี เพื่อมอบสิ่งที่ดีที่สุดให้กับผู้รับในโครงการนี้

“สิ่งที่อยากทำต่อคือ ทำบุญเกี่ยวกับเด็กด้อยโอกาส เพราะการที่เด็กได้รับสิ่งดี ๆ จะช่วยลดความเลื่อมล้ำในสังคม โครงการจิตอาสาเป็นโครงการที่ดี เราสามารถเลือกสิ่งที่เราอยากทำ และบรฺิษัทก็สนับสนุนสิ่งที่เราทำ”

“นรินทร์  อ้วนถาวร” กลุ่มสนับสนุนด้านเทคนิค-Rotating Equipment/Preventive Maintenance ร่วมแชร์ประโยชน์ที่ตนทำเพื่อสังคมว่า ได้เข้าไปช่วยเหลือผู้หญิงมีปัญหารถยางแตกอยู่ข้างทาง บนถนนข้าวหลาม จุดนั้นเป็นทางโค้งและอันตรายมาก รถที่วิ่งมาจะขับเร็วมาก โดยเข้าไปช่วยเหลือนำยางอะไหล่ไปเปลี่ยนให้

“พรพิพัชร์ สะอาดพรรค” กลุ่มสนับสนุนด้านเทคนิค – โรงซ่อมงานไฟฟ้า กล่าวว่า บริจาคเกล็ดเลือดให้กับโรงพยาบาลสมเด็จพระบรมราชเทวี ณ ศรีราชา สภากาชาดไทย ปกติเกล็ดเลือดมีอายุอยู่ได้แค่ 7 วัน เกล็ดเลือดจะใช้ในกรณีที่มีการผ่าตัดใหญ่ หรือผู้ป่วยที่เป็นมะเร็งเม็ดเลือด

เกล็ดเลือด 1 ถุงต้องใช้เลือดปกติ 7-8 ถุง และก่อนที่จะบริจาคเกล็ดเลือดต้องผ่านการทดสอบดูความเข้มข้นของเลือดและใช้เวลาการบริจาคนานถึงชั่วโมงครึ่ง จึงไม่ค่อยมีคนบริจาค

“การทำความดีแล้วมีคนสนับสนุน ชื่นชม ทำให้คนอยากทำมากขึ้น ปกติทำความดีเป็นจิตอาสาเป็นประจำอยู่แล้ว แค่เอาสิ่งที่ทำมาแสดงให้คนเห็น เพื่อเป็นแรงจูงใจ แรงดึงดูดให้คนอื่นอยากทำตาม จึงไม่ลังเลที่จะทำความดีเพิ่มมากขึ้นเรื่อย ๆ อย่างต่อเนื่อง”