ตลาดหลักทรัพย์ฯ ใช้ Big Data ต่อยอดธุรกิจยั่งยืน

ดร.ภากร ปีตธวัชชัย

“ในแง่ของการทำธุรกิจอย่างยั่งยืน เมื่อโลกเปลี่ยน นักลงทุนไม่ได้มองเรื่องการลงทุนเท่านั้น แต่ยังนำ Big Data มาช่วยวิเคราะห์ ว่าจะทำเรื่อง ESG ให้มากขึ้นได้อย่างไร”

ในงานสัมมนา “ภาคธุรกิจไทยในวิถียั่งยืน” ซึ่งจัดโดยมูลนิธิปิดทองหลังพระ สืบสานแนวพระราชดำริ และหนังสือพิมพ์ประชาชาติธุรกิจ เมื่อวันที่ 11 พ.ย. 2563 ที่ผ่านมานั้น

“ดร.ภากร ปีตธวัชชัย” กรรมการ และผู้จัดการตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ระบุว่า ในอดีตที่ผ่านมาตลาดทุนไทยถูกมองว่าข้อมูล “ไม่น่าเชื่อถือ”

ฉะนั้นโจทย์สำคัญจะทำอย่างไรให้น่าเชื่อถือ จึงมีการจัดทำกฎ ระเบียบต่าง ๆ และถือเป็นจุดเริ่มต้นให้มองเรื่อง Coperate Social Respondsibility หรือการแสดงความรับผิดชอบต่อสังคมของภาคธุรกิจที่มากขึ้น

นอกจากนี้ยังเกิดแนวคิดการดำเนินธุรกิจอย่างยั่งยืน หรือ ESG ในการดูแลสิ่งแวดล้อม สังคม และธรรมาภิบาล ทำให้ทุกส่วนที่เกี่ยวข้อง (Stakholders) มีความเข้าใจมากขึ้นในแง่ของการทำธุรกิจอย่างยั่งยืน โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อเมื่อโลกเปลี่ยน นักลงทุนจึงไม่ได้มองเรื่องการลงทุนเท่านั้น แต่ยังนำ Big Data มาช่วยวิเคราะห์ ว่าจะทำเรื่อง ESG ให้มากขึ้นได้อย่างไร

Advertisment

อีกทั้งยังนำ Big Data มาใช้เปรียบเทียบกับภาคธุรกิจในอุตสาหกรรมเดียวกันว่ามีการดำเนินการด้านความรับผิดชอบต่อสังคมอย่างไร และจากนั้นได้เกิดการ Platform ที่ใช้รวบรวมข้อมูลของบริษัทจดทะเบียนที่ส่งรายงานมาที่ตลาดหลักทรัพย์ฯ

สำหรับ platform ดังกล่าวนั้น ตลาดหลักทรัพย์ฯ มองอยู่ว่ามีความเป็นไปได้หรือไม่ที่จะสามารถใช้เชื่อมโยง องค์กรต่าง ๆ ให้ร่วมมือเชิงข้อมูล เกิดการพัฒนา platform ใหม่ ๆ จะมีความเป็นไปได้หรือไม่ที่เป้าหมายของแต่ละองค์กรมาใช้ Set link ต่อยอดข้อมูลไปจนถึงรายงานประจำปี (Annual Report) ส่งต่อไปนักวิเคราะห์ และนักลงทุน นำไปใช้ประโยชน์ต่อไป

“เรามองไปจนถึงขั้นที่ว่าข้อมูลในระบบจะถูกไปพัฒนาต่อให้เกิดความร่วมมือในรูปแบบการลงทุนร่วมระหว่างรัฐและเอกชน หรือรูปแบบที่เรียกว่า PPP (public private partnership) หรือในรูปแบบอื่นๆ ให้เกิดขึ้นในอนาคต” ดร.ภากร กล่าว