โอกาสไร้ขีดจำกัด กลยุทธ์สร้างคน “ไทยเบฟ”

ภายหลังจากที่บริษัท ไทยเบฟเวอเรจ จำกัด (มหาชน) ประกาศวิสัยทัศน์ 2020 ในการขับเคลื่อนธุรกิจในภาพรวม พร้อมมุ่งสู่ความเป็นผู้นำในธุรกิจเครื่องดื่มครบวงจรอย่างมั่นคง และยั่งยืน โดยมีกลยุทธ์สำคัญ 5 ประการ คือ การเติบโตอย่างมีประสิทธิภาพ, ความหลากหลายของตลาด และผลิตภัณฑ์, ตราสินค้าที่โดนใจ, การขาย และกระจายสินค้าที่แข็งแกร่ง

แต่การที่จะบรรลุวิสัยทัศน์ 2020 ประเด็นเรื่องของการบริหาร และพัฒนาบุคลากรในองค์กร ถือเป็นเรื่องสำคัญและท้าทายอย่างยิ่ง โดยเฉพาะการที่ประเทศไทยกำลังจะก้าวเข้าสู่ ไทยแลนด์ 4.0

ด้วยเหตุนี้ ไทยเบฟจึงมองหานวัตกรรมที่สามารถปลดปล่อยศักยภาพของคนเพื่อขับเคลื่อนองค์กร โดยมุ่งเน้นการให้พลัง การสร้างแรงจูงใจ และการมีส่วนร่วมจากทุกภาคส่วน ภายใต้หลักการโอกาสไร้ขีดจำกัด (Limitless Opportunity)

“ดร.เอกพล ณ สงขลา” รองกรรมการผู้อำนวยการใหญ่ และผู้บริหารสูงสุดกลุ่มทรัพยากรบุคคล บริษัท ไทยเบฟเวอเรจ จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ไทยเบฟให้ความสำคัญเรื่องบุคลากรอย่างมาก เพราะบุคลากรคือทุนมนุษย์ ไม่ใช่ทรัพยากรมนุษย์ หรืออาจจะเรียกอีกอย่างว่า บุคลากรเป็นต้นทุน และด้วยความที่ไทยเบฟเป็นองค์กรขนาดใหญ่ มีหลากหลายบริษัทย่อย จึงทำให้วิธีคิด วิธีการทำงานของพนักงาน ต้องเป็นไปในทิศทางเดียวกัน

“ด้วยเหตุนี้ ไทยเบฟจึงคิดค้นนวัตกรรมเพื่อผสานความแตกต่าง ภายใต้หลักการโอกาสไร้ขีดจำกัด (Limitless Opportunity) ซึ่งจะเป็นการสร้างแรงจูงใจให้กับบุคลากรในการแสดงศักยภาพอย่างเต็มที่ ด้วยโอกาส 3 ด้าน คือ โอกาสในการเติบโต และพัฒนา (Career Opportunity), โอกาสในการขยายเครือข่ายความสัมพันธ์ (Connection Opportunity) และโอกาสในการสร้างความเปลี่ยนแปลง (Contribution Opportunity) โดยผ่านวิธีการทำงาน และการลงมือทำ 3 เรื่อง คือ การสื่อสาร (Communication), ความร่วมมือระหว่างกัน (Collaboration) และการสร้างสรรค์ให้เกิดเป็นรูปธรรม (Creation)”

“ทั้งนั้น เพื่อเชื่อมโยงเป้าหมายขององค์กรให้มีความชัดเจน ซึ่งจากการวิเคราะห์ความต้องการของพนักงานทั่วไป หรือกลุ่มพนักงานรุ่นใหม่ที่เข้ามาทำงาน พวกเขาจะให้ความใส่ใจ 3 เรื่อง คือ การเติบโต, ความสัมพันธ์ และอยากได้ความหมาย (Purpose) ดังนั้น การขับเคลื่อนองค์กรของไทยเบฟให้บรรลุเป้าหมาย จึงต้องทำให้ทุกคนมีโอกาสเติบโต และได้ทำงานที่มีความหมาย”

“อีกทั้งเรายังออกแบบพื้นที่ให้บุคลากรที่มีความคิด และความเชื่อ ที่ตรงกับหลักการโอกาสไร้ขีดจำกัด แสดงศักยภาพและพร้อมลงมือทำจริง ซึ่งพันธกิจของไทยเบฟจะมุ่งเน้นเรื่องการสร้างสรรค์ และแบ่งปันคุณค่าจากการเติบโต เราจึงนำเอาคุณค่าที่เกิดจากการสร้างสรรค์ และการเติบโต มาถ่ายทอดและแบ่งปันให้กับผู้คนและสังคม ด้วยการให้บุคลากรของเราเข้ามามีส่วนร่วม หนึ่งในตัวอย่างที่เห็นชัดเจน คือ โครงการสานพลังเรื่องบ้านเกิด และโครงการประชารัฐเพื่อการศึกษา (Connext ED) ภายใต้นโยบายสานพลังประชารัฐของรัฐบาล”

“ดร.เอกพล” กล่าวเพิ่มเติมว่า ไทยเบฟมีการจัดตั้งคณะทำงานภายในองค์กร ซึ่งเปิดโอกาสให้พนักงานทุกกลุ่มทุกวัยที่สนใจในโครงการสานพลังประชารัฐมาร่วมกันในงานนี้ โดยคณะทำงานมีการริเริ่มโครงการสานพลังเพื่อบ้านเกิด ซึ่งเป็นการสร้างนักพัฒนาธุรกิจชุมชนรุ่นใหม่ โดยการเสาะหาคนรุ่นใหม่ที่มีความมุ่งมั่นเพื่อส่วนรวม และมีศักยภาพสูงจากทั่วประเทศ

“เราพิจารณาจากความมุ่งมั่น ตั้งใจที่จะพัฒนาชุมชนบ้านเกิดของผู้สมัครเป็นหลัก (Passion First) ซึ่งนักพัฒนาธุรกิจชุมชนรุ่นใหม่ที่ผ่านการคัดเลือก 76 คน จะได้เข้าร่วมโครงการเป็นระยะเวลา 2 ปี เพื่อเรียนรู้การทำงานเป็นวิสาหกิจเพื่อสังคม (Social Enterprise) พร้อมกับฝึกฝนทักษะด้านต่าง ๆ ที่จำเป็นต่อการพัฒนาชุมชน”

กระบวนการคัดเลือกแบบ Pasion Frist นอกจากจะทำให้ได้บุคลากรที่มีคุณสมบัติทุ่มเทต่อโครงการ ยังเป็นกลุ่มคนที่มีเป้าหมายที่จะพัฒนาบ้านเกิด จนทำให้คนรุ่นใหม่เหล่านี้มีการขยายศักยภาพของตัวเองเพื่อพัฒนาชุมชนในแบบ Limitless Opportunity โดยการสนับสนุนของภาคเอกชน ถือเป็นการดึงศักยภาพและพัฒนาความสามารถของแต่ละบุคคลอย่างเต็มที่

“ฉะนั้น หากย้อนกลับมาถึงเรื่องของการปรับวิธีคิด วิธีการทำงานของพนักงานไทยเบฟ ให้เป็นไปในทิศทางเดียวกัน เราจึงออกแบบงานให้รู้สึกตื่นเต้น และให้รู้สึกว่าไม่ใช่การทำงานเพื่อเงินเท่านั้น แต่เป็นการทำเพื่อความหมาย (Purpose) และเพื่อเป้าหมายของตัวเอง และองค์กร ซึ่งเราเปิดโอกาสให้กับพนักงานทุกคนทำงานในรูปแบบนี้อย่างมากมาย”

ดังนั้น การที่ไทยเบฟจะบรรลุวิสัยทัศน์2020 ที่มุ่งสู่ความเป็นผู้นำในธุรกิจเครื่องดื่มครบวงจรอย่างมั่นคง และยั่งยืน “ดร.เอกพล” บอกว่า ไม่ใช่เพียงแค่การบริหารธุรกิจและสร้างกำไรเท่านั้น แต่เรื่องของการเตรียมคน พัฒนาคน ก็เป็นอีกเรื่องที่สำคัญ เนื่องจากการคัดเลือกคนของไทยเบฟ ต้องการคนที่มีทัศนคติดีเป็นอันดับแรก เพื่อให้เขาทำงานกับคนอื่นได้ดี จากนั้นถึงจะค่อย ๆ พัฒนาเขาขึ้นมา

“ผมเชื่อว่า สิ่งหนึ่งที่เจนวายมีอยู่แล้ว คือ Passion ซึ่งหากให้มาทำงานร่วมกับคนที่มีทัศนคติที่ดี จะช่วยทำให้เกิดการขับเคลื่อนองค์กร ทั้งยังจะทำให้เกิดการพัฒนาตัวเองอย่างไร้ขีดจำกัด”

จนทำให้เกิดโอกาสดี ๆ ตามมาอีกมากมาย