ถูกเลิกจ้าง เข้าข่าย 6 กรณีนี้ หมดสิทธิรับเงินทดแทนประกันสังคม

ทำงาน เครียด
Photo: Elisa Ventur/unsplash

กฎหมายคุ้มครองแรงงาน และประกันสังคมจะให้ความช่วยเหลือผู้ประกันตนมาตรา 33 ที่ออกจากงานและอยู่ในสถานะว่างงาน ถูกไล่ออก ถูกเลิกจ้าง ว่างงาน โดยจะได้รับสิทธิประโยชน์ตามข้อกำหนด และไม่ได้มีการกระทำความผิดใด ๆ

แต่หากเป็นกรณีที่ผู้ประกันตนเป็นผู้กระทำความผิด หรือมีเหตุบางข้อที่เข้าข่ายเงื่อนไขทำให้นายจ้างสามารถให้ออกจากงานได้โดยชอบด้วยกฎหมาย ผู้ประกันตนจะไม่สามารถรับสิทธิชดเชย หรือเงินทดแทนใด ๆ ได้ ตามกรณีดังต่อไปนี้

1.ทุจริตทำผิดกฎหมาย-หากลูกจ้างทุจริตต่อหน้าที่กระทำผิดอาญาโดยเจตนาแก่นายจ้าง เช่น ลูกจ้างกระทำการโกงเงิน ยักยอกเงิน หรือแสวงหาผลประโยชน์จากบริษัทเพื่อไปเป็นของตัวเอง

2.จงใจทำให้บริษัทเสียหาย-ลูกจ้างทำโดยความตั้งใจ หรือเจตนาที่จะสร้างความเสียหายให้กับนายจ้าง หรือบริษัท ถือว่าเข้าข่ายกระทำความผิด โดยบริษัทสามารถเลิกจ้างได้ทันทีโดยไม่ต้องบอกกล่าวล่วงหน้า

3.ฝ่าฝืนข้อบังคับร้ายแรง-การทำงานย่อมมีกฎระเบียบข้อบังคับ หรือคำสั่งจากนายจ้างที่ต้องถือเป็นข้อถือปฏิบัติอย่างเคร่งครัด หากลูกจ้างกระทำการฝ่าฝืน หรือทำผิดระเบียบอย่างร้ายแรง หรือกระทำความผิดซ้ำ ๆ แม้ได้รับจดหมายตักเตือนแล้ว

4.ไม่มาทำงานติดต่อกัน 7 วัน-ลูกจ้างละทิ้งหน้าที่โดยไม่แจ้งลา ไม่บอกกล่าวล่วงหน้า ติดต่อไม่ได้ต่อเนื่อง 7 วัน และทำให้นายจ้างหรือบริษัทได้รับความเสียหาย และไม่มีเหตุผลอธิบายการละทิ้งหน้าที่อย่างสมเหตุสมผลมากพอ

5.ประมาทเลินเล่อ-การกระทําการใด ๆ โดยปราศจากความระมัดระวัง หรือละเลยในสิ่งที่ควรกระทํา ทำให้นายจ้างได้รับความเสียหายอย่างร้ายแรง

6.ติดคุกและต้องโทษคดี-ลูกจ้างที่กระทำความผิดและถูกศาลพิพากษาให้รับโทษจำคุก นายจ้างมีสิทธิให้ออกจากงานได้ทันที และลูกจ้างไม่สามารถเรียกร้องขอค่าชดเชยหรือเงินทดแทนต่าง ๆ ได้

การถูกเลิกจ้าง หรือให้ออกจากงานอาจเป็นสิ่งที่หลาย ๆ คนไม่อยากให้เกิดขึ้น ยิ่งกรณีที่ไม่ได้เตรียมความพร้อมไว้ล่วงหน้า อาจยิ่งทำให้ลำบาก ยิ่งการออกโดยมีความผิดติดตัว นอกจากจะเสียโอกาสดี ๆ แล้ว ยังเสียโอกาสในการรับสิทธิประโยชน์และความคุ้มครองต่าง ๆ ด้วย

สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับประกันสังคมได้ที่ www.sso.go.th หรือ โทร.สายด่วน 1506 ให้บริการทุกวัน ตลอด 24 ชั่วโมง

ประกันสังคม เลิกจ้าง