เร่งนายจ้างพาต่างด้าว มติ 13 ก.ค. 64 ทำบัตรชมพู ภายใน 31 มี.ค. 65

แรงงานต่างด้าว

กระทรวงแรงงานเตือนนายจ้างพาคนต่างด้าว 3 สัญชาติ ตามมติ ครม. 13 ก.ค. 64 ดำเนินการตามขั้นตอนให้เสร็จภายในกำหนด เพื่ออยู่ต่อถึง 13 ก.พ. 66 หรือ 2 ปี นับจากวันอนุญาตเดิมสิ้นสุด

วันที่ 3 มีนาคม 2565 นายสุชาติ ชมกลิ่น รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน เปิดเผยว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และพล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ซึ่งกำกับดูแลกระทรวงแรงงาน มุ่งมั่นให้ประเทศไทยบริหารจัดการแรงงานต่างด้าวอย่างเป็นระบบ มีการใช้แรงงานที่ถูกกฎหมาย แก้ปัญหาการขาดแคลนแรงงานในสถานประกอบการให้มีแรงงานขับเคลื่อนกิจการ และเศรษฐกิจของประเทศในยุคหลังวิกฤติโควิด-19 อย่างราบรื่น

โดยเมื่อวันที่ 13 กรกฎาคม 2564 มีมติ ครม. ผ่อนผันให้แรงงานต่างด้าว 3 สัญชาติ (เมียนมา กัมพูชา และลาว) ตามกลุ่มมติ ครม. 20 สิงหาคม 2562, กลุ่มมติ ครม. 4 สิงหาคม 2563, กลุ่มมติ ครม. 10 พฤศจิกายน 2563 และกลุ่มที่ใบอนุญาตทำงานของคนต่างด้าวสิ้นสุดลงเพราะผลของกฎหมาย สามารถอยู่ในราชอาณาจักรเป็นกรณีพิเศษถึง 1 สิงหาคม 2565 โดยต้องดำเนินการตามขั้นตอนที่กำหนดให้แล้วเสร็จ เพื่อจะได้รับอนุญาตให้อยู่ในราชอาณาจักรเพื่อทำงานถึง 13 กุมภาพันธ์ 2566 หรือ 2 ปี นับแต่วันที่การอนุญาตเดิมสิ้นสุด

นายสุชาติกล่าวว่า ขอให้นายจ้างที่จ้างคนต่างด้าวตามมติ ครม. เมื่อวันที่ 20 สิงหาคม 2562 และมติ ครม. เมื่อวันที่ 4 สิงหาคม 2563 พาแรงงานที่ประสงค์จะทำงานต่อถึงวันที่ 13 กุมภาพันธ์ 2566 ยื่นคำขอต่ออายุใบอนุญาตทำงานก่อนใบอนุญาตทำงานสิ้นอายุ หรือภายในวันที่ 31 มีนาคม 2565

“หากไม่สามารถยื่นภายในระยะเวลาที่กำหนด และประสงค์จะทำงานต่อขอให้ยื่นคำขออนุญาตทำงานภายใน 60 วัน นับแต่วันที่ใบอนุญาตทำงานสิ้นอายุ โดยในช่วงใบอนุญาตทำงานสิ้นอายุจะไม่สามารถทำงานได้ ให้แรงงานเริ่มทำงานได้อีกครั้งต่อเมื่อได้รับใบอนุญาตทำงานฉบับใหม่แล้ว

นอกจากนี้แรงงานต่างด้าวตามมติ ครม. เมื่อวันที่ 4 สิงหาคม 2563 ที่ยังไม่ได้จัดทำหรือปรับปรุงทะเบียนประวัติฯ และรับบัตรประจำตัวคนซึ่งไม่มีสัญชาติไทย (บัตรชมพู) ให้ดำเนินการให้แล้วเสร็จภายในวันที่ 31 มีนาคม 2565 หากไม่ดำเนินการภายในกำหนดการอนุญาตให้ทำงานและอยู่ในราชอาณาจักรจะสิ้นสุด

ส่วนคนต่างด้าวตาม MOU ที่ระยะเวลาการจ้างงานครบ 4 ปี (มติ ครม. 10 พฤศจิกายน 2563) หากประสงค์ทำงานต่อให้ขอใบอนุญาตทำงาน ภายในวันที่ 1 สิงหาคม 2565 ซึ่งคนต่างด้าวจะทำงานได้เมื่อได้รับใบอนุญาตทำงานฉบับใหม่ ”

ด้านนายไพโรจน์ โชติกเสถียร อธิบดีกรมการจัดหางาน กล่าวว่า สำหรับกลุ่มแรงงานต่างด้าวตามมติ ครม. 4 สิงหาคม 2563 ที่ยังไม่ได้จัดทำหรือปรับปรุงทะเบียนประวัติฯ และรับบัตรประจำตัวคนซึ่งไม่มีสัญชาติไทย เป็นกลุ่มที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงานห่วงใยที่สุด เพราะหากไม่ดำเนินการจัดทำหรือปรับปรุงทะเบียนประวัติฯ ให้เสร็จสิ้นภายใน วันที่ 31 มีนาคม 2565 การอนุญาตให้อยู่ในราชอาณาจักรเพื่อทำงานจะสิ้นสุดทันที

“โดยขณะนี้ยังมีแรงงานต่างด้าวที่ต้องดำเนินการให้แล้วเสร็จฯ ประมาณ 11,000 คน ซึ่งเมื่อดำเนินการตามขั้นตอนแล้ว หากประสงค์ทำงานต่อไปจนถึงวันที่ 13 กุมภาพันธ์ 2566 จะต้องดำเนินการขอหนังสือเดินทางหรือเอกสารใช้แทนหนังสือเดินทางฉบับใหม่กรณีเอกสารเดิมหมดอายุ ภายใน 1 สิงคมหา 2565”

กรมการจัดหางานเตือนนายจ้างสถานประกอบการและแรงงาน 3 สัญชาติว่า กรมการจัดหางานมีหน้าที่ตรวจสอบ ควบคุม และกำกับดูแลการทำงานของคนต่างด้าว หากตรวจพบการฝ่าฝืนกฎหมาย นายจ้างที่จ้างคนต่างด้าวที่ไม่มีใบอนุญาตทำงาน หรือให้คนต่างด้าวทำงานนอกเหนือจากที่มีสิทธิจะทำได้ มีโทษปรับตั้งแต่ 10,000-100,000 บาทต่อคนต่างด้าวที่จ้างหนึ่งคน

หากกระทำผิดซ้ำต้องมีโทษจำคุกไม่เกิน 1 ปี หรือปรับตั้งแต่ 50,000-200,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ และห้ามจ้างคนต่างด้าวทำงานเป็นเวลา 3 ปี ในส่วนคนต่างด้าวที่ทำงานโดยไม่มีใบอนุญาตทำงานหรือทำงานนอกเหนือจากที่มีสิทธิจะทำได้ จะมีโทษปรับตั้งแต่ 5,000-50,000 บาท และถูกผลักดันส่งกลับ