ประกันสังคม เตรียมขยายเพดานเงินสมทบ เป็น 17,500-20,000 เกษียณ 65 ปี

สำนักงานประกันสังคม ผู้ประกันตน

ประกันสังคม เตรียมขยายเพดานการจ่ายเงินสมทบเป็น 17,500-20,000 บาท พร้อมขยายอายุการเกษียณผู้ประกันตน เป็น 65 ปี ควบคู่บริหารการลงทุน ตั้งเป้าผลตอบแทนไม่ต่ำกว่าร้อยละ 5

วันที่ 15 มีนาคม 2567 มติชน รายงานว่า นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน เปิดเผยภายหลังการเข้าหารือร่วมกับบริษัทการลงทุน AllianceBernstien Asset Management (Korea) Ltd. ที่กรุงโซล สาธารณรัฐเกาหลี (เกาหลีใต้) เพื่อนำเงินกองทุนประกันสังคมไปลงทุนให้ได้ผลตอบแทนกลับเข้าสู่กองทุน

นายพิพัฒน์กล่าวว่า ปัจจุบัน สปส.ได้นำเงินกองทุนประกันสังคมไปลงทุนใน 8 กองทุนที่มีความมั่นคงสูง โดยบริษัท AB เป็นบริษัทจัดการบริหารกองทุนของเกาหลี โดยมีบริษัทแม่อยู่ที่ประเทศสหรัฐอเมริกา ซึ่งทางประกันสังคมได้ลงทุนผ่านบริษัทเอเยนซี่ในประเทศสิงคโปร์ด้วยเงินลงทุนราว 400 ล้านเหรียญสหรัฐ โดยการลงทุนปีที่ผ่านมามีผลประกอบการอยู่ที่ร้อยละ 4.79 ในเป้าหมายการลงทุนร้อยละ 4 ดังนั้นก็ถือเป็นตัวเลขที่น่าพึงพอใจ

แต่การที่จะบริหารกองทุนประกันสังคมให้มีความยั่งยืนและหลุดออกจากการคาดการณ์ของไอแอลโอ (ILO) และทีดีอาร์ไอ (TDRI) รวมถึงพรรคการเมืองต่าง ๆ และความกังวลผู้ประกันตน ที่ระบุว่า หากไม่มีการปรับเปลี่ยนการบริหารกองทุนหรือเพิ่มมาตรการใด ๆ ในอีก 30 ปีข้างหน้าหรือในปี 2597 กองทุนประกันสังคมจะเข้าสู่ภาวะล้มละลาย

นายพิพัฒน์กล่าวว่า ประกันสังคมจำเป็นต้องบริหารกองทุนโดยเฉพาะการลงทุนในกองทุนต่าง ๆ ให้มีผลตอบแทนมากกว่าเป้าหมายเดิม โดยผลตอบแทนจะต้องได้อย่างน้อยร้อยละ 5 ตามนโยบายที่ได้ประกาศไว้ ประกอบกับการทำมาตรการอื่น ได้แก่

1.การขยายเพดานการจ่ายเงินสมทบเข้ากองทุน จากเดิมเพดานการจ่ายเงินสมทบจะคิดจากเงินเดือนที่ 15,000 บาท ก็จะต้องขยายเพดานไปที่ 17,500 บาทไปจนถึง 20,000 บาท

2.การขยายอายุเกษียณของผู้ประกันตนจากเดิมที่ 55 ปีก็ขยับไปที่ 60 ปีไปจนถึง 65 ปี

3.การเพิ่มจำนวนผู้ประกันตนในมาตรา 33 และ 39 โดยเฉพาะผู้ประกันตนมาตรา 40 ที่เป็นแรงงานอิสระ ปัจจุบันมีผู้ประกันตนเพียง 11 ล้านคน เราจะต้องจูงใจให้ผู้ประกอบอาชีพอิสระเข้ามาสู่มาตรา 40 ให้ใกล้เคียง 25 ล้านคนให้มากที่สุด

นายพิพัฒน์กล่าวเพิ่มเติมว่า ตามระเบียบพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) ประกันสังคม พ.ศ. 2533 กำหนดว่าการนำเงินกองทุนไปลงทุนนั้นจะต้องแบ่งสัดส่วนเป็นการลงทุนในสินทรัพย์ที่มีความเสี่ยงต่ำร้อยละ 60 เช่น ฝากธนาคารของรัฐ การซื้อพันธบัตร และความเสี่ยงสูงร้อยละ 40

โดยที่ผ่านมาประกันสังคมลงทุนในสินทรัพย์ที่มีความเสี่ยงสูงประมาณร้อยละ 25 ซึ่งยังไม่เต็มเพดานร้อยละ 40 ตนจึงเชื่อมั่นว่าหากมีการลงทุนอย่างเต็มเพดานก็จะเป็นการขยายโอกาสให้มีการสร้างผลตอบแทนที่มากขึ้น

เช็กอัตราเงินสมทบปัจจุบัน

ในปัจจุบัน สำนักงานประกันสังคม คิดอัตราส่งเงินสมทบสำหรับผู้ประกันตน 3 กลุ่ม ดังนี้

มาตรา 33 – ผู้ประกันตนที่เป็นพนักงานเอกชน

ส่งเงินสมทบในอัตรา 5% ต่อเดือน ทั้งลูกจ้างและนายจ้าง คิดจากฐานค่าจ้างต่ำสุด 1,650 บาท และสูงสุดไม่เกิน 15,000 บาท (จ่ายสูงสุดที่เดือนละ 750 บาท)

มาตรา 39 – ผู้ประกันตนที่ลาออกจากการเป็นพนักงานเอกชน และต้องการคงสิทธิประกันสังคม

ส่งเงินสมทบประกันสังคมมาตรา 39 เป็นจำนวน 432 บาท

มาตรา 40 – ผู้ประกันตนที่ประกอบอาชีพอิสระ/ฟรีแลนซ์

มีทั้งหมด 3 ทางเลือก

ทางเลือกที่ 1 จ่าย 70 บาทต่อเดือน คุ้มครองกรณีการประสบอันตรายหรือเจ็บป่วย ทุพพลภาพ ตาย

ทางเลือกที่ 2 จ่าย 100 บาทต่อเดือน คุ้มครองกรณีการประสบอันตรายหรือเจ็บป่วย ทุพพลภาพ ตาย และกรณีชราภาพ

ทางเลือกที่ 3 อัตรา 300 บาทต่อเดือน คุ้มครองกรณีการประสบอันตรายหรือเจ็บป่วย ทุพพลภาพ ตาย ชราภาพ และกรณีสงเคราะห์บุตร