“บอร์ดการทาง” ตั้ง “ดำเกิง ปานขำ” นั่งรักษาการผู้ว่าตามคาด ไม่อนุมัติ “วิชาญ เอกรินทรากุล” ลาออก โยกนั่งที่ปรึกษาแทน มีผลพรุ่งนี้ ทั้ง 2 เก้าอี้ “สุรงค์” คาดเซ็นปิดจ็อบสัมปทานทางด่วน 20-21 ก.พ.นี้ ยันถอนทั้ง 17 คดีจบสัปดาห์หน้า แจง BEM มีสิทธิ์เจรจาต่อสัญญาอีกรอบหลังหมดสัมปทานปี 78
นายสุรงค์ บูลกุล ประธานคณะกรรมการ (บอร์ด) การทางพิเศษแห่งประเทศไทย (กทพ.) เปิดเผยว่า ที่ประชุมบอร์ดกทพ.มีมติยับยั้งการลาออกจากตำแหน่งรักษาการผู้ว่า กทพ. ของนายวิชาญ เอกรินทรากุล ซึ่งจะมีผลวันที่ 3 มี.ค.นี้ โดยให้ไปดำรงตำแหน่งที่ปรึกษาของกทพ.แทน ซึ่งเป็นความสมัครใจของทั้งนายวิชาญและบอร์ดท่านอื่นๆของกทพ.และบอร์ดมองว่านายวิชาญยังมีความรู้ความสามารถที่จะช่วยงานของ กทพ. อยู่ และบอรืดได้มีมติแต่งตั้งนายดำเกิง ปานขำ รองผู้ว่าการฝ่ายปฏิบัติการ ดำรงตำแหน่งรักษาการในตำแหน่งผู้ว่าการ กทพ. มีผลตั้งแต่วันพรุ่งนี้ (20 ก.พ.) เป็นต้นไปทั้ง 2 ตำแหน่ง
- ด่วน ! วอยซ์ ทีวี ประกาศปิดกิจการทุกแพลตฟอร์ม เลิกจ้าง 100 กว่าคน
- NETA X ขาย มิ.ย.นี้ ราคาไม่เกิน 1 ล้านบาท หลัง MOU สรรพสามิต
- ลูกแม่ค้าขายผัก-พ่อขับแท็กซี่ สู่เก้าอี้ “ปลัดพลังงาน” บทพิสูจน์ชีวิต “ดร.ประเสริฐ สินสุขประเสริฐ”
ส่วนกำหนดการลงนามในสัญญาระงับข้อพิพาททางด่วนระหว่าง กทพ. และ บมจ.ทางด่วนและรถไฟฟ้ากรุงเทพ (BEM) คาดว่าจะลงนามภายในวันที่ 20-21 ก.พ.นี้ โดยทั้งสองฝ่ายอยู่ระหว่างเตรียมทำหนังสือที่จะยื่นถอนคดีความที่มีระหว่างกันทั้ง 17 คดี
ซึ่งอัยการสูงสุดได้ส่งเจ้าหน้าที่มาช่วย กทพ.ดูแล้ว กระบวนการที่ต้องทำตอนนี้คือ จะลงนามในสัญญาก่อนแล้วค่อยถอนคดีความทั้งหมด จากนั้นสัญญาจึงจะมีผลบังคับใช้ จะพยายามเร่งรัดการถอนคดีความทั้งหมดให้ได้ภายในสัปดาห์หน้า แต่ถ้าหากยังถอนคดีไม่เสร็จก็อาจจะมีการเพิ่มเงื่อนไขบางอย่าง แต่ต้องปรึกษากับฝ่ายกฎหมายก่อน เช่น มาตรการยึดเงินรายได้ที่ยังไม่จ่าย เป็นต้น
“ก่อนลงนามทุกอย่างต้องสมบูรณ์ ซึ่งตอนนี้ทั้ง กทพ. และ BEM จะตรวจสัญญาร่วมกันอีกรอบหนึ่ง เพื่อความรอบคอบ ส่วนการคัดค้านจากผู้ที่ไม่เห็นด้วย เราถือว่าได้ปฏิบัติตตามมติครม.แล้ว หากไม่เห็นด้วยก็ใช้กระบวนการทางยุติธรรมได้” นายสุรงค์กล่าว
ขั้นตอนหลังลงนามแล้ว จะต้องดำเนินการตามแผนและภาระหน้าที่ทันที ซึ่งที่ประชุมบอร์ดได้สั่งการแล้วว่า หากมีอะไรติดขัดให้รีบเจรจาให้จบ ยืนยันว่าจะไม่มีข้อพิพาทด้านการแข่งขันและค่าผ่านทางอีก
ส่วนเงื่อนไขการต่อสัญญาแบบ 10+10 ปีนั้น ขอชี้แจงว่า เป็นการใช้สิทธิ์ตามสัญญาเดิมของทางด่วนขั้นที่ 2 ช่วง A B C ของ BEM ทำให้เหลือระยะเวลาตามสัญญา 4 ปี 4 เดือนเท่านั้น ในการเจรจาเพื่อต่อสัญญาหลังจากสัมปทานหมดลงในวันที่ 31 ต.ค.2578 และตามสัญญาแล้ว BEM ก็มีสิทธิ์ที่จะเข้ามาเจรจาเป็นรายแรก ไม่ใช่การต่อแบบอัตโนมัติและสัดส่วนรายได้ก็ต้องมีการเปลี่ยนแปลงไป