ประกันสังคม ให้สิทธิเบิกค่า Sleep Test ได้ มีผล 1 ม.ค. 67

สำนักงานประกันสังคม การนอนหลับ

สำนักงานประกันสังคม ประกาศดูแลผู้ประกันตนป่วยโรคหยุดหายใจขณะหลับ เบิกค่า Sleep test ได้ จ่ายจริงไม่เกิน 7,000 บาท มีผลบังคับใช้แล้วตั้งแต่ 1 มกราคม 2567

วันที่ 25 มกราคม 2567 สำนักงานประกันสังคม (สปส.) ประกาศหลักเกณฑ์และอัตราสำหรับประโยชน์ทดแทนในกรณีประสบอันตราย หรือเจ็บป่วยอันมิใช่เนื่องจากการทำงาน เมื่อวันที่ 22 ม.ค. 2567

กรณีแก้ไขเพิ่มเติมหลักเกณฑ์ และอัตราสำหรับประโยชน์ทดแทน รักษาผู้ประกันตนที่ป่วยด้วย “โรคหยุดหายใจขณะหลับ” และมีความจำเป็นต้องใช้เครื่องอัดอากาศขณะหายใจเข้า (Continuous Positive Airway Pressure : CPAP)

ข้อสรุปการตรวจวินิจฉัย-การรักษา

โดยมีข้อสรุปเกี่ยวกับการตรวจวินิจฉัยและการรักษาโรคหยุดหายใจขณะหลับ สำหรับผู้ประกันตนในระบบประกันสังคม ดังนี้

– ค่าตรวจนอนหลับ (Polysomnography) ชนิดที่ 1 (มีเจ้าหน้าที่เฝ้าติดตามขณะตรวจทั้งคืน) จ่ายในอัตราเท่าที่จ่ายจริงไม่เกิน 7,000 บาท

– ค่าตรวจการนอนหลับ (Polysomnography) ชนิดที่ 2 (การตรวจวัดเหมือนการตรวจชนิดที่ 1 เว้นแต่ไม่มีเจ้าหน้าที่เฝ้าติดตามขณะตรวจ) จ่ายในอัตราเท่าที่จริงไม่เกิน 6,000 บาท

– ค่าอุปกรณ์เครื่อง CPAP และอุปกรณ์เสริมสำหรับการรักษาในอัตราที่สำนักงานกำหนด ดังนี้ 1) เครื่อง CPAP ราคาชุดละ 20,000 บาท และ 2) หน้ากากครอบจมูก หรือปากที่ใช้กับเครื่อง CPAP ราคาชิ้นละ 4,000 บาท

ทั้งนี้ ค่าอุปกรณ์เสริม รายการแผ่นกรองอากาศ (Filter) กระดาษ และแผ่นกรองอากาศ (Filter) ฟองน้ำ ให้รวมอยู่ในค่าบริการทางการแพทย์ของสถานพยาบาลที่สำนักงานกำหนดสิทธิในการรับบริการทางการแพทย์สำหรับผู้ประกันตน มีผลบังคับใช้ตั้งแต่ 1 มกราคม 2567 เป็นต้นไป

หลักเกณฑ์-เงื่อนไขเบิกค่า Sleep test

1.ผู้ประกันตนมาตรา 33 และ 39 จ่ายเงินสมทบ 3 เดือน ภายใน 15 เดือนก่อนรับบริการแพทย์

2.ผู้ประกันตนมาตรา 38 และ 41 จ่ายเงินสมทบ 3 เดือน ภายใน 15 เดือนก่อนรับบริการและคุ้มครองภายใน 6 เดือนหลังจากสิ้นสุดสถานะผู้ประกันตน